ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 14 - 20 กรกฎาคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | ภาพยนตร์ |
ผู้เขียน | นพมาส แววหงส์ |
เผยแพร่ |
MISSION : IMPOSSIBLE – DEAD RECKONING PART ONE | ‘เอกอัครอภิมหาอำนาจ’
ในโลกสมัยใหม่ที่ชีวิตมนุษย์ต้องพึ่งพาอาศัยการใช้งานคอมพิวเตอร์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ “ปัญญาประดิษฐ์” “สมองกล” หรือ “สติปัญญาเทียม” ตามที่ใช้คำย่อเรียกกันว่า “เอไอ” หรือ Artificial Intelligence ได้ก้าวเข้ามาสู่แทบทุกแง่ทุกมุมของชีวิต จนกระทั่งว่าจักรกลอัจฉริยะนับวันจะทวีกำลังความสามารถทบเท่าทวีคูณ…ตรีคูณ…ทศคูณ…ศตคูณ…สหัสคูณ และ “ฉลาด” ขึ้นเรื่อยๆ
ขีดสมรรถนะของสมองกลนั้นดูจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แบบดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด
จนใครๆ เริ่มมองเห็นและตระหนักว่าจะหยุดยั้งจักรกลอัจฉริยะไว้ไม่ได้ และกลายเป็นภัยคุกคามมนุษยชาติไป
แม้ขณะนี้เองหลายคนก็เริ่มกลัว “บ็อต” อย่าง แชตจีพีที ซึ่งดูเหมือนจะหาคำตอบให้แก่คำถามแทบทุกเรื่องตามความต้องการของผู้ใช้ได้
แถมจะยังดู “ฉลาด” ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเริ่มมีข้อมูลจากผู้ใช้ทั่วโลกเพื่อนำไปประมวลผลมากขึ้นทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที ทุกวินาที
สมองกลถูกประดิษฐ์ขึ้นเพื่อช่วยผ่อนภาระแก่มนุษย์ เพื่อให้มนุษย์ใช้งาน แต่ขณะนี้มันอาจเริ่มฉลาดล้ำขึ้นจนสามารถควบคุม บังคับบัญชาหรือบงการชีวิตมนุษย์ได้ด้วยข้อมูลมหาศาลที่มันประมวลผลได้
“ผู้รับใช้” กำลังจะกลับกลายเป็น “เจ้าเหนือหัว”
“เจ้านาย” กำลังจะกลับกลายเป็น “ทาส”
Mission : Impossible ภาคใหม่ล่าสุดในแฟรนไชส์บนจอภาพยนตร์ เปิดเรื่องด้วยฉากใต้น้ำ ในเรือดำน้ำของรัสเซีย ซึ่งกำลังเจอสถานการณ์ชวนพิศวง เหมือนมีภูตผีปีศาจหลอกหลอน เดี๋ยวมา เดี๋ยวไป เดี๋ยวปรากฏอยู่ เดี๋ยวหายตัวไปเฉยๆ
ลงเอยด้วยหายนะและความสูญเสียหายครั้งใหญ่ภายใต้ท้องทะเลอันเย็นเยือกซึ่งมีแผ่นน้ำแข็งจับหนาบนผิวน้ำ…
และแล้วเรื่องก็พาเราไปสู่ฉากมาตรฐานของมิสชั่นอิมพอสซิเบิล ซึ่งเป็นตอนเปิดเรื่องของหนังทีวีในทศวรรษ 1970 ทุกตอน…
สมัยวัยรุ่น ผู้เขียนติดตามดูซีรีส์ทางทีวีชุดนี้ด้วยความเร้าระทึกใจทุกคืนวันพฤหัสฯ เลยค่ะ ฉายทุกสัปดาห์หลังข่าว เป็นรายการไพรม์ไทม์
…เปิดเรื่องด้วยการที่พระเอกได้รับซองบรรจุเทปพร้อมข้อมูลรูปภาพบุคคล และเอาไปเปิดฟังคนเดียว…เป็นคำสั่งเสียง ซึ่งมีประโยคที่ใช้เป็นประจำ ประมาณว่า “ถ้าคุณรับงานชิ้นนี้ และเกิดความผิดพลาดถูกจับตัวได้ เราจะปฏิเสธความรับผิดชอบทั้งหมด…”
พูดง่ายๆ ก็คือ อย่าทำพลาดเป็นอันขาด เพราะตัวใครตัวมันนะโว้ย จะมาอ้างหน่วยงานหรือองค์กรลับใดๆไม่ได้เด็ดขาด พลาดเมื่อไหร่ ตัดหางปล่อยวัดทันที
พระเอกต้องมีความจำยอดเยี่ยม หรือความจำแบบภาพถ่าย เพราะฟังหนเดียวก็ต้องจดจำรายละเอียดไว้ทั้งหมด ด้วยหลังจากนั้นไม่กี่วินาที “เทปนี้จะทำลายตัวเอง”
หนังภาคใหม่นี้เปิดตัวอีธาน ฮันต์ (ทอม ครูส) สายลับของ “ภารกิจ : เป็นไปไม่ได้” ในแบบดั้งเดิมแบบนี้แหละค่ะ
เพียงแต่เติมฉากคนส่งสารเป็น มอเตอร์ไซค์ส่งฟู้ดเดลิเวอรี่ ตามเทรนด์ชีวิตสมัยใหม่ซะหน่อย
ภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ครั้งนี้คือ การตามหากุญแจสองดอก ที่เมื่อนำมาประกอบกันแล้วจะใช้ควบคุมโลกได้
และแล้วก็เริ่มฉากดุเด็ดเผ็ดมันกลางทะเลทราย ซึ่งนำอีธานไปสู่อดีตจารชนของเอ็มไอ 6 หน่วยราชการลับของอังกฤษ อิลซา เฟาสต์ (รีเบคคา เฟอร์กูสัน) ผู้เก่งกาจสารพัดพิษ
หนังชุด M : I เป็นหนังแอ๊กชั่นดุเด็ดเผ็ดมัน ดังนั้น ฉากบู๊ล้างผลาญแบบฝ่าอันตรายฉิวเฉียดจึงต้องเร้าระทึกใจคนดูอยู่เกือบตลอดเรื่อง
ฉากต่อมาเป็นการให้ข้อมูลถึงภัยใหญ่หลวงของเอไอที่พัฒนาไปสู่ความฉลาดจนคิดเองเป็น และไม่ตกอยู่ใต้คำสั่งของมนุษย์แล้ว มีแต่เพียงกุญแจสองดอกที่จะควบคุมมันได้
“มัน” ในที่นี้เรียกขานกันด้วยชื่อว่า “เอ็นทิตี้” (Entity)
ดังนั้น ใครได้กุญแจสองดอกนี้ไว้ในครอบครองและรู้วิธีที่จะเอาไปใช้งานอะไรที่ไหนอย่างไร ก็จะมี “เอกอัครอภิมหาอำนาจ” เหนือโลกทั้งโลก
หนังพาเรากลับไปสู่จุดเริ่มต้นของสายลับประจำหน่วยงาน IMF (Impossible Mission Force) ซึ่งหนังไม่ลืมที่จะใส่บทขำขันเกี่ยวกับความเข้าใจไขว้เขวในชื่อย่อของหน่วยงานนี้ โดยนำไปสับสนกับ “ไอเอ็มเอฟ” ที่มีบทบาทต่อเศรษฐกิจในโลกจริง หรือ International Monetary Fund
อีธาน ฮันต์ ใช้ความเป็น “มนุษย์หลายหน้า” พาตัวเข้าไปในสถานที่ที่มีระบบความปลอดภัยสูงสุด และพาตัวออกจากที่นั้นได้แบบชิลชิล ฉิวโลด
ฉากในสนามบินที่มีกล้องจับและจดจำใบหน้าผู้คนไว้ได้หมด ก็เป็นฉากที่ซับซ้อนชาญฉลาดของทีมงานมิสชั่นอิมพอสซิเบิล รวมทั้งการไล่ล่าจากหลายฝ่ายทั้งคนร้ายคนดี
ซึ่งเป็นการแนะนำตัวนางเอกคนใหม่ของหนังภาคนี้ คือเกรซ (เฮย์ลีย์ แอตแวลล์)
หนังย้อนกลับไปสู่อดีตของอีธาน ฮันต์ ซึ่งเป็นจุดพลิกผันชีวิตให้เขากลายมาเป็นอย่างที่เป็นอยู่นี้ และให้แคแร็กเตอร์ของความเป็นพระเอกที่มีคุณธรรม และเห็นเพื่อนร่วมภารกิจสำคัญกว่าตัวเอง
ยังมีนักแสดงมีชื่ออีกมากมายหลายคนที่เอ่ยได้ไม่หมดนะคะ ล้วนมีบทบาทเชือดเฉือนยากจะเดาว่าใครเป็นเพื่อน ใครเป็นศัตรูกันแน่
เอาเป็นว่าหนังภาคนี้สนุกมากก็แล้วกันค่ะ ความยาวเกือบสามชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็วไม่รู้ตัว เรื่องราวดูได้ว่าจบในตัวเพราะนำเราไปสู่จุดลงเอย ณ จุดหนึ่ง แต่ชื่อหนังก็บอกโต้งๆ เลยว่าไม่ได้จบในตอนเดียว เพราะนี้เป็นภาคแรกของเรื่องราว ซึ่งพระเอก-ผู้ร้ายยังจะต้องตามห้ำหั่น ตามล้างตามผลาญกันต่อไปอีกในตอนต่อไป
เชื่อว่าดูภาคนี้แล้วแฟนหนังคงไม่ยอมพลาดภาคสองที่จะตามมาในปีหน้าแน่ๆ
MISSION : IMPOSSIBLE – DEAD RECKONING PART ONE
กำกับการแสดง
Christopher McQuarrie
แสดงนำ
Tom Cruise
Hayley Atwell
Ving Rhames
Simon Pegg
Rebecca Ferguson
Vanessa Kirby
Esai Morales
Pom Klemetieff
Henry Czerny
Cary Elwes
ภาพยนตร์ | นพมาส แววหงส์
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022