ผู้ชายก็กังวลเรื่องรูปร่างของตัวเอง

พิศณุ นิลกลัด

คลุกวงใน | พิศณุ นิลกลัด

Facebook : @Pitsanuofficial

 

ผู้ชายก็กังวลเรื่องรูปร่างของตัวเอง

 

ดารา นักร้องสมัยนี้ นิยมเข้าฟิตเนสออกกำลังกายเพื่อลดไขมัน สร้างกล้ามเนื้อให้ดูดี และมักจะโพสต์โชว์รูปร่างทางโซเชียลมีเดีย

มีการทำโพลที่น่าสนใจโดยมหาวิทยาลัย Western Illinois University ของสหรัฐอเมริกา ว่ากล้ามส่วนไหนของร่างกายผู้ชาย ที่ผู้หญิงเห็นว่าเซ็กซี่ที่สุด

ผลจากการทำโพลออกมาดังนี้…

อันดับ 6 สะโพก

อันดับ 5 กล้ามแขนส่วนหลัง (Tricep)

อันดับ 4 กล้ามสีข้าง (Obliques)

อันดับ 3 กล้ามอก

อันดับ 2 กล้ามแขน (Bicep)

อันดับ 1 กล้ามหน้าท้อง

การที่เห็นดารา นักร้อง นักกีฬากล้ามโต รูปร่างฟิตเปรี๊ยะอยู่เสมอ สร้างความกดดันให้กับผู้ชายทั่วไปสมัยนี้

 

ที่ประเทศอังกฤษ มีการทำโพลการศึกษาเรื่องผู้ชายกับความหล่อ พบว่าผู้ชายสมัยนี้กังวลกับการดูแลรูปร่างพอๆ กับผู้หญิง โดยอยากมีกล้ามใหญ่ ไร้ไขมัน

จากการทำการทำโพลของ YMCA และมหาวิทยาลับ Bristol University ของประเทศอังกฤษ ทำการสำรวจผู้ชายอังกฤษ 384 คน มีอายุเฉลี่ย 40 ปี

พบว่าผู้ชายอังกฤษ 75% คิดถึงเรื่องรูปร่าง หน้าตาของตัวเองมากกว่า 5 ครั้งต่อวัน

ไม่ใช่เฉพาะผู้หญิงที่บ่นเรื่องรูปร่างของตัวเองกับคนใกล้ตัวอย่างที่คนทั่วไปเข้าใจ

สมัยนี้ผู้ชายก็ปรับทุกข์เรื่องรูปร่างเช่นกัน โดย 80% ยอมรับว่าบ่นเรื่องรูปร่างกับคนใกล้ตัวอยู่เป็นประจำ

17% บอกว่าทุกวันรู้สึกกลุ้มใจว่าทำไมตัวเองอ้วนเหลือเกิน

ที่น่าตกใจก็คือ 35% บอกว่ายอมมีอายุขัยสั้นลง 1 ปี เพื่อแลกกับการมีรูปร่างที่ตัวเองพอใจ

 

จากการสำรวจพบว่า อวัยวะของร่างกายที่ผู้ชายอังกฤษไม่พอใจในตัวเองที่สุดคือ พุง

80% เห็นว่าตัวเองพุงใหญ่เกินไป รองลงมาคือ กล้ามแขน และกล้ามหน้าอก

63% เห็นว่าตัวเองกล้ามแขนและกล้ามหน้าอกยังไม่บึ้กพอ

แม้ผู้ชายอังกฤษส่วนใหญ่จะไม่พอใจในรูปร่างของตัวเอง แต่เป็นเพียงส่วนน้อยที่หันมาควบคุมอาหารควบคู่กับการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก

เพียง 18% บอกว่าพยายามกินนอาหารที่มีโปรตีนสูงเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ

16% บอกว่านับแคลอรีของอาหารที่กินเพื่อลดน้ำหนัก

นักจิตวิทยากล่าวว่า ความไม่พอใจในรูปร่างของตนเอง อยากมีกล้ามโต กล้ามท้องเป็นมัดแบบคนดัง จะทำให้ตัวเองไร้สุข อาจก่อให้เกิดความเครียด หรือมีอาการซึมเศร้าได้

การนั่งบ่นรำพึงรำพันไม่ช่วยให้เรามีร่างกายที่แข็งแรงหรือมีรูปร่างอย่างที่เราต้องการ มีแต่ต้องเริ่มลุกขึ้นมาออกกำลังกายเท่านั้น

 

สถานออกกำลังหรือยิมอย่างที่เห็นในปัจจุบัน มีประวัติความเป็นมาเมื่อหลายพันปีก่อน

ย้อนไปเมื่อ 3,000 กว่าปีก่อน สมัยกรีกโบราณ ยิมเนเซียม (Gymnasium) เป็นลานออกกำลังกลางแจ้งของผู้ชายที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และเป็นสถานที่แข่งขันประลองความแข็งแกร่งของร่างกาย

ยิมเนเซียม มีรากศัพท์มากจากคำว่า ยิมนอส (Gymnos) ซึ่งแปลว่าเปลือย ในภาษากรีก

ผู้ชายที่เข้าไปออกกำลังในยิมเนเซียมนั้นจะเปลือยกายออกกำลัง เพราะถือว่าร่างกาย กล้ามเนื้อ เป็นสิ่งสวยงามและเป็นการแสดงความขอบคุณพระเจ้าที่ประทานชีวิตให้

 

สําหรับฟิตเนส สถานที่ออกกำลังในร่ม มีอุปกรณ์ต่างๆ ให้ออกกำลัง มีจุดเริ่มต้นจากประเทศเยอรมนีราวปี ค.ศ.1800 โดยสมัยนั้น เยอรมนีใช้ฟิตเนสเป็นการสร้างความรักชาติ โดยมีความเชื่อที่ว่าร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงจะช่วยทำให้คนในประเทศรักชาติ

อุปกรณ์ในฟิตเนสของเยอรมนีเมื่อ 200 ปีก่อนโน้นคล้ายกับอุปกรณ์ที่นักยิมนาสติกในปัจจุบันใช้ฝึกซ้อม

ต่อมา มีชาวเยอรมันอพยพไปอยู่อเมริกา ได้สร้างฟิตเนสออกกำลังแบบในเยอรมนีในอเมริกา โดยมีจุดประสงค์เพื่อออกกำลังกาย และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความรักชาติแบบในเยอรมนี

ซึ่งพัฒนามาเป็นฟิตเนสคลับ อย่างที่เห็นในปัจจุบัน