ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 พฤศจิกายน 2560 |
---|---|
คอลัมน์ | คนของโลก |
เผยแพร่ |
เจ้าชายอัลวาลีด บิน ทาลาล แห่งซาอุดีอาระเบีย มหาเศรษฐีที่ถูกจับกุมในการปราบปรามทุจริตโดยมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน พระญาติของพระองค์ ไม่ใช่ผู้ที่อยู่ห่างไกลจากเรื่องอื้อฉาวและการตกเป็นข่าว
เจ้าชายนักลงทุนพระชันษา 62 ปี ที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกผู้นี้ ทรงเป็นหลานของบุคคลสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลกอาหรับถึง 2 คน นั่นคือ สมเด็จพระราชาธิบดี อับดุลลาซิซ อัล ซาอุด ผู้ก่อตั้งประเทศซาอุดีอาระเบีย และ ริอัด อัล โซลห์ นายกรัฐมนตรีคนแรกของเลบานอน
เจ้าชายอัลวาลีด ปรากฏตัวในวงการธุรกิจการเมืองเป็นครั้งแรกในช่วงยุคปลายทศวรรษ 1980 เมื่อเขาเริ่มต้นสร้างสิ่งที่ต่อมากลายมาเป็นอาณาจักรสื่อ โรงแรมหรู และธนาคารระดับโลก
ในช่วงทศวรรษต่อมา เจ้าชายอัลวาลีดมีภาพลักษณ์ของการเป็นนักลงทุนที่มีไหวพริบ ฉลาดหลักแหลม เป็นผู้นำเสนอภาพลักษณ์ของซาอุดีอาระเบียสมัยใหม่ และยังเป็นผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา อย่างสม่ำเสมอ
เมื่อปี 2015 พระองค์ทรงทวีตข้อความโจมตีทรัมป์ในเรื่องวาทกรรมของเขาที่ใช้ในระหว่างการหาเสียง โดยระบุว่าทรัมป์เป็น “ความอัปยศของอเมริกา” และเรียกร้องให้เขาถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งทรัมป์ตอบโต้โดยเรียกพระองค์ว่าเป็น “เจ้าชายผู้โง่เง่า”
ที่ต่อมา เจ้าชายโมฮัมเหม็ด ว่าที่สมเด็จพระราชาธิบดีของซาอุดีอาระเบียองค์ต่อไป กลายมาเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของทรัมป์
ดูเผินๆ แล้ว ทั้ง 2 พระองค์ทรงดูเหมือนจะมีมุมมองไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งคู่ทรงสนับสนุนสิทธิในการขับรถของผู้หญิงในซาอุดีอาระเบีย แต่รายงานข่าวหลายชิ้นระบุว่า มีความเป็นคู่แข่งที่ไม่ลงรอยกันอย่างเข้มข้นระหว่างทั้ง 2 พระองค์นานมาแล้วในราชสำนัก
การถูกควบคุมตัวของเจ้าชายอัลวาลีดสร้างแรงสั่นสะเทือนไปยังบริษัทหลายแห่งที่พระองค์ทรงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
บริษัท เดอะ คิงด้อม โฮลดิ้ง คอมปะนี ที่เจ้าชายทรงถือหุ้น 95 เปอร์เซ็นต์ เป็นเจ้าของบริษัท เดอะ ซาวอย ลอนดอน, แฟร์มอนต์พลาซ่า และเครือโรงแรมดังจอร์จแซงก์ ในกรุงปารีส
นอกจากนี้ เจ้าชายที่ทรงมีรสนิยมเลิศหรูยังทรงถือหุ้นในลิฟต์ บริการใช้รถร่วมกัน (แบบเดียวกับอูเบอร์และแกร็บ) และทวิตเตอร์ด้วย
เจ้าชายยังทรงเป็นนักช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่บริจาคเงินให้องค์กรด้านการกุศลปีละหลายหมื่นล้านดอลลาร์
เจ้าชายอัลวาลีดทรงเป็นแกนนำนักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีในประเทศที่ผู้หญิงเผชิญข้อจำกัดมากมาย และเป็นผู้เสนอให้มีการปฏิรูปการเมืองอย่างเปิดเผย
เจ้าชายนักธุรกิจผู้นี้ใช้เวลาเรียนระดับอุดมศึกษาในนิวยอร์กและแคลิฟอร์เนีย โดยจบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาบริหารธุรกิจจากวิทยาลัยเมนโลในซิลิคอนวัลเล่ย์ และจบการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาสังคมศาสตร์จากซีราคิวส์
นิตยสารฟอร์บส์ ประเมินทรัพย์สินของเจ้าชายไว้ที่ราว 18,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่อันดับ 45 ของมหาเศรษฐีโลกในปีนี้
เจ้าชายอัลวาลีด ปรากฏในรายชื่อมหาเศรษฐีโลกของฟอร์บส์ครั้งแรกเมื่อปี 1988 ที่ทางนิตยสารระบุว่า เจ้าชายติดต่อมาเอง ตรงตามชื่อเสียงของพระองค์ที่ทรงชื่นชอบในการออกสื่อ
อย่างไรก็ตาม เจ้าชายเคยตัดสินใจยื่นฟ้องร้องต่อฟอร์บส์ ซึ่งแจกแจงบัญชีทรัพย์สินของตนว่ามีรวมทั้งสิ้น 20,000 ล้านดอลลาร์ ฐาน “ประเมินทรัพย์สินของตนต่ำเกินความเป็นจริง” ไปถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อปี 2013