แกงกะหรี่

พิชัย แก้ววิชิต

แกงกะหรี่

 

กลิ่นหอมละมุนของเครื่องเทศลอยลมมาจากร้านขายข้าวแกงที่อยู่ไม่ห่างไกลกันกับป้ายรถเมล์ ที่ผมเพิ่งเดินผ่านมาได้เพียงไม่กี่ก้าว

และถึงแม้จะไม่ได้หันไปมอง ก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นกลิ่นเย้ายวนชวนหิวจาก “แกงกะหรี่”

ด้วยความหอมจึงทำให้ต้องหวนกลับไปที่ร้าน นาฬิกาจากข้อมือซ้ายที่เดินไม่ตรงนัก บอกให้รู้ว่าอาหารมื้อนี้จะมาก่อนเวลาอันสมควร

ด้วยความอยากมันมากกว่าความหิว ยากนักที่จะห้ามใจไม่ให้หิว แม้จะยังไม่ใช่มื้อเที่ยงตามเวลาอันเป็นสากล

 

นั่งไม่นานเกินรอ ป้าเจ้าของร้านร่างเล็ก เดินเร็ว ก็มาพร้อมข้าวราดแกงกะหรี่หมูร้อนๆ ราคาพิเศษ วางลงบนโต๊ะเหล็กพับสีแดงกับขอบสนิมเล็กน้อยพองาม เก้าอี้พลาสติกสีน้ำเงินทรงนิยมไร้พนักพิง นั่งได้สบายดี ไม่เสียการทรงตัวให้หงายหลังขณะรับประทานแกงกะหรี่

อาหารถูกใจมาพร้อมกับรสชาติถูกปาก ทุกๆ เคี้ยวคำกินกลืนอยู่ด้วยความเพลิดเพลินเจริญใจ

ข้าวราดแกงริมทาง กับบรรยากาศรอบๆ ตัวที่ทำให้การนั่งกินข้าวราดแกงกะหรี่ รู้สึกถึงการเป็นส่วนหนึ่งของผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมา กับภาพและเสียงของการจราจรของรถน้อยใหญ่บนท้องถนน ที่ผสานอยู่ด้วยเสียงแตรให้ได้ยินมาเป็นระยะ

อยู่ดีมีสุขกับแกงกะหรี่ได้ไม่นาน ก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ กับภาพของชายคนหนึ่งและเพียงคนเดียวที่กำลังถูกผลัก และดันจนร่างติดกำแพง โดยชายหน้าตาถมึงทึงอีกคนที่แข็งแรงกว่า พร้อมด้วยพรรคพวกที่คอยยืนคุมเชิงอยู่ไม่ห่างอีก 3 คน มีดพับเงาวาววับจับจ่ออยู่ที่คอหอยของชายผู้ชิดติดกำแพง เมื่อไม่อาจสลัดหลุดจากอำนาจที่เหนือกว่า ชายผู้จนตรอกกลับไม่ยอมจนมุม

ในแววตาที่กำลังส่งสารท้าทายความตาย และประกาศอิสรภาพจากความกลัวด้วยน้ำเสียงอันราบเรียบ “มีดในมือมึง มันคมพอที่จะแล่เนื้อเถือหนังกูได้ แต่จิตวิญญาณของมึงต่างหาก มันไม่คมพอ ที่จะเฉือนความสยบยอมออกไปจากตัวกู”

และยิ่งกว่าความเร็วแสง ทุกอย่างก็มืดดับลง

“มีดในมือมึง มันคมพอที่จะแล่เนื้อเถือหนังกูได้ แต่จิตวิญญาณของมึงต่างหากที่มันไม่คมพอ ที่จะเฉือนความสยบยอมออกไปจากตัวกู” / เทคนิค : F.6.3 1/25s ISO 200 / สถานที่ : ย่านสะพานเหลือง ถนนพระราม 4

ต้นสายปลายทางของความบาดหมางระหว่างกัน ไม่อาจรู้

ที่สุดแล้วจะลงเอยด้วยร้ายหรือดี มันคงต้องใช้เวลาอยู่นานเพื่อคาดเดา

ภาพเหตุการณ์บางช่วงบางตอนของความสนุกนึก เรื่องราวจากนามธรรมฉายภาพขึ้นมาในหัว กับเรื่องราวที่โลดแล่นเข้ามาในหัว เกิดขึ้นจากการกินข้าวผิดเวลา หรืออาจเกิดจากการแพ้แกงกะหรี่หมูแบบเฉียบพลัน

เนื้อหาที่ไม่แน่ใจในสาระ ความสนุกนึกเพื่อความบันเทิงระหว่างวัน ให้พอได้อยู่กับชีวิตที่ยังเหลือ ที่เชื่อเสมอว่า ใครต่อใครย่อมมีภาพและเรื่องราวอยู่ในความนึกคิดเป็นของตัวเอง จากสิ่งที่ผูกพ่วงอยู่กับอดีต ปัจจุบัน และกับช่วงเวลาที่ยังมาไม่ถึงอย่างอนาคต

หลายคนมีโอกาสได้เห็นภาพความประทับใจและเรื่องราวดีๆ แต่กลับอีกด้านของความสว่าง ไม่น้อยคนจะยังคงพยายามนำพาตัวเองให้โลดแล่นอยู่ได้ด้วยภาพความหวัง และจินตนาแบบวันต่อวันจากสิ่งที่นึกมโน ที่แม้จะสลัดไม่หลุดกับความยากของชีวิต แต่ก็ไม่เคยเลยที่จะจนมุมจากชีวิตที่จนตรอก และจะหาทำในสิ่งที่ดีให้กับตัวเองเสมอ

ข้าวแกงกะหรี่หมูหมดจาน สมควรแก่เวลาแล้วที่ลุกขึ้นยืน และเดินไปยังกระติกน้ำสีแดงใบใหญ่ ใกล้กันกับป้ายกระดาษที่เขียนบอกไว้ว่า “น้ำเปล่าบริการตัวเอง”

ขอบคุณมากมายครับ •

 

เอกภาพ | พิชัย แก้ววิชิต