ออกกำลังกายไป ยิ้มไป ได้ประโยชน์หลายอย่าง

พิศณุ นิลกลัด

คลุกวงใน | พิศณุ นิลกลัด

Facebook : @Pitsanuofficial

 

ออกกำลังกายไป ยิ้มไป

ได้ประโยชน์หลายอย่าง

 

รอยยิ้มมีพลังมากกว่าที่เราคิด…

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่าการยิ้มให้ผลดีต่อทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจ

เพราะทุกครั้งที่ยิ้มร่างกายของเราจะหลั่งสารแห่งความสุขเข้าสู่กระแสเลือด ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน, โดปามีน, หรือเซโรโทนิน สารเหล่านี้จะช่วยให้หัวใจแข็งแรง ลดความดันเลือด และทำให้เส้นเลือดขยายตัว เลือดลมจึงสูบฉีดดีขึ้น สลายความเครียด บรรเทาอาการเจ็บปวด

การยิ้มเป็นประจำยังช่วยลดความคิดแง่ลบในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าเรื่องนั้นจะแย่เพียงใดก็ตาม

ทำให้เราเป็นคนที่มีอารมณ์ดีอยู่เสมอ เสริมสร้างกระบวนการคิดและการตัดสินใจให้แม่นยำมากขึ้น เพิ่มศักยภาพในการทำงานและแก้ไขปัญหาต่างๆ อีกทั้งยังทำให้สิ่งแวดล้อมรอบตัวเราดีขึ้นด้วย

แม้แต่ในระหว่างที่เราออกกำลังกายอย่างหนักจนเหนื่อยล้า เราอาจเคยบอกตัวเองให้ยิ้มและกัดฟันสู้ต่อเพื่อให้ไปจนถึงเป้าหมาย

 

มีการศึกษาที่ออกมาช่วยยืนยันว่าการยิ้มขณะออกกำลังกายมีประโยชน์ในด้านจิตวิทยา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย ทำให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องง่าย และยังช่วยให้เราทำผลงานได้ดีขึ้นจริงๆ ในการแข่งขันกีฬา

มหาวิทยาลัยอัลสเตอร์ (Ulster University) ของไอร์แลนด์เหนือ ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสวอนซี (Swansea University) ของเวลส์ ทำการศึกษาเรื่องประโยชน์ของรอยยิ้มในขณะออกกำลังกาย

โดยให้อาสาสมัครทั้งชายและหญิงจำนวน 24 คนที่มีประสบการณ์วิ่งออกกำลังกายเป็นประจำ ทำการทดลองวิ่งบนลู่วิ่งสายพานคนละ 4 ครั้ง ครั้งละ 6 นาที

ในแต่ละครั้งให้อาสาสมัครวิ่งในรูปแบบที่ต่างกันไป

ครั้งแรก ให้อาสาสมัครยิ้มอย่างจริงใจตลอดเวลาที่วิ่ง 6 นาที

ครั้งที่สอง ให้ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดตลอดเวลา

ครั้งที่สาม ให้วิ่งแบบผ่อนคลายร่างกายส่วนบนไปตามสบาย

ครั้งที่สี่ ให้วิ่งแบบปกติตามที่แต่ละคนเคยวิ่ง

นักวิจัยก็ไม่ได้อธิบายเป้าหมายที่แท้จริงของการทดลองนี้ให้ใครทราบ

 

ผลการศึกษาพบว่าการยิ้มทำให้นักวิ่งมีผลงานที่ดีขึ้น เพราะการวิ่งพร้อมกับยิ้มอย่างจริงใจไปด้วย จะช่วยให้กล้ามเนื้อทั่วร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย ไม่ตึงเครียดเท่ากับการวิ่งในลักษณะอื่นๆ และยังลดปริมาณออกซิเจนที่ร่างกายต้องใช้ในการเปลี่ยนเป็นพลังงาน

และแน่นอนว่าการทำหน้านิ่วคิ้วขมวดตลอดเวลานั้นทำให้ร่างกายตึงเครียดและต้องดึงพลังงานออกซิเจนมาใช้มากกว่าการวิ่งแบบอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยพบว่าเมื่อผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง การยิ้มของอาสาสมัครเริ่มที่จะไม่ได้มาจากความรู้สึกโดยธรรมชาติ การทำงานของกล้ามเนื้อแต่ละจุดบนใบหน้าจึงเริ่มน้อยลง ส่งผลให้ร่างกายและกล้ามเนื้อทุกส่วนกลับมาตึงขึ้น ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายเท่าตอนที่ยิ้มในช่วงต้นของการวิ่ง

ซึ่งก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าการจะให้ยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติตลอดเวลา 6 นาทีไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆ

 

ดังนั้น หากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายด้วยการยิ้ม จึงควรมีเทคนิคที่จะทำให้เรายิ้มออกมาอย่างจริงใจในขณะออกกำลังกาย

ยกตัวอย่างเช่น เราอาจจะเปิดฟังคลิปเสียงการแสดงของดาราตลกที่เราชื่นชอบขณะออกกำลังกายอยู่ในฟิตเนส เพื่อทำให้เราได้รู้สึกขำและยิ้มออกมาอย่างจริงใจ

เพราะการฝืนยิ้มที่ไม่ได้มาจากความรู้สึก นอกจากจะไม่ช่วยอะไรแล้ว ยังอาจทำให้เรารู้สึกอึดอัดในขณะที่ออกกำลังกายด้วย