Rolling Loud และ เจย์ ปาร์ก แร็พเปอร์ผู้วางมาตรฐาน ให้วงการเค-ฮิปฮอป

บทความพิเศษ | ศรัณยู ตรีสุคนธ์

 

Rolling Loud และ เจย์ ปาร์ก

แร็พเปอร์ผู้วางมาตรฐาน

ให้วงการเค-ฮิปฮอป

 

Rolling Loud เทศกาลดนตรีฮิปฮอปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกมีจุดเริ่มต้นมาจากการเริ่มงานจัดปาร์ตี้ในไฮสกูลของสองเพื่อนซี้ แมตต์ ซิงเลอร์ และทาริก เชอริฟ ที่ชื่นชอบวัฒนธรรมดนตรี Southern Rap

ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวใน 5 เมืองสำคัญของสหรัฐอเมริกาอย่างแอตแลนตา, นิว ออร์ลีน, ฮิวจ์ตัน, เมมฟิส และไมอามี

และ Midwestern Rap ซึ่งมีวัฒนธรรมการแร็พที่มีศัพท์เฉพาะว่า “Chopper” คำสแลงที่หมายถึง “ปืนกล” เนื่องจากแร็พเปอร์จากถิ่น Midwest ของอเมริกามีลีลาการแร็พที่รวดเร็วแบบสับจนฟังไม่ทัน ไม่ว่าจะเป็น Tech N9ne, Busta Rhymes

รวมถึงกลุ่มศิลปิน แก็งค์สเตอร์ ฮิปฮอป ที่โด่งดังมาตั้งแต่ยุค 90 อย่าง Bone Thugs-n-Harmony ด้วย

คอนเซ็ปต์ในการจัดคอนเสิร์ตฮิปฮอปที่ผสมผสานวัฒนธรรมฮิปฮอปจาก 2 ฟากฝั่งในอเมริกาเริ่มจัดในช่วงฤดูร้อนของปี 2013 ในเมืองไมอามีรัฐฟลอริดาโดยเป็นการจัดเป็นประจำทุกเดือน ก่อนที่จะมีการจัดในรูปแบบเทศกาลดนตรีภายใต้ชื่อ Rolling Loud เป็นครั้งแรกในปี 2015 หลังจากนั้นก็จัดอย่างต่อเนื่องทุกปี

โดยแร็พเปอร์ที่เคยผ่านเวทีนี้มาแล้วก็มีอาทิ Juicy J, Schooboy Q, Ty Dolla $ign, Young Thug, Future

รวมถึง ทราวิส สก็อต และเคนดริก ลามาร์ สองแร็พเปอร์ระดับแถวหน้าของโลกในเวลานี้ที่เคยขึ้นโชว์ในงานอีเวนต์ของแมตต์ ซิงเลอร์ และทาริก เชอริฟ มาตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นเฟสติวัลแบบชัดเจนเลยด้วยซ้ำ

ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ได้จัดงาน Rolling Loud (เดิมทีมีการวางแผนจะจัดที่เขตเกาลูนของเกาะฮ่องกงในปี 2019 แต่ยกเลิกไปเสียก่อน)

โดยเลือกจัดงานที่ Legend Siam ในระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน ซึ่งเป็นเทศกาลสงกรานต์ที่พัทยาที่ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญและทางการเมืองพัทยาเข้ามามีส่วนร่วมด้วย

คาดว่าจะมีเงินสะพัดจากนักท่องเที่ยวนับพันล้านบาท

โดยในปีนี้นอกจากที่ไมอามีและแคลิฟอร์เนียแล้วก็ยังมีการจัดงานที่ประเทศเนเธอร์แลนด์, โปรตุเกส และเยอรมนีด้วย

ศิลปินเฮดไลน์ของงาน Rolling Loud Thailand คือ ทราวิส สก็อต, คริส บราวน์ และคาร์ดี บี

แต่นอกเหนือจากนี้เหล่าแร็พเปอร์ที่มาร่วมสร้างสีสันความมันในงานแต่ละคนก็อยู่ในระดับท็อปของวงการทั้งสิ้นอย่างเช่น Lil Uzi Vert, คู่หูแร็พเปอร์ Rae Sremmurd, Rick Ross, Waka Flocka Flame, Offset และอีกเพียบ

ที่น่าสนใจก็คือมีเหล่าแร็พเปอร์เกาหลีที่มาร่วมโชว์ด้วยหลายคนคือ เจสซี (Jessi) รวมถึง BIBI (บีบี) สองแร็พเปอร์สาวที่ได้รับการผลักดันโดยยุนมิแร ที่ถือเป็นตำนานแร็พเปอร์หญิงของเกาหลี

และ Tiger JK ที่ก็มาร่วมโชว์ในงาน Rolling Loud ครั้งนี้ด้วย โดยแร็พเปอร์สาวทั้งสองคนถือเป็นตัวจี๊ดของแร็พเปอร์หญิงตัวแทนของทวีปเอเชียบนเวทีนี้

นอกจากนี้ ก็ยังมีศิลปินฮิปฮอปอีกมากท่าร่วมโชว์ไม่ว่าจะเป็น B.I, Big Naughty, HAON, Ph-1และอีกมาก เรียกได้ว่าขนมาครึ่งค่อนวงการเลยทีเดียว

แร็พเปอร์ชายตัวแทนจากวงการเพลงเคป๊อปที่ถึงแม้ว่าจะคร่ำหวอดอยู่ในวงการมานานจนกลายเป็นรุ่นใหญ่ไปแล้วแต่ก็ยังควรค่าแก่การกล่าวถึงก็คือ เจย์ ปาร์ก (แจบอม) อดีตหัวหน้าวง 2PM ซึ่งจะมาขึ้นโชว์บนเวทีงาน Rolling Loud ในวันเสาร์ที่ 15 เมษายนนี้

ก่อนหน้านี้ เจย์ ปาร์ก เคยมาโชว์ลีลาการแร็พและการเต้นที่ไม่ธรรมดาที่ประเทศไทยมาแล้วหลายครั้ง

โดยเมื่อไม่นานมานี้ก็มาร่วมโชว์ในงานมอบรางวัล Golden Disc Awards ครั้งที่ 37 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมาด้วย โดยเจย์ ปาร์ก ได้รับรางวัล Digital Song Bonsang จากเพลง Gandara ที่ร้องคู่กับ IU

เจย์ ปาร์ก ได้รับการยกย่องจากแพตตี คิม (คิมฮเยจา) ศิลปินอาวุโสของวงการเพลงป๊อปเกาหลีว่า “เกิดมาเพื่อเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์” เนื่องจากความเสน่ห์ดึงดูดทั้งในเรื่องรูปร่างหน้าตาและความสามารถในการแร็พและลีลาเต้นที่ทั้งเข้มแข็งและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน

และจากการที่เคยเป็นอดีตผู้ก่อตั้งและซีอีโอค่ายเพลงฮิปฮอป AOMG และ H1ghr Music ที่มีศิลปินในสังกัดอย่าง Gray, Loco, ไซมอน โดมินิก, ยูคยอม แห่งวง GOT7, อีไฮ, Big Naughty, pH-1 และอีกมากมายที่ล้วนแล้วแต่เป็นแร็พเปอร์, นักร้องและนักแต่งเพลงมากความสามารถทั้งสิ้นก็เพียงพอแล้วที่จะกล่าวได้ว่า เจย์ ปาร์ก เป็นศิลปินที่มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล

และไม่ได้ทำค่ายเพลงหรือว่าทำงานเพลงเพื่อชื่อเสียง, เงินทอง หรือรางวัลเท่านั้น

 

DFSB Kollective ซึ่งเป็นเอเยนซี่ที่เผยแพร่วัฒนธรรมดนตรีเคป๊อปไปทั่วโลกกล่าวถึงเจย์ ปาร์ก ว่า “นอกจากจะเป็นศิลปินแล้ว เขาก็ยังมีเอเย่นต์พีอาร์ของตัวเอง, เป็นประธานของเหล่าแฟนคลับและมีเครือข่ายสื่อที่กว้างไกล”

ทั้งหมดนี้ผ่านการวางแผนมาอย่างรัดกุมโดยมีวัตถุประสงค์ในการโปรโมตผลงานเพลงของตัวเองและศิลปินเกาหลีที่มีฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งวงการเค-ฮิปฮอป ที่นับวันจะเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ

เห็นได้ชัดจากเหล่าบอยกรุ๊ป และเกิร์ลกรุ๊ป ที่แต่ละวงจะต้องมีแร็พเปอร์ประจำวงและถือเป็นดาวเด่นของวงด้วย

เนื่องจากวัฒนธรรมฮิปฮอปมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างอัตลักษณ์พิเศษให้กับวงการเพลงเคป๊อป กล่าวคือ การแร็พในเพลงเคป๊อปช่วยสร้างความไหลลื่นให้กับเพลงได้ดี

การหยิบยืมองค์ประกอบบางอย่างมาจากวัฒนธรรมฮิปฮอป ไม่ว่าจะเป็นการเล่นคำหรือสัมผัสของคำ (Rhyme) ที่สอดคล้องกันเข้ากันกับจังหวะของดนตรีเต้นรำ แทนที่จะเป็นบีตหรือเบสไลน์หนักๆ ในแบบอเมริกันฮิปฮอป (ซึ่งต่อยอดมาจากดนตรีเทคโน)

ทั้งหมดนี้ทำให้เพลงเคป๊อปหรือเค-ฮิปฮอปมีทั้งความไพเราะและหนักแน่นที่ได้จากท่อนแร็พไปพร้อมๆ กัน

 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเคป๊อปมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดวัฒนธรรมการเต้น Cover Dance ซึ่งขจรขจายไปทั่วโลกและท่อนแร็พก็เป็นท่อนที่เปิดโอกาสให้เหล่านักเต้นทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพโชว์ลีลาการเต้นได้อย่างสุดฝีมือที่สุด

กระแสเค-ฮิปฮอปที่สร้างคุณลักษณะอันเป็นแบบฉบับของตัวเองไกลถึงระดับนี้ได้คงไม่ผิดนักหากจะบอกว่า เจย์ ปาร์ก ก็มีส่วนสำคัญอยู่ไม่น้อยในการผลักดัน

เนื่องจากงานเพลงของเขามีวัฒนธรรมฮิปฮอปในแบบอเมริกันครบทุกองค์ประกอบไม่ว่าจะเป็นบีตฮิปฮอปทั้งในแบบดั้งเดิมและร่วมสมัย รวมถึงฟอร์มการแร็พที่ได้รับอิทธิพลมาจากแร็พเปอร์โอลด์สกูลไม่ว่าจะเป็น Nas, Jay-Z, Tupac, Dr. Dre

ส่วนท่าเต้นที่พลิ้วไหวและรุ่มรวยไปด้วยไอเดียได้รับอิทธิพลจากไมเคิล แจ๊กสัน มาแบบเต็มๆ

โดยฮิปฮอปเป็นเสาหลักในงานเพลงของเจย์ ปาร์ก ก็จริงแต่โครงสร้างของเพลงก็ยังมีกลิ่นอายของดนตรีอาร์แอนด์บี, ป๊อป, อะคูสติก ไปจนถึงสัมผัสของดนตรี ฟังก์/โซล อีกด้วย

เจย์ ปาร์ก ปล่อยเพลงใหม่อย่าง Yesterday ออกมาในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์

เพลงนี้เป็นเพลงรักที่แสดงให้เห็นว่า เจย์ ปาร์ก ร้องเพลงป๊อป/อาร์แอนด์บีได้อย่างยอดเยี่ยมในระดับที่ว่าสามารถเอาดีในการเป็นนักร้องเดี่ยวสายโวคอลได้เลย

Love is Ugly อีกหนึ่งเพลงใหม่ที่ได้ ฮวาซา แห่งวง MAMAMOO มาร่วมฟีเจอริ่งก็เป็นเพลงป๊อป/นีโออาร์แอนด์บีที่เพราะมาก

ส่วนเพลงฮิตอื่นๆ ของเจย์ ปาร์ก อย่าง Blue Check, DNA, Need To Know, On Air, Oscar, Dank, All I Wanna Do, To Life, Mommae และอีกมากมายแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณความเป็นศิลปินฮิปฮอปของชายหนุ่มผู้นี้อย่างชัดเจน

ส่วนการจัดอันดับล่าสุดของทางเว็บไซต์ Kulture Vulturez เจย์ ปาร์ก ติดอยู่ในอันดับที่ 2 ของแร็พเปอร์เกาหลีที่ดีที่สุด

อันดับ 1 เป็นของเจสซี อันดับ 3 เป็นของ CL อันดับ 4 เป็นของมิโน (Mino) และอันดับ 5 เป็นของซิโค่ (ZICO)

เจย์ ปาร์ก จะขึ้นเวทีงาน Rolling Loud ในวันที่ 15 เมษายนนี้ หนึ่งวันหลังจากที่มติชนสุดสัปดาห์ฉบับที่ท่านกำลังอ่านอยู่วางจำหน่าย

ซึ่งการขึ้นโชว์บนเวทีเทศกาลดนตรีฮิปฮอปที่ได้รับการยอมรับสูงสุดในวงการฮิปฮอปร่วมสมัยแบบนี้รับรองได้เลยว่าจะต้องมันแบบทะลุองศาเดือดของหน้าร้อนเมืองไทยแน่นอน

นี่คือคำทำนายล่วงหน้าก็จริง แต่เชื่อขนมกินได้เลยว่าไม่มีทางผิดไปจากนี้แน่นอน