การเลือกตั้ง กับโครงสร้างการเมือง | อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

ด้วยความบังเอิญ ช่วงนี้มีการเลือกตั้งใกล้เคียงกันในสองประเทศคือ ไทย วันที่ 14 พฤษภาคม กัมพูชาเพื่อนบ้านเรา วันที่ 21 พฤษภาคม

ช่วงก่อนการเลือกตั้งอาจกล่าวได้ว่าเป็นมหกรรมทางการเมืองที่สำคัญของทั้งไทยและกัมพูชา ในแง่ไทย เราห่างเหินจากการเลือกตั้งมานาน 4 ปี แต่จริงๆ มากกว่านั้นเพราะการเลือกตั้งปี 2562 เป็นการเลือกตั้งที่มีเงื่อนไขผูกมัดให้หัวหน้าคณะรัฐประหารมีโอกาสได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงของ ส.ว. 250 คนที่เขาตั้งขึ้นมาเอง

แม้จะเป็นเช่นนั้น เซอร์ไพรส์ทางการเมืองก็อุบัติขึ้น ทั้งปรากฏการณ์พรรคไทยรักษาชาติ ที่ถูกยุบไป และคะแนนเสียงส่วนใหญ่ที่เทไปให้พรรคฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย และพรรคของคนรุ่นใหม่พรรคอนาคตใหม่ แต่พรรคอนาคตใหม่ก็ถูกยุบไปอีก

ถึงแม้จะยังไม่รู้ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่เราคงดูแค่ผลการเมืองตั้งไม่ได้

เราควรดูโครงสร้างทางการเมืองขณะนี้ของทั้งไทยและกัมพูชา

 

กัมพูชา :
ระบอบอำนาจนิยมที่เหนียวแน่น

ในกัมพูชา พรรค Cambodia People’s Party (CPP) ที่นำโดยนายกรัฐมนตรี สมเด็จฮุน เซน ครอบงำระบอบการเมืองกัมพูชามายาวนานเกือบ 40 ปี

รัฐสภากัมพูชาถูกควบคุมได้ทั้งหมดโดยพรรค CCP

ต่อจากนั้นมา มีการยุบพรรคฝ่ายค้านคือ พรรค Cambodia National Rescue Party-CNRP หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน กดขี่รุนแรงมากขึ้นกับกลุ่มต่อต้านฝ่ายต่างๆ นักกิจกรรมในภาคประชาสังคม สื่ออิสระ มีการดำเนินคดีต่อสื่อต่างๆ ด้วยแรงจูงใจทางการเมืองและการข่มขู่

มีการกดดันการเคลื่อนไหวแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระมาตลอด ลงท้ายด้วยการสั่งปิดหนังสือพิมพ์แนวเสรีนิยม ยังมีการติดตามการเคลื่อนไหวและการทำงานขององค์กรพัฒนาเอกชนต่างชาติ มูลนิธิต่างชาติที่เข้ามาช่วยเหลือด้านการศึกษา แก้ปัญหาความยากจน เป็นต้น โดยการกดดันให้องค์กรพัฒนาเหล่านี้จดทะเบียนกับทางการ ทั้งนี้ เพื่อเข้าควบคุมการดำเนินการ

ในกัมพูชา ผู้นำฝ่ายค้านนับสิบรายถูกแบนจากการเมือง ห้ามเล่นการเมือง

มีการยุบพรรค CNRP ซึ่งยังเป็นพรรคที่อยู่ในช่วงกอบกู้ชื่อเสียงทางการเมือง และมีสิทธิทางการเมืองกลับคืนมา เพื่อให้พรรคสามารถนำพรรคของตนสู่การกลับมาทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างแข็งขันอีกครั้งหนึ่ง

พรรคการเมืองฝ่ายค้านมีคะแนนเสียงป๊อปปูลาร์ในเขตคอมมูนราว 1 ใน 5 แต่ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ชัยชนะของพรรคฝ่ายค้านในเขตคอมมูนก็ไม่สามารถเอาชนะอย่างสำคัญและท้าทายต่อพรรค CCP ของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน

ไม่เพียงแต่การบ่อนทำลายคู่แข่งทางการเมืองด้วยการยุบพรรคฝ่ายค้าน มีการพิพากษาลงโทษจำคุกผู้นำฝ่ายค้านคนดัง ทำให้หมดสิทธิ์ทางการเมือง คุกคามและกดดันสื่อมวลชนแล้ว

ระบอบอำนาจนิยมภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ยังมีความเข้มแข็งและเหนียวแน่นมากขึ้นตามลำดับ

กลางเดือนเมษายน 2566 ผู้บัญชาการทหารบก ฮุน มาเนต (Hun Manet) ลูกชายของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ซึ่งรู้กันอย่างกว้างขวางว่า เขาจะเข้ามาแทนที่พ่อของเขาในฐานะนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ก็ได้รับโปรโมตขึ้นตำแหน่งทางทหารสูงสุด1

ธันวาคม ปี 2564 นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ได้ประกาศสนับสนุนฮุน มาเนต ให้เป็นนายกรัฐมนตรีผ่านกระบวนการทางรัฐธรรมนูญ

กลางเดือนมีนาคม 2566 นายกรัฐมนตรีฮุน เซน แย้มอย่างหนักแน่นว่า เขาตั้งใจก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อรัฐบาลใหม่จัดตั้งสำเร็จหลังการเลือกตั้งเดือนกรกฎาคมปีนี้

สำนักข่าว AP รายงานว่า นายกรัฐมนตรีฮุน เซน เคยพูดว่า “…ตอนนี้เราพบว่า คนรุ่นหนุ่มสาวจะเข้ามาแทนที่เรา เราควรปล่อยให้เขา และเราอยู่ข้างหลังเขา…”2

ตอนนี้ ฮุน มาเนต อายุ 45 ปี เขาเรียนจบสถาบันการศึกษาทางทหารของสหรัฐอเมริกา เขาเคยได้รับการโปรโมตตำแหน่งทหารเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จากสมเด็จนโรดม สีหมุนี

แต่นี่เป็นการโปรโมตในฐานะกษัตริย์กัมพูชาซึ่งเป็นสัญลักษณ์ การโปรโมตตำแหน่งสูงสุดของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเท่ากับเป็นการกระชับอำนาจทางทหารให้มากขึ้น

นอกจากนี้ ฮุน มาเนต ยังจะลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะเขายังมีตำแหน่งในพรรค CCP อีกด้วย

ไม่เพียงแต่เท่านั้น แม้นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ย้ำแล้วย้ำอีกว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เขาเองก็ประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคมนี้ด้วย

เท่ากับว่า เขาและลูกชายยิ่งการันตีชัยชนะของพรรค CCP พร้อมด้วยกระชับอำนาจทางการทหารและยึดกุมอำนาจในพรรคการเมืองหลักของประเทศและในฝ่ายรัฐบาลอีกด้วย

 

ความจริงบางด้านของข่าวปลอม

ทั้งที่เราเห็นการครอบครองอำนาจอย่างต่อเนื่องและเพิ่มมากขึ้นแทบทุกอณูของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน และสมาชิกครอบครัวตระกูลฮุน แต่ด้วยกำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในไทย 14 พฤษภาคมนี้เช่นกัน แล้วการเมืองออนไลน์ ด้วยข่าวปลอม (fake news) ข่าวลวงก็เกิดขึ้นโดยมีเป้าหมายต่อการเลือกตั้งในไทยโดยตรง

จากรายงานของ COFACT THAILAND3 มีการทำคลิปเป็นภาพการซ้อมรบและมีคำปราศรัยของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ปรากฏออกมา กล่าวคือ มีภาพกองทัพกัมพูชาระดมพลซ้อมรบครั้งใหญ่ ที่จังหวัดพระตะบอง ห่างจากชายแดนไทยเพียง 20 กว่ากิโลเมตร แล้วมีคลิปภาพและเสียงนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ประกาศว่า ถ้าตัวเขาแพ้การเลือกตั้งจะเกิดสงคราม และอ้างว่าจะทวงคืนดินแดนจากไทยและเวียดนาม โดยอ้างว่าเป็นดินแดนของกัมพูชา

ข้อมูลจาก COFACT THAILAND4 ได้ข้อสรุปจากกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศที่อ้างอิงการตรวจสอบของสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญว่า คลิปภาพการซ้อมรบไม่เป็นความจริง แล้วสืบค้นได้ว่า เป็นการซ้อมรบกองทัพจีนและกัมพูชา ในรหัส Golden Dragon ปี 2563 รวมทั้งคลิปคำปราศรัยนายกรัฐมนตรีฮุน เซน กล่าวถึงการทวงคืนดินแดนจริง แต่มีการตัดต่อ แล้วยังเกิดขึ้นปี 25655 อีกด้วย

ที่สำคัญไปกว่านั้น ในข่าวปลอมอันนี้ประกอบสร้างโดยใคร? เป็นคำถามแรก

ทำเพื่อใคร? เป็นคำถามที่สอง

คำตอบแรก เด็กหนุ่มและลูกชาวบ้านที่พอรู้เทคโนโลยีอาจจะทำคลิปติ๊กต๊อก ยูทูบได้ไม่ยากนัก

แต่เด็กหนุ่มที่เก่งเทคโนโลยีทำไมใช้คอนเทนต์ซ้อมรบ สงครามที่ห่อหุ้มด้วยลัทธิชาตินิยมหน่อมแน้มเช่นนี้

เด็กหนุ่มที่ว่าคงไม่มีความรู้เรื่องการซ้อมรบและเห็นความสำคัญของการซ้อมรบจากกองทัพจีนและกัมพูชา แล้วโยงเรื่องความบาดหมางทางประวัติศาสตร์ระหว่างไทยและกัมพูชา เวียดนาม โดยเฉพาะเรื่องทวงคืนดินแดน ประวัติศาสตร์บาดหมางเป็นแบบเรียน และพร่ำสอนกันมาอย่างต่อเนื่องของสายเหยี่ยวและฝ่ายอนุรักษนิยมในกองทัพไทย มากกว่าจะอยู่ในวิธีคิดของเหล่าขาโจ้

ขาโจ้ไทยที่ไหนเขาจะอินกับความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์ แนวชาตินิยมหน่อมแน้มเช่นนี้

คำตอบที่สอง ซึ่งน่าสนใจพอๆ กัน ใครบ้างที่กำลังเป็นเดือดเป็นร้อนกับดีเบตทางการเมืองในไทย แน่นอนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และชาวบ้านทั่วไปเดือดร้อนมากเรื่องค่าไฟแพง แต่โพสต์นี้ได้จุดชนวนการวิจารณ์นโยบายปฏิรูปกองทัพ และข้อเสนอให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารของพรรคก้าวไกล

จากรายงานของ COFACT THAILAND ผู้ที่เข้ามาให้ความเห็นหลายคนต่อคลิปนี้ อ้างถึงการปราศรัยของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล บนเวทีหาเสียงที่จังหวัดกาญจนบุรี 18 มีนาคม เขากล่าวว่า “ทหารมีไว้ทำไม”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรก และไม่ใช่ความบังเอิญ หนุ่มคนหนึ่งของกองทัพไทยเก่งมาก แฮ็กข้อมูลคนไทยราว 50 ล้านรายเอามาได้ ผู้ใหญ่บอกว่า เด็กเก่งและนึกสนุก นี่ก็เด็กเก่งและนึกสนุกทำคลิปติ๊กต็อกและยูทูบ เพื่อให้คนชิงชังข้อเสนอปฏิรูปกองทัพ ของพรรคการเมือง ใครกันแน่ที่อิน และสูญเสีย ในนโยบายปฏิรูปกองทัพ

การเลือกตั้งหนนี้ได้เผยลัทธิคลั่งชาติออกมาด้วย

 


1Sopheng Cheang, “Cambodia PM’s son, tripped to succeed him, gets promotion” AP 26 April 2023

2Ibid.,

3คลิป กัมพูชาซ้อมรบ และฮุน เซน ขู่สงครามปะทุ มาจากไหนเกี่ยวกับการเลือกตั้งของไทยอย่างไร COFACT THAILAND 18 เมษายน 2023

4เพิ่งอ้าง COFACT THAILAND 18 เมษายน 2023

5เป็นการปราศรัยของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ในพิธีจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัย Asia-EURO ในกรุงพนมเปญ 23 สิงหาคม 2565 อ้างจาก COFACT-THAILAND 18 เมษายน 2023