จิตต์สุภา ฉิน : เทรนด์การกินที่สะท้อนโดยกูเกิล

จิตต์สุภา ฉินFacebook.com/JitsupaChin

วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศมาชวนคุยเรื่องสุขภาพและอาหารค่ะ

พฤติกรรมการค้นหาข้อมูลทางด้านสุขภาพและอาหารที่เรารับประทานนั้นได้เปลี่ยนไปพอสมควรตั้งแต่กูเกิลเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเรามากขึ้นเรื่อยๆ สังเกตดูว่าคนส่วนใหญ่ทุกวันนี้เวลาที่เกิดความผิดปกติบางอย่างขึ้นกับร่างกาย สิ่งแรกที่ทำก็คือจะลองเสิร์ชกูเกิลดูก่อนว่ามีลิงค์ไหนที่อธิบายอาการของโรคที่ตัวเองกำลังเป็นบ้างหรือเปล่า หรือในเว็บบอร์ดชื่อดังอย่างพันธุ์ทิพย์นั้นเคยมีคนมาถามคำถามแบบเดียวกันหรือไม่ ซึ่งหากแค่ศึกษาข้อมูลพื้นฐานเอาไว้เพื่อเป็นความรู้ก่อนไปหาหมอก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่บ่อยครั้งการวินิจฉัยโรคของตัวเองผ่านทางกูเกิลมักจะทำให้เกิดอาการกระต่ายตื่นตูม วินิจฉัยตัวเองว่าเป็นโรคที่หนักหนาเกินความเป็นจริงและจิตตกพาลทำให้ไม่อยากไปหาหมอเสียอย่างนั้น

สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับอาหารนั้นฟังก์ชันบนกูเกิลที่ซู่ชิงใช้บ่อยที่สุดคือการดูปริมาณแคลอรี่ในอาหารและข้อมูลทางโภชนาการของอาหารแต่ละประเภทซึ่งกูเกิลจะแสดงผลเอาไว้ให้เข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว เช่น หากวันไหนรู้สึกอยากส่งคุกกี้ช็อกโกแลตชิพสักชิ้นเข้าปากแต่เกิดมีสติอยากจะตรวจสอบก่อนว่าคุกกี้หนึ่งชิ้นมีแคลอรี่เท่าไหร่ ก็เพียงแค่พิมพ์ว่า Chocolate chip cookies calories ก็จะมีการ์ดแสดงผลข้อมูลเด้งขึ้นมาบอกทันทีว่าคุกกี้ช็อกโกแลตชิพแบบโฮมเมด 100 กรัม มีแคลอรี่สูงถึง 488 แคลอรี่ จากนั้นก็ค่อยคิดพิจารณาอีกทีว่ายังคุ้มค่าแก่การกินหรือไม่ นอกจากนี้ก็จะมีการ์ดอีกแผ่นที่เป็นตารางแสดง Nutrition Facts หรือข้อมูลทางโภชนาการสำหรับให้ศึกษารายละเอียดให้ลึกลงกว่าเดิมด้วย

เมื่อเร็วๆ นี้กูเกิลเพิ่งจะเผยข้อมูลการค้นที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับอาหารการกิน โดยเป็นการเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2014 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2016 เพื่อมาดูว่าผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกากำลังสนใจทำอาหารชนิดไหน ชอบกินอะไร และค้นหาอะไรบนกูเกิลมากที่สุดตลอดช่วงสองปีที่ผ่านมา ข้อมูลเหล่านี้จะทำให้เรารู้ว่านิสัยการกินของคนเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหนด้วย ซู่ชิงคิดว่าน่าสนใจดีก็เลยหยิบมาแชร์ให้ทุกคนได้ทราบกันค่ะ

กูเกิลบอกว่าตอนนี้สมาร์ตโฟนได้ขยับระดับจากการเป็นแค่อุปกรณ์เสริมกลายเป็นอวัยวะอีกชิ้นของเราไปแล้ว และเราก็มักจะหันไปพึ่งพากูเกิลเพื่อจะดูว่าอาหารแต่ละประเภทมีคุณค่าทางอาหารมากน้อยแค่ไหน และอาหารชนิดไหนบ้างที่ส่งผลต่อคุณภาพของสมอง ผิวหนัง พลังงาน และคุณภาพการนอนของเรา และนิสัยที่เราสร้างขึ้นมาใหม่นี่แหละค่ะที่จะช่วยเพิ่มไอคิวทางด้านอาหารของเราได้เป็นอย่างดี

Google Trends ระบุว่าคำค้นว่า “best foods for” หรือ อาหารที่ดีที่สุดสำหรับ (ตามด้วยชื่อโรคหรืออาการ) ได้เพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา

การเก็บข้อมูลทำให้พบว่าโรคกรดไหลย้อนเป็นโรคที่มาแรงจริงๆ เพราะผู้ใช้พร้อมใจกันเสิร์ชหาอาหารที่จะช่วยรักษาโรคนี้เพิ่มขึ้นถึง 921 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันระหว่างปี 2011 และ 2015

นอกจากโรคกรดไหลย้อนแล้ว อาการยอดฮิตที่รั้งท้ายมาก็คือท้องไส้ปั่นป่วน ที่ 321 เปอร์เซ็นต์ และคำค้นเกี่ยวกับอาหารที่ดีสำหรับผิวและให้พลังงานนั้นอยู่ที่ 131 เปอร์เซ็นต์

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจที่กูเกิลค้นพบจากการเก็บสถิติครั้งนี้ก็คือนอกจากผู้ใช้จะค้นหาอาหารยอดฮิตแล้วก็ยังมีแนวโน้มที่จะตรวจสอบข้อมูลทางโภชนาการของอาหารชนิดนั้นๆ และดูด้วยว่าจะเอาไปทำอะไรได้บ้าง

IMG_7047ตัวอย่างเช่น นักวิเคราะห์พบว่าอาหารยอดฮิต 10 อย่างที่ถูกค้นหามากที่สุด ซึ่งประกอบด้วยอาหารที่มีคุณสมบัติในการช่วยสร้างเสริมสุขภาพที่ดีอย่างขมิ้น ขิง และน้ำผึ้งมานูกานั้นเป็นคำค้นที่จะพุ่งสูงที่สุดทุกวันจันทร์และจะลดลงอย่างต่อเนื่องภายในวันศุกร์ ซึ่งกูเกิลก็มีทฤษฎีที่จะมาอธิบายพฤติกรรมนี้ว่าอาจจะเป็นเพราะในช่วงต้นของสัปดาห์นั้นเป็นช่วงที่คนจะวางแผนการทำอาหารและนั่งทำรายการวัตถุดิบที่จะต้องซื้อและยังเป็นช่วงที่ต้องดีท็อกซ์ตัวเองจากการสวาปามทุกอย่างที่ขวางหน้าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั่นเอง

ผู้ใช้ไม่ได้พึ่งพาแค่กูเกิลในการหาข้อมูลอาหารเท่านั้น แต่ยังลามไปถึงการเปิดดูวิดีโอบนยูทูบเพื่อหาไอเดียใหม่ๆ เกี่ยวกับอาหารที่ตัวเองสนใจด้วย นอกจากการเปิดวิดีโอดูวิธีการทำอาหารประเภทต่างๆ แล้ว คอนเทนต์เกี่ยวกับอาหารที่ได้รับความสนใจบนแพลตฟอร์มยูทูบก็ยังแผ่ขยายไปถึงการใช้อาหารเพื่อประโยชน์ในด้านอื่นๆ อย่างเช่นการใช้ขมิ้นมาช่วยทำฟันขาว ทำมาส์คบำรุงหน้า ไปจนถึงการใช้เป็นสีย้อมผ้าด้วย

คำค้นยอดฮิตเกี่ยวกับฮาวทูวิธีการทำอะไรต่างๆ นั้น ที่ติดอันดับก็ประกอบด้วย วิธีการปอกมะม่วง วิธีการอบเบคอน วิธีทำเค้กป๊อบ วิธีปอกสับปะรด และวิธีการทำไอศกรีม เป็นต้น

ปิดท้ายด้วยคำเสิร์ชสูตรอาหารยอดฮิตที่คนค้นหากันมากที่สุดในช่วงสองปีที่ผ่านมา ซึ่งล้วนแล้วแต่ครองอันดับไปด้วยขนมอบและขนมหวานทั้งนั้นเลย คือ วาฟเฟิล คุกกี้น้ำตาล บราวนี่ เค้กช็อกโกแลต และคัพเค้ก

ดูจากสูตรอาหารยอดฮิตแล้วถ้าจะอบขนมที่ว่านี้ก็อย่าลืมใช้ฟังก์ชันตรวจสอบแคลอรี่ให้เป็นประโยชน์ด้วยค่ะ จะได้ไม่ต้องใช้กูเกิลในการค้นหาสูตรการลดน้ำหนักต่ออีกทอดหนึ่ง