พลิกตำนานทุ่งดอนเมือง แม่ทัพฟ้าคนใหม่ กลางดงข่าวลือ จับตา ‘บิ๊กบี้’ วัดพลัง ‘คอแดง-อาร์มดำ’ จัดทัพ ทบ.-แม่ทัพ 1

 

ด้วยเพราะความอาถรรพ์ของทุ่งดอนเมือง ที่เต็มไปด้วยตำนานความขัดแย้ง แตกขั้วของบรรดาเสืออากาศ จึงทำให้การแต่งตั้ง ผบ.ทอ.คนใหม่ ถูกจับจ้องว่า จะต้องมีการพลิกโผ เซอร์ไพรส์เกิดขึ้น

เพราะตั้งแต่ยุคที่ พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ แหวกแนว เลือกบิ๊กแอร์ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ จากกรุผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. ขึ้นมาเป็น ผบ.ทอ. แต่ก็ขัดแย้งกันเอง ไม่ทำตามที่ พล.อ.อ.มานัต ต้องการ จน พล.อ.อ.แอร์บูล แหวกแนวไปเลือกบิ๊กป้อง พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ เพื่อน ตท.21 ขึ้นเป็น ผบ.ทอ. พร้อมดันบิ๊กตุ๊ด พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ น้องรัก ตท.22 จากปลัดบัญชี ทอ. ขึ้นมาเป็น ผช.ผบ.ทอ.

จนที่สุด พล.อ.อ.นภาเดช ก็ทำตาม “สัญญาใจ” ที่มีกับ พล.อ.อ.แอร์บูล เลือก พล.อ.อ.อลงกรณ์ ฝ่าดงนักบินเอฟ 16 ขึ้นเป็น ผบ.ทอ. แบบพลิกความคาดหมาย เพราะไม่ได้เป็นนักบินขับไล่ ไม่ได้เติบโตมาในสายกำลังรบ ไม่เคยเป็นผู้การกองบิน หรือผู้ช่วยทูตทหาร

เรียกได้ว่า ฉีกทุกธรรมเนียม ทอ. ด้วยเพราะสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัวกับครอบครัวธูปะเตมีย์อีกด้วย

พล.อ.อ.อลงกรณ์ ขึ้นมาเป็น ผบ.ทอ. พร้อมๆ กับสัญญาใจ และสูตรอำนาจ “ป้อง-ตุ๊ด-ณะ” เป็นกันคนละปี พล.อ.อ.นภาเดช วางตัวบิ๊กณะ พล.อ.อ.ณรงค์ อินทชาติ เสธ.ทอ. รุ่นน้อง ตท.23 ที่เคยอยู่กองบิน 1 มาด้วยกัน เป็น ผบ.ทอ.คนใหม่

ในห้วงเกือบ 1 ปีที่ พล.อ.อ.อลงกรณ์ เป็น ผบ.ทอ. พล.อ.อ.ณรงค์ ก็ถูกจับตามองว่าจะเป็น ผบ.ทอ.คนต่อไปมาตลอด

แต่ พล.อ.อ.อลงกรณ์ ก็ชี้เป้าไปที่บิ๊กจ๋า พล.อ.อ.พงษ์สวัสดิ์ จันทสาร ผช.ผบ.ทอ. ว่า คนนี้ก็เป็นแคนดิเดต ผบ.ทอ. แถมยังได้มอบหมายงานสำคัญให้ดูแลหลายเรื่อง โดยเฉพาะแผนการ รปภ.ฐานบิน และ กทม. ในช่วงประชุมเอเปค

ขณะที่ก็มีกระแสข่าวลือโจมตี พล.อ.อ.ณรงค์ มาตลอดเช่นกัน และร่ำลือกันใน ทอ.ว่า พล.อ.อ.นภาเดช วางตัว พล.อ.อ.พงษ์สวัสดิ์ ไว้เป็นคู่ชิง ผบ.ทอ.อีกคน

แต่ในโค้งสุดท้ายของการจัดทำโผโยกย้ายทหาร 2566 นี่เอง ที่เป็นครั้งแรกที่เกิดข่าวสะพัดใน ทอ. หลากหลายถึง ผบ.ทอ.คนใหม่ เพราะแคนดิเดตมีหลายคน และทุกคนล้วนเป็น ผบ.ทอ.ได้ทั้งสิ้น

รวมทั้งกระแสข่าวบิ๊กป้อม พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ รองปลัดกลาโหม จะได้กลับมาเป็น ผบ.ทอ. เพราะถูกเตะออกไปหลายครั้ง จากรอง เสธ.ทอ. ข้ามไปเป็นรอง เสธ.ทหาร ที่ บก.กองทัพไทย ก่อนที่จะได้กลับมาเป็นรอง ผบ.ทอ. แต่แล้วก็โดนเตะข้ามไปเป็นปลัดกลาโหม โดยผองเพื่อน ตท.22 เรียกร้องความเป็นธรรมให้ ด้วยการไปเจรจากับ พล.อ.อ.อลงกรณ์ ที่ก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.22 ให้คืนความชอบธรรมให้ พล.อ.อ.ธนศักดิ์

กระแสข่าวนี้สะพัดกลาโหม หลังการประชุมสภากลาโหมเมื่อ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด เดินนำแถว ผบ.เหล่าทัพ เดินตามบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แล้วทยอยเข้าห้อง ปิดประตูเข้าพบทีละคน โดยมี พล.อ.อ.อลงกรณ์ เข้าหารือเป็นคนสุดท้าย

แต่มีกระแสข่าวที่สะพัดใน ทอ.อีกว่า มีการเปลี่ยนโผ เปลี่ยน ผบ.ทอ. เป็นชื่อของบิ๊กไก่ พล.อ.อ.พันธุ์ภักดี พัฒนกุล ผช.ผบ.ทอ. น้องเล็ก ตท.24 ที่มีอายุราชการถึง 2568 มาแรงแซงโค้ง ขึ้นเป็น ผบ.ทอ.เลย เพราะบิ๊กไก่ก็เป็นแคนดิเดตที่โลว์โปรไฟล์ ไม่ขอแข่งแย่งชิง

ขณะที่กระแสข่าวลือในทำเนียบรัฐบาล และคนการเมือง กลับเป็นชื่อของบิ๊กหนึ่ง พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา รอง ผบ.ทอ. แกนนำ ตท.23 ที่ไม่มีใครปฏิเสธในเรื่องความรู้ความสามารถ ความเหมาะสมได้เลย แถมอาวุโส เพราะครองอัตราจอมพล

เส้นทางเติบโตของ พล.อ.อ.ชานนท์ น่าจับตามอง ตั้งแต่การแต่งตั้งโยกย้ายกันยายน 2565 ที่ใครๆ ก็คิดว่าจะถูกเด้งจาก ผช.ผบ.ทอ. ข้ามไปเป็นรองปลัดกลาโหม หรือรอง ผบ.ทหารสูงสุด แต่กลับได้อยู่ใน 5 เสืออากาศต่อ แถมขึ้นเป็นรอง ผบ.ทอ.อีกด้วย

ครั้งนั้น มีการวิเคราะห์เหตุผลกันว่า เพราะ พล.อ.อ.นภาเดช ต้องการให้อยู่ช่วยงานด้านยุทธการ พล.อ.อ.อลงกรณ์ ที่ไม่ได้เติบโตมาในสายกำลังรบ อีกทั้งเพื่อยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ยุค พล.อ.อ.มานัต กับ พล.อ.อ.แอร์บูล

ดังนั้น ก็เป็นแคนดิเดตคนสำคัญที่ไม่อาจมองข้าม ยิ่งในยามที่กำลังจะมีการเปลี่ยนนายกฯ เปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยน รมว.กลาโหมคนใหม่เช่นนี้

แต่ที่น่าจับตาคือ การหารือของ พล.อ.ประยุทธ์ กับ ผบ.เหล่าทัพแต่ละคนที่กลาโหม วันนั้นขาดบิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ที่ไม่ได้ร่วมประชุมสภากลาโหม และไม่ได้หารือแบบโฟร์-อายส์ กับบิ๊กตู่ เพราะเพิ่งเดินทางกลับจากเยือน ทบ.อินโดนีเซีย

เพราะบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารของ ทบ. ดูจะเป็น ดิ อันทัชเอเบิล เพราะ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จัดโผแบบลับที่สุด โดยเฉพาะตำแหน่งที่เป็นนายทหารคอแดง และหน่วยคอแดง

ด้วยเหตุที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ เป็น ผบ.ทบ.คอแดง ที่ควบ ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ด้วย โผโยกย้ายในส่วนของ ทบ. จึงเป็นเขตปลอดการเมือง การจัดโผของ ทบ. จึงต้องผ่านอีกแชนแนลหนึ่ง

จึงไม่แปลกที่โผ ทบ.จะรั่วไหลยาก เพราะนอกจากเป็นที่รู้กันภายในว่า บิ๊กต่อ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ รอง ผบ.ทบ. จะขึ้นเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่แล้ว ข่าวอื่นก็ยังเงียบ

แต่มีการคาดการณ์กันว่า บิ๊กโต พล.อ.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง ผช.ผบ.ทบ. แคนดิเดต ผบ.ทบ.อีกคนที่เป็นเพื่อน ตท.23 ด้วยกัน ที่จะขึ้นเป็นรอง ผบ.ทบ. ครองอัตราจอมพล รอเกษียณพร้อมกัน “2 ต. ต่อ-โต”

ที่น่าจับตาคือ โผนี้ ทบ. จะเสียอัตราไป 1 ที่ คือ ไม่ต้องส่งนายทหารยศพลเอกไปเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด เพราะรองอ๊อบ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รอง ผบ.ทหารสูงสุด ที่ข้ามมา บก.ทัพไทย ในโควต้าของ ทบ. ได้ขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุดคนใหม่ ก็ต้องปิดโควต้า ทบ. แต่ให้นายทหารยศพลเอกใน บก.ทัพไทย ขึ้นเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด ทั้ง 2 เก้าอี้ ที่เป็นเครื่องแบบเขียว เพราะรอง ผบ.ทหารสูงสุด มีทั้งหมด 4 คน เป็นโควต้าทหารเรือและทหารอากาศ และเหล่าทหารบก 2 คน สำหรับพลเอกใน บก.ทัพไทย เพื่อให้คนในมีตำแหน่งอัตราจอมพลรองรับ และมาจากกองทัพบก เพื่อไว้แก้ปัญหาการโยกย้ายที่ไม่ลงตัว

แต่ที่แน่ๆ คือ แม่ทัพปู พล.ท.พนา แคล้วปลอดทุกข์ แม่ทัพภาคที่ 1 จะขึ้นเป็นพลเอก ผู้ช่วย ผบ.ทบ. เพื่อมาจ่อคิวเป็น ผบ.ทบ. ต่อจาก พล.อ.เจริญชัย ที่จะเกษียณกันยายน 2567 หลังจากที่เชื่อกันว่ามีสัญญาณไฟเขียวให้ฟาสต์แทร็ก จากรองแม่ทัพภาคที่ 1 และไปฝึกหลักสูตรทหารคอแดง แล้วก็ขึ้นเป็นพลโท แม่ทัพภาคที่ 1 เลย เพราะถูกมาร์กชื่อไว้แล้วว่าจะเป็น ผบ.ทบ.ในอนาคต และเกษียณกันยายน 2570 เลยทีเดียว ที่จะเป็นช่วงเวลาที่จะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่พอดี

ดังนั้น จึงให้จับตาการเดินหมากของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ เพราะใน 5 เสือ ทบ. จะเหลือแค่ ผช.ผบ.ทบ.อีกเก้าอี้เดียว เพราะคาดว่า บิ๊กหยอย พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ เสธ.ทบ. จะนั่งที่เดิม

คาดว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ จะวางแคนดิเดตให้ทำงานแข่งกับ พล.ท.พนา ไว้อีกคนหนึ่ง หากเก้าอี้นี้เป็นโควต้านายทหารคอเขียว ก็จะมีบิ๊กต้น พล.ท.ณัฐวุฒิ นาคะนคร ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ผบ.นสศ.) จาก ตท.24 ที่นั่งมาแล้ว 2 ปี ที่ตามไลน์ต้องขึ้น 5 เสือ ทบ. และด้วยการเป็นดาวรุ่งในสายรบพิเศษ และมีความแข็งแกร่ง สมาร์ต แบบทหารรบพิเศษ หากขึ้นมา จะถือว่าเป็นคู่แข่งที่น่าเกรงขามของ พล.ท.พนา ที่เป็นรุ่นน้อง ตท.26 เลยทีเดียว เพราะแม้จะยังไม่ใช่นายทหารคอแดง แต่ก็อาจได้รับการคัดเลือกให้ไปฝึกหลักสูตรคอแดงก็เป็นได้ เพราะ นสศ. ก็มีกรมรบพิเศษที่ 3 ที่เป็นทหารรักษาพระองค์ (รอ.)

ส่วนทหารคอเขียว ที่สามารถขึ้น 5 เสือ ทบ.ได้อีกคน อย่างบิ๊กชาย พล.ท.วสุ เจียมสุข ผบ.หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) ที่เป็นน้องรักของ พล.อ.ประยุทธ์ เคยเป็นทีมตึกไทยคู่ฟ้า และอีกทั้งมีหลังบ้านที่แข็งแกร่ง แต่ก็เป็นรุ่นน้อง ตท.25

แต่ที่จะเป็นหมากสำคัญ คือ บิ๊กหนุ่ย พล.ท.ธราพงษ์ มะละคำ ที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. จาก ตท.24 ที่เป็นทหารคอแดงสายบูรพาพยัคฆ์ ที่เจอผลกระทบจากปฏิบัติการฟาสต์แทร็ก ที่ต้องหลบทางให้ พล.ท.พนา ขึ้นแม่ทัพภาคที่ 1 ในโผที่แล้ว ก็ถือว่าเป็นแคนดิเดต 5 เสือ ทบ.อีกคน เพราะไม่เช่นนั้น ก็อาจถูกส่งข้ามไปเป็นรองปลัดกลาโหม ที่ ทบ.มีโควต้าอยู่

แต่ก็จะสะเทือนแผงอำนาจที่กลาโหมได้ เพราะคาดว่า บิ๊กหนุ่ม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกลาโหม ที่จะนั่งยาว 3 ปียันเกษียณกันยายน 2568 ได้วางตัวบิ๊กปั้น พล.อ.ไพบูลย์ วรวรรณปรีชา ผอ. สำนักนโยบายและแผนกลาโหม เพื่อนรัก ตท.24 ที่จะเป็นปลัดกลาโหมคนต่อไป

เพราะหาก พล.อ.ธราพงศ์ ที่เป็นทหารคอแดง ข้ามมากลาโหม ก็จะกลายเป็นแคนดิเดตปลัดกลาโหม เพราะเกษียณ 2569 แถมการเป็นทหารคอแดง จะสะเทือน และทำให้หวาดหวั่นกันว่า ทหารคอแดงจะมายึดกลาโหม

หรือจะส่งไปเป็นเสนาธิการทหาร แทนบิ๊กจ่อย พล.อ.ธิติชัย เทียนทอง ที่จะขยับขึ้นรอง ผบ.ทหารสูงสุด ก็เป็นการกินโควต้าของคนในทัพไทยอีก ทั้งด้วยการเป็นทหารคอแดง แถมเกษียณ 2569 ก็อาจเกิดความหวาดหวั่นอีกว่า เป็นทหารคอแดงที่จะมารอจ่อเป็น ผบ.ทหารสูงสุดคอแดงคนที่ 3 อีก

จนมีข่าวว่าจะให้ พล.อ.ธราพงศ์ นั่งที่เดิม เพราะถ้าจะให้นั่งประธานที่ปรึกษา ทบ. ครองอัตราจอมพล แขวนไว้เลย แต่ก็จะอาวุโสมากกว่าแคนดิเดตคนอื่นๆ อีก จึงเป็นหมากตัวที่ยากจะเดิน

แต่ที่ร้อนสุดของ ทบ. คือ แม่ทัพภาคที่ 1 คนใหม่ หลังมีข่าวว่า บิ๊กปู พล.ท.พนา แคล้วปลอดทุกข์ แม่ทัพภาคที่ 1 จะเสนอชื่อแม่ทัพรุ่ง พล.ท.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ แม่ทัพน้อยที่ 1 เพื่อนรัก ตท.26 เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คนใหม่ ก็เกิดแรงกระเพื่อมใน ทบ.

เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า แคนดิเดตที่มีโอกาสมากกว่า คือรองแม่ทัพภาคที่ 1 ทั้งรองใหญ่ พล.ต.อมฤต บุญสุยา (ตท.27) จากสายทหารเสือราชินี ร.21 รอ. น้องรัก พล.อ.ประยุทธ์ กับรองไก่ พล.ต.วรยส เหลืองสุวรรณ และรองกอล์ฟ พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ จาก ตท.28

แต่คนใน ทบ. ให้น้ำหนักระหว่าง พล.ต.วรยส กับ พล.ต.สราวุธ เพื่อนกันที่จะต้องชิงกันเองมากกว่า ที่ผองเพื่อนก็เสียงแตก เพราะกองหนุนก็มองว่า พล.ต.วรยส เกษียณ 2571 ควรขึ้นก่อน พล.ต.สราวุธ ที่เกษียณ 2573

ด้วยเพราะเก้าอี้แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นก้าวสำคัญที่จะขึ้นเป็น 5 เสือ ทบ. และ ผบ.ทบ.ในอนาคต ใครได้เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ก็มีโอกาสเป็น ผบ.ทบ.ก่อน

แต่คนที่ตัดสินใจคือ พล.อ.ณรงค์พันธ์ และยากที่ใครจะกดดัน เพราะมีความเป็นตัวของตัวเองสูง อันสะท้อนให้เห็นตลอดสามปีที่เป็น ผบ.ทบ.มา

แต่ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ ต้องการให้แม่ทัพภาคที่ 1 ทำงานต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมาแม่ทัพภาค 1 มักเป็นแค่ปีเดียวก็ขึ้น 5 เสือ ทบ.

ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ พอใจการทำงานของ พล.ต.สราวุธ และอาจดันขึ้นแม่ทัพภาคที่ 1 เลย เพื่อเตรียมจ่อขยับขึ้นต่อคิว พล.ท.พนา ที่โผโยกย้ายนี้จะขึ้น 5 เสือ ทบ. เป็น ผช.ผบ.ทบ. เพื่อเตรียมเป็น ผบ.ทบ.ต่อจากบิ๊กต่อ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ รอง ผบ.ทบ. ที่จะขึ้นเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่ และจะเกษียณ 2567

เวลานี้ ทุกสายตาจึงโฟกัสมาที่สวนมิสกวัน ว่า พล.ต.วรยส กับ พล.ต.สราวุธ ใครจะเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และอีกคนก็จะเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1

จนมีการสะกิดกันว่า ตท.28 ชิงกันเอง ให้ระวังว่าหวยจะออกที่ ตท.26 และ ตท.27

 

จับตาการส่งท้ายเก้าอี้นายกฯ และ รมว.กลาโหม ของ พล.อ.ประยุทธ์ ทหารเสือราชินีเก่าว่าจะไว้ลาย จัดกองทัพเพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคตได้สำเร็จตามแผนหรือไม่ เพราะตราบใดที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ไม่เอาด้วย ก็ต้องมีรายการวัดพลังกันเกิดขึ้น

ในขณะที่ประยุทธ์กำลังจะหมดอำนาจ พ้นจากเก้าอี้นายกฯ และ รมว.กลาโหม หลังแพ้เลือกตั้งและประกาศวางมือทางการเมืองแล้ว

ส่วน พล.อ.ณรงค์พันธ์ นอกจากจะเป็นทหารคอแดงแล้ว ยังติด “อาร์มดำ” อีกด้วย อำนาจยังมี เพราะนั่ง ผบ.ทบ. และ ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 นานถึง 3 ปี

และคาดกันว่า หลังเกษียณ ก็จะมีตำแหน่งสำคัญรองรับ

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022