พลิกข้ามสาย ย้ายข้ามขั้ว | จรัญ พงษ์จีน

จรัญ พงษ์จีน

“ศัตรูที่กลายเป็นมิตร จะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด…มิตรที่กลายเป็นศัตรู จะเป็นศัตรูที่น่ากลัวที่สุด” ขอยกบทเรียนที่ “โจโฉ” เคยว่าไว้ใน “สามก๊ก” มาบรรยายสรรพคุณ ฉายซ้ำอีกครั้ง

“ศัตรูคือคู่ต่อสู้ที่เกลียดชังกัน จะฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่งในสมัยนั้น กลับกลายเป็นมิตรในวันนี้ จะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ขณะที่มิตรที่เคยรักกัน ห่วงใยดั่งพี่น้องร่วมสายเลือด ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมายาวนาน ถ้ากลายเป็นศัตรู จะเป็นศัตรูที่อันตราย และน่ากลัวที่สุด เพราะรู้ไส้รู้พุง รู้ความลับ ความคิดอ่าน รู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เพื่อนคนหนึ่งจะรู้ได้ จึงถือเป็นศัตรูที่น่ากลัว และอันตรายที่สุด กว่าศัตรูที่เราเคยเจอมา”

คำจำกัดความ นิยามข้างต้น เข้ากับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยในช่วงนี้มาก ที่นักเลงเลือกตั้ง ต่างพากัน “ปรับตัวได้ดี ปรับสีได้ยอดเยี่ยม” พลิกข้ามสาย ย้ายข้ามขั้ว ไม่รู้ใครอยู่ข้างไหน สีอะไร พรรคการเมืองใดเครือข่ายฝั่งยุติธรรม ผดุงประชาธิปไตย-ขั้วเผด็จการ-สมุนผู้สืบทอดอำนาจ

ศัตรูกับศัตรู คู่อริเก่า จูบปาก ผสมพันธุ์ คลอดลูกออกมาเป็นมิตร สรุป การเมืองไทยไม่มีอะไรเที่ยง-ไม่มีทั้งมิตร และศัตรูที่ถาวร

กลับไปที่ข่าวฮอต สายๆ วันที่ 25 กรกฎาคม “นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีคำสั่งเคาะออกมาเป็นที่เรียบร้อย งดการประชุมรัฐสภา ในวันที่ 27 กรกฎาคม ออกไปก่อน หลังได้ประชุมร่วมกับฝ่ายกฎหมายสภา

เพราะเกรงว่าจะทำให้กรณีที่ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งเรื่องให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัยข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 41 จะได้ไม่มีข้อขัดแย้งกัน หากมีคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญออกมาในภายหลัง โดยจะเลื่อนไปประชุมวันไหน จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

ทั้งนี้ ในวันดังกล่าว “นายวันนอร์” นัดประชุมสมาชิกรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3 แต่ก่อนหน้านี้ ทาง “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการลงมติของรัฐสภา ห้ามเสนอชื่อคนเดิมเป็นนายกฯ ซ้ำ เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพ ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญว่าด้วยการแต่งตั้งนายกฯ หรือไม่ และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้รัฐสภาเลื่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีออกไปก่อนจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย

ในวันเดียวกัน จิ๊กซอว์สำคัญในการฟอร์มรัฐบาล คือ “พรรคเพื่อไทย” เล่นไพ่ “อมสเปโต” ไม่รู้ไอโฟน 14 เสียหรือไงมิทราบ แจ้งข้อความผ่านทางไลน์ ถึงมิตรสหายร่วมอุดมการณ์เก่า 8 พรรค ที่ชักตะพานแหงนรออยู่ ยกเลิกการประชุม ที่กำหนดไว้ตอนบ่ายวันที่ 26 กรกฎาคม ออกไปก่อนเช่นเดียวกัน

 

ดังที่ทราบ “พรรคเพื่อไทย” หลังได้รับมอบหมายโรเตชั่นให้เป็นเจ้าภาพฟอร์มรัฐบาลจาก “ก้าวไกล” ยังไม่ทันข้ามคืนเลย วิญญาณเก่าเหมือนจะหลุดออกจากร่าง เสนอ แสดง มีมุมมอง ด้วยตรรกะแปลกๆ

สะท้อนผ่าน “หมอชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรค ที่เดินสายออกรายการสัมภาษณ์สดสื่อทีวี และที่ทำเอาแฟนคลับตะลึง พากันตกเก้าอี้ ที่ไปแสดงวิสัยทัศน์ว่า “ถ้าเทียบคะแนนกัน เขา (ฝั่งรัฐบาลเก่า) 188 เสียง เขาเป็นอันดับ 1 ในสภานะครับ ก้าวไกล 151 อันดับ 2 เพื่อไทย 141 อันดับ 3 นะครับ”

ทั้งนี้ “นพ.ชลน่าน” ขยายความในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ว่า อำนาจจากประชาชน ยังไม่มีใครได้รับเด็ดขาด ถ้าพรรคหนึ่งพรรคใดได้ 251 ขึ้น ทุกอย่างมันจบ แต่มีพี่น้องประชาชนอีกส่วนหนึ่ง เราหมายถึงพรรคเสรีประชาธิปไตย โดยผมวัดคะแนน ถ้าเราไล่เรียงกัน ของเขา 10 พรรคมัดกันแน่น ถ้ารวมเป็นหนึ่งพรรค 188 เสียง ก้าวไกล อันดับ 2 เพื่อไทยอันดับ 3 จึงลำบากสักนิด

“หมอชลน่าน” ซึ่งก่อนหน้านี้ การอภิปรายดูทรงภูมิ บทบาทสมาร์ต สง่างาม คุณลักษณะ ภาวะอันเป็นเนื้อแท้ของผู้นำยอดเยี่ยม แต่ดอกนี้ดอกเดียว “หมอชลน่าน” มีสภาพไม่ต่างไปจาก “ปลาหมอชนเขื่อน” เสียศูนย์ เสียทรงมากพอประมาณ

ทัวร์จีนลง ระดับมาชาร์เตอร์ ขนกันมาเต็มลำ เครดิตบกพร่องไปหลายขีด โชคดีที่มีแต้มบุญ เพื่อนฝูงเก่า ยั้งไม้ยั้งมือ ไม่ซ้ำเติมกันหนักมือ คนเราผิดพลาดกันได้ทุกคน

สรุปสถานการณ์ต่อจากนี้ กรณีที่ “นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีคำสั่งงดการประชุมเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม สอดรับกับที่ “พรรคเพื่อไทย” แกนนำฟอร์มรัฐบาล ยกเลิกการประชุมกับ 8 พรรคพันธมิตร แจ้งให้ทราบอย่างปัจจุบันทันด่วน ผ่านทางไลน์

จะบรรจบพบกันอีกครั้ง คือ “วันนอร์” จะกดปุ่มเรียกประชุม “รัฐสภา” คือ 2 สภารวมกัน 750 คนในวันที่ 9 สิงหาคม และ “พรรคเพื่อไทย” เจ้าภาพจงเจริญ จะสั่นกระดิ่ง ขับเคลื่อนให้มีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3

แคนดิเดตนายกฯ จากเพื่อไทย คนที่ 2 ชื่อ “นายเศรษฐา ทวีสิน” เข้าวิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย โดยมีพรรคร่วมประกอบด้วย “เพื่อไทย+ภูมิใจไทย+พลังประชารัฐ+รวมไทยสร้างชาติ+ชาติไทยพัฒนา+ประชาชาติ+5 พรรคเล็ก” รวมศิโรราบ 312

เมื่อมีทั้ง “พลังประชารัฐ+รวมไทยสร้างชาติ” โดยถีบส่งก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้านลงเรือลำเดียวกับประชาธิปัตย์แล้ว “เศรษฐา” ก็ผงาดยึดตึกไทยคู่ฟ้าได้ง่าย คาดว่า “ส.ว.” ทั้งค่าย-เครือข่าย “ลุงตู่-ลุงป้อม” เทคะแนนให้ท้น ยอดทะลุ 376 เสียงสบายบรื๋อ

ช่วงเข้าด้ายเข้าเข็ม “เศรษฐา 1” ถัดอีกวันเดียว 10 สิงหาคม ทาง “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ตีกรรเชียงมาแพ็กกระเป๋าอยู่เกาะฮ่องกง จะเดินทางกลับประเทศไทย ลงที่สนามบิน “ใกล้ดอนเมือง”

“ทักษิณ” กลายเป็นคนแดนไกล พลัดที่นาคาที่อยู่มา 17 ปีแล้ว กลับบ้านเกิดเมืองนอน ในช่วงรัฐบาลรักษาการของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ที่เคยยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”

กับบทสรุป “ศัตรูที่กลายเป็นมิตร”