อาชญากรรม | อาชญา ข่าวสด

 

ผ่าคดีฆ่าเศรษฐีเยอรมัน

หั่นศพสยอง-ซุกพัทยา

จับหัวโจกแก๊งเอาต์ลอว์

วงจรปิดมัด ‘นางนกต่อ’

 

เป็นคดีหฤโหดที่เกิดขึ้นในเมืองไทยอีกครั้ง สำหรับกรณีมหาเศรษฐีชาวเยอรมัน ที่มาพำนักอยู่ที่พัทยา นานกว่า 30 ปี หายตัวปริศนา พร้อมรถเบนซ์สปอร์ตสุดหรู

จนเป็นเหตุให้ครอบครัวต้องออกตามหา พร้อมตั้งรางวัลผู้ชี้เบาะแสที่หากพบว่ายังมีชีวิตอยู่เป็นเงิน 3 ล้านบาท

พร้อมตั้งประเด็นสงสัยว่าการหายตัวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ไปพบปะนายหน้าที่ดินชาวต่างชาติ ซึ่งอาจจะเป็นนกต่อ ลวงให้ไปพบกับกลุ่มอาชญากร

และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนสอบสวน เพียงไม่นานทุกอย่างก็กระจ่าง เมื่ออาชญากรย่อมทิ้งร่องรอย

จนกระทั่งพบรถเบนซ์หรูถูกจอดไว้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ในสภาพถูกสารเคมีเพื่อทำลายหลักฐาน และปิดบังข้อเท็จจริงบางประการ

แถมยังพบการเคลื่อนไหวของการทำธุรกรรมทางการเงินถ่ายโอนไปจำนวนมาก

ในที่สุดก็พบร่างของเศรษฐีเยอรมัน ถูกฆ่าหั่น พร้อมออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสาม และติดตามจับกุมได้อย่างรวดเร็ว

ที่เหลือก็แค่การขยายผลถึงสาเหตุการลงมืออย่างโหดเหี้ยมครั้งนี้ และเชื่อมโยงกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติหรือไม่

ให้ 3 ล้านหาตัวเศรษฐีเยอรมัน

เหตุการณ์ระทึกขวัญครั้งนี้กลายเป็นข่าวฮือฮา เมื่อครอบครัวของนายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค (Mr.Hans Peter Ralter Mack) อายุ 62 ปี ชาวเยอรมัน โพสต์ข้อความในสื่อโซเชียลเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ระบุว่า นายฮันส์หายออกจากบ้าน มีผู้พบเห็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม เวลา 12.41 น. พร้อมรถเมอร์เซเดสเบนซ์ สีเทา ทะเบียน ญศ 7146 กรุงเทพมหานคร ขับไปทางถนนชัยพฤกษ์ ซอย 3 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ผู้สูญหายสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำและรองเท้าหุ้มส้นสีดำ หากมีผู้ใดพบเห็นโปรดติดต่อมาที่เบอร์ข้างต้น หากพบเจอรถคันนี้ให้รางวัล 100,000 บาท แต่หากพบตัวผู้สูญหายมีรางวัลให้ 3,000,000 บาท

โดย น.ส.พิรญา หรือปาร์ตี้ บุญมาก อายุ 24 ปี ภรรยาชาวไทยที่อยู่กินกับนายฮันส์ ผู้สูญหายมานานกว่า 5 ปี เล่าให้ฟังว่า สามีเป็นนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ขับรถเบนซ์คันดังกล่าวออกจากบ้าน เพื่อไปพูดคุยธุรกิจกับนายหน้าชาวต่างชาติคนหนึ่งที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน เกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มูลค่าหลายร้อยล้านบาท ก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จนถึงปัจจุบันยังไม่พบตัว

ตนพยายามติดต่อทางโทรศัพท์มือถือแต่ติดต่อไม่ได้เพราะปิดเครื่อง ครอบครัวเป็นห่วงมาก ภาวนาให้สามียังมีชีวิตและปลอดภัย ครอบครัวได้โพสต์ลงโซเชียลประกาศตามหา ใครพบรถเบนซ์ของผู้สูญหายให้รางวัล 1 แสนบาท หากแจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การพบตัว จะให้รางวัล 3 ล้านบาท

ปกติสามีเป็นคนตรงต่อเวลา ไม่ชอบทำให้ครอบครัวเป็นห่วง ไม่เคยหายออกจากบ้านไปเป็นเวลานาน ครอบครัวมั่นใจว่าการหายตัวไปของสามีเป็นเรื่องผิดปกติ เกรงว่าสามีจะได้รับอันตราย

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือ ลงพื้นที่ตรวจสอบพบเงื่อนงำและข้อพิรุธหลายอย่าง พร้อมเช็กข้อมูลจากเบสสัญญาณโทรศัพท์ พบว่าอยู่ในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

ต่อมาวันที่ 9 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่รับแจ้งว่าพบรถเบนซ์สปอร์ต ทะเบียน ญศ 7146 กรุงเทพมหานคร ของนายฮันส์ จอดอยู่ข้างๆ ซีซีคอนโดมิเนียม ซอยเขาน้อย หมู่ 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ภายในมีคราบน้ำยาบางชนิดไหลเยิ้มที่เบาะ พวงมาลัย คอนโซลกลาง เกียร์ กระจกหน้า ประตูและที่เปิดประตู คล้ายกับการอำพรางลบลายนิ้วมือแฝง

ขณะที่พลเมืองดีระบุว่า พบรถคันดังกล่าวมาจอดได้ 4 วันแล้ว มีผู้หญิง 2 คน คนหนึ่งผิวคล้ำ สูง 155-160 ซ.ม. ส่วนอีกคนจำรูปร่างไม่ได้ ลงจากรถเดินออกมาที่ถนน แต่ตนไม่ได้สนใจอะไรจึงไม่ทราบว่าผู้หญิงทั้ง 2 คนเดินไปไหน

ไม่พบร่องรอยของนายฮันส์ แต่คิดว่าไม่น่าจะเป็นสัญญาณที่ดี!!

วงจรปิดมัด-เจอศพฆ่าหั่น

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการโอนเงินจากบัญชีของนายฮันส์ไปยังหลายบัญชี รวมเป็นเงินกว่า 3 ล้านบาท ซึ่ง 1 ในนั้นคือ นายโอลาฟ ธอร์สเทน บริงก์มันน์ มาเฟียแก๊งเอาต์ลอว์ จึงเรียกมาสอบสวน เช่นเดียวกับนางเพธา คริสต์ กรุนด์กรีฟ นายหน้าที่ดินที่อยู่กับนายฮันส์เป็นคนสุดท้าย

เบื้องต้นนายโอลาฟให้การปฏิเสธ ไม่เกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าว ให้การยืนยันว่า ในวันที่ 4 กรกฎาคม นัดพูดคุยกับนายฮันส์ เรื่องการซื้อขายบ้านพูลวิลล่า บนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และที่ดินสนามมวยย่านซอยทุ่งกลม-ตาลหมัน ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง แต่นายฮันส์สนใจเรื่องที่ดินสนามมวย ไม่สนใจบ้านพูลวิลล่าบนเกาะสมุย ก่อนจะแยกย้ายกันไป และไม่รู้ตัวว่านายฮันส์ขับรถตามหลังมาด้วย ก่อนจะมาถูกตำรวจเชิญมาให้ปากคำดังกล่าว

ขณะที่นางเพธาให้การว่า ในวันที่ 4 กรกฎาคม นัดพูดคุยกับนายฮันส์ เรื่องการซื้อขายบ้านพูลวิลล่าบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และที่ดินสนามมวยย่านซอยทุ่งกลม-ตาลหมัน ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง เช่นกัน

หลังสอบปากคำแล้วเจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวไป และเร่งตรวจสอบภาพวงจรปิด ในที่สุดก็ได้หลักฐานเด็ด เมื่อพบภาพวงจรปิด เป็นกล้องวงจรปิดแยกชัยพฤกษ์ ถนนสุขุมวิท เวลา 10.41 น. ของวันที่ 5 กรกฎาคม พบว่ารถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อมาสด้า สีดำ บรรทุกตู้แช่แข็ง กำลังขับมุงหน้าเข้ามามาทางสนามกีฬาชัยพฤกษ์ 2

นอกจากนี้ ยังพบรถกระบะโตโยต้า รีโว่ 4 ประตูสีดำ ซึ่งเป็นรถของนายโอลาฟ อายุ 52 ปี ชาวเยอรมัน ขับเข้าไปในบ้านพูลวิลล่า ภายในซอยหนองหินซอย 5

โดยขาเข้าไป ด้านกระบะหลังรถว่างเปล่า จนเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง รถของนายโอลาฟได้ขับออกมา พร้อมกับด้านท้ายรถมีการบรรทุกตู้แช่แข็ง โดยมีการปิดบังอำพรางอย่างแน่นหนา ก่อนจะขับออกมาแล้วขับวนกว่า 160 กิโลเมตร ก่อนจะเข้าไปจอดในหมู่บ้านที่ซุกซ่อนตู้แช่แข็ง

เจ้าหน้าที่จึงบุกเข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่งภายในหมู่บ้านโชคชัยการ์เด้น โฮม 1 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว เนื้อที่ 40-50 ตารางวา พบตู้แช่แข็งสีขาว ถูกวางไว้ภายในห้องนอนของบ้านมีการใช้เทปกาวสีดำปิดผนึกอย่างแน่นหนา โดยเสียบปลั๊กให้ความเย็นทำงานไว้ตลอดเวลา

เปิดตู้แช่ออกมาพบชิ้นส่วนมนุษย์ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนของนายฮันส์ ถูกหั่นแยกไว้ 13 ส่วน ใส่ถุงดำแช่แข็ง ที่ศีรษะมีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็งหลายครั้งจนเป็นแผลฉกรรจ์ พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์ใช้หั่นศพ เป็นเลื่อยโซ่ไฟฟ้าไร้สาย แผ่นพลาสติกซีลอาหาร และหน้ากากปิดบังใบหน้า

ต้องล่าตัวอาชญากรต่อไป!!

จับยกแก๊ง-เปิดไทม์ไลน์ฆ่า

หลังเจอศพนายฮันส์ เจ้าหน้าที่ออกหมายจับนางเพธา นายโอลาฟ และนายชาฮ์รูค คารีม อุดดิน อายุ 27 ปี หนุ่มสัญชาติไทย เชื้อสายปากีสถาน หนุ่มที่อยู่ในวงจรปิดนั่งท้ายกระบะกับตู้แช่ โดยนางเพธาติดต่อขอเข้ามอบตัวกับตำรวจที่ สภ.หนองปรือ

ขณะที่นายโอลาฟเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่คลับย่านประเวศ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่รวมตัวของแก๊งเอาต์ลอว์

ส่วนนายชาฮ์รูคถูกจับได้ขณะนั่งแท็กซี่มาลงที่ จ.กาญจนบุรี เตรียมจะหลบหนีข้ามแดน

สำหรับไทม์ไลน์การเสียชีวิตของนายฮันส์ คาดถูกฆ่าตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม โดยพบภาพเริ่มจากที่ร้านเบเกอรี่และกาแฟภายในซอยทุ่งกลม-ตาลหมัน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง พบภาพนายฮันส์ผู้ตายกับนางเพธา ก่อนจะพากันไปดูบ้านพูลวิลล่า ที่ซอยชัยพฤกษ์ 1 ซอย 3 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ซึ่งคาดว่าเป็นสถานที่ก่อเหตุฆ่านายฮันส์

จากนั้นก็ให้หญิงสาวชาวไทย 2 คนขับรถนายฮันส์มาจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถตามคำให้การของพยาน โดยขับรถตามกันไปที่ที่จอดรถชั่วคราว ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่มาตรวจพบรถถูกจอดทิ้งไว้โดยมีคราบน้ำยาล้างห้องน้ำเปรอะเปื้อนไปทั่วคล้ายการกลบรอยหลักฐาน

ต่อมาประมาณเวลา 11.00 น. ของวันที่ 5 กรกฎาคม ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณปากซอยชัยพฤกษ์ พบรถเชฟโรเลตของนางเพธา พร้อมรถกระบะมาสด้า สีดำ ทะเบียน ขย 5667 ชลบุรี บรรทุกตู้แช่แข็ง โดยมีชายลักษณะศีรษะล้านนั่งจับตู้อยู่ด้านหลัง ขนมายังบ้านพักพูลวิลล่า ภายในซอยหนองหิน อ.บางละมุง

บ่ายของวันที่ 6 กรกฎาคม นางเพธาได้ขับรถเชฟโรเลตไปเปลี่ยนแม็กซ์และยางที่ร้านแห่งหนึ่ง ริมถนนสุขุมวิท ก่อนเข้าเขตนาจอมเทียน อ.สัตหีบ

จากนั้นในวันที่ 8 กรกฎาคม นายโอลาฟได้ขับรถโตโยต้า รีโว่ สีดำ ทะเบียน จค 78679 ชลบุรี ขนตู้แช่แข็งจากบ้านพูลวิลล่าวนไปมาในเขตบางละมุง-ศรีราชา เป็นระยะทางกว่า 160 กิโลเมตร จากนั้นจึงนำมาซุกไว้ในบ้านที่ตรวจพบศพนายฮันส์ ซึ่งคาดว่ามีการหั่นศพภายในบ้านหลังดังกล่าวที่มีหญิงชราชาวเยอรมันกับชายต่างชาติพักอาศัยอยู่

เชื่อเป็นการวางแผนกันมานานร่วมเดือน เหตุผลก็คือประสงค์ต่อทรัพย์สิน ซึ่งต่อมาก็มีการโอนเงินออกจากบัญชีกว่า 3 ล้านบาท

เร่งขยายผลต่อว่ามีผู้สมรู้ร่วมคิดแค่ 3 คน หรือจะมีคนอื่นอีก!!!

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022