หนุ่มเมืองจันท์ : Why are Y

งานมหกรรมหนังสือฯ ที่จบไป ผมมีเรื่องเล่าอยู่ 2 เรื่อง

เรื่องแรก เป็นเรื่องส่วนตัวที่เพิ่งสังเกตเห็น

ตามปกติในงานหนังสือ ผมจะไปลงอาคมประจำที่บู๊ธสำนักพิมพ์มติชนเป็นส่วนใหญ่

และจัดคิว 1 วันไปนั่งประจำการเพิ่มที่บู๊ธบีทูเอส

ที่น่าสนใจก็คือ ตอนที่นั่งอยู่บู๊ธสำนักพิมพ์มติชน กลุ่มคนที่มาขออาคมมักจะเป็นมิตรรักแฟนหนังสือที่คุ้นหน้าคุ้นตากันมานาน

มีทั้งผู้ใหญ่และคนหนุ่มสาว

จำชื่อไม่ได้ แต่จำหน้ากันได้

แต่พอเป็นกลุ่มคนหน้าใหม่ที่มาขอลายเซ็น

คนหนุ่มสาวก็มีบ้าง

แต่ส่วนใหญ่กลับกลายเป็นว่า เป็น “ผู้ใหญ่”

ตอนแรกผมก็เข้าใจว่าหนังสือของผมเป็นเรื่องธุรกิจและแรงบันดาลใจเหมาะกับคนทำงาน

แต่พอไปประจำการบู๊ธบีทูเอสที่อยู่ในโซนแพลนนารี ฮอลล์

บรรยากาศเปลี่ยนเลยครับ

เหมือนนั่งอยู่หน้าสยามพารากอน

คนหนุ่มสาว นักเรียน นักศึกษาเดินผ่านไปผ่านมาเต็มไปหมด

แตกต่างจากโซนพลาซ่าที่คุ้นเคย

อาจเป็นเพราะสำนักพิมพ์คนรุ่นใหม่กระจุกตัวอยู่ในโซนนี้

กลุ่มนี้ไม่ใช่ “หนอนหนังสือ” ระดับที่ต้องเดินให้ครบทุกบู๊ธ

เขามีเวลาจำกัด ก็เลือกเดินเฉพาะโซนที่มีหนังสือที่เขาต้องการ

ที่บู๊ธบีทูเอส คนที่มาขอลายเซ็นจึงเป็นคนหนุ่มสาว

ตอนแรกคิดว่าเขาเห็นนักเขียนหน้าตาน่าสงสารก็เลยซื้อสักเล่ม

แต่พอถามดูปรากฏว่าทุกคนเคยอ่านหนังสือของผมมาแล้ว

เหตุที่ไม่เคยเจอกัน เพราะพื้นที่ของเด็กกลุ่มนี้ในงานหนังสือคือโซนแพลนนารี ฮอลล์

นี่คือข้อมูลใหม่ที่ผมได้จากงานมหกรรมหนังสือฯ

เหมือนกับที่ผมเปิดขาย “ชีวิตผิดได้” ผ่านทางแฟนเพจ

ผมได้รู้จักคนอ่านหนังสือตัวเองมากขึ้น

บางคนก็บอกด้วยว่าอ่านแล้วชอบเรื่องไหน ไม่ชอบเรื่องไหน

ชอบมากเลยครับ

เพราะยิ่งรู้จักคนอ่านมากเท่าไร

เราก็จะพัฒนางานเขียนของเราได้ดีขึ้น

ดีกว่าการเดาสุ่มไปเรื่อยๆ

แต่อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะเล่าให้ฟัง

ไม่ได้เกี่ยวกับหนังสือของผมครับ

แต่เป็นเรื่องหนังสือขายดีแบบเงียบๆ ในงาน

ผมรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเดือนเมษายนแล้ว

ว่าจะเขียนแต่ลืมครับ

จนงานมหกรรมหนังสือฯ ที่ผ่านมา ได้คุยกับน้องๆ ที่ขายหนังสืออีกครั้ง

ข้อมูลยังเหมือนเดิม

แบบนี้ต้องเขียนถึงแล้วล่ะครับ

มีหนังสือกลุ่มหนึ่งที่ขายดีมาก คือ หนังสือตระกูล Y

งงใช่ไหมครับ

Y มาจากคำว่า yaoi ในภาษาญี่ปุ่น

แปลว่า “ชายรักชาย”

ไม่ใช่หนังสือ 18+ ที่เน้นฉากอีโรติกนะครับ

เป็นหนังสือรักโรแมนติกแบบวัยรุ่นทั่วไป เพียงแต่พระเอกและนางเอกเป็นเพศเดียวกันเท่านั้นเอง

ฉากเลิฟซีนก็กุ๊กกิ๊กธรรมดา

น้องที่ขายหนังสือเขาเล่าให้ฟังนะครับ

หนังสือกลุ่มนี้แตกต่างจากหนังสือทั่วไป เพราะมีสำนักพิมพ์ที่พิมพ์แนวนี้น้อยมาก

และบางเรื่องคนเขียนพิมพ์เอง

เริ่มต้นจากเขียนเป็นนิยายในออนไลน์

มีแฟนกลุ่มหนึ่งที่ติดตาม

พอถึงงานหนังสือ เขาก็พิมพ์รวมเล่มเอง

นอกจากขายทางออนไลน์ก็ขายในงานหนังสือตามบู๊ธที่รับขาย

เพราะร้านหนังสือทั่วไปไม่ยอมขายหนังสือ Y

ในงานสัปดาห์หนังสือฯ ครั้งที่แล้วมีปรากฏการณ์หนึ่งเกิดขึ้น

หนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า Sugar addict ของ MAME ครับ

เขาโฆษณาในเว็บของเขาว่าจะเปิดขายในงานหนังสือวันไหน

เชื่อไหมครับว่าวันนั้นมีคนมายืนต่อคิวรอซื้อตั้งแต่ก่อนเปิดบู๊ธ

แถวยาวไปจนถึงประตูแพลนนารี ฮอลล์

หนังสือชุดนี้พิมพ์แค่ 500 เล่ม ราคาชุดละ 550 บาท

…ชั่วโมงเดียวหมด

275,000 บาทครับ

แต่งานมหกรรมหนังสือฯ ครั้งที่ผ่านมา ผมไม่ได้ถามรายละเอียดว่ามีเล่มไหนขายดีแบบนี้หรือเปล่า

รู้แต่ว่าบู๊ธนี้หนังสือ Y ขายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 2 แสนบาท

นี่คือปรากฏการณ์ที่น่าสนใจมาก

ถามว่า “คนซื้อ” เป็นใคร

ลองทายสิครับ

…เกย์

…ผู้ชาย

ไม่ใช่ครับ

อย่าตกใจนะครับถ้าบอกว่าคนซื้อคือ “ผู้หญิง”

และส่วนใหญ่เป็นนักเรียน ม.ปลาย กับนิสิตนักศึกษา

ใส่ชุดนักเรียนนักศึกษามาเลยครับ

งงไหมล่ะ

ถามว่าทำไมชอบอ่านแนวนี้

น้องที่ขายหนังสือบอกว่าเขาก็ถามน้องๆ กลุ่มนี้เพราะอยากรู้เหมือนกัน

มี 2 เหตุผลครับ

เหตุผลแรก น้องๆ ตอบว่าเธออิจฉาผู้ชายหน้าตาดี มีแฟนหน้าตาดีกว่าเรา

แบบนี้ให้พระเอกหน้าตาดีรักผู้ชายด้วยกันดีกว่า

เป็นอารมณ์แบบเดียวกับที่เกาหลี

ที่เขาเรียกว่า “แฟนฟิก”

ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งไม่พอใจนักร้องชายที่มีแฟนเป็นดาราสาวสวยก็เลยแต่งเรื่องใหม่

“จิ้น” ให้เป็นแฟนกับนักร้องดังอีกคนหนึ่ง

ที่เป็น “ผู้ชาย”

ประมาณว่า ถ้า “ฉัน” ไม่ได้ผู้ชายคนนี้ “เธอ” ก็อย่าได้

ให้ “เขา” ได้ดีกว่า

อีกเหตุผลหนึ่ง คือ “ขี้เบื่อ”

อ่านนิยาย “ชาย-หญิง” แล้วเบื่อ

เนื้อเรื่องซ้ำๆ ฉากเลิฟซีนก็เหมือนเดิม

อ่าน “ชายรักชาย” จิ้นกว่า

…ฟิน

คงคล้ายๆ กับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองไทย

จำ “คู่จิ้น” ตระกูล Y ในวงการบันเทิงได้ไหมครับ

ตอนเดอะ สตาร์ ก็มี “โตโน่-ริท”

เอเอฟ ก็มี “คชา-เต๋า”

ทุกครั้งที่มีคอนเสิร์ต พอ “คู่จิ้น” 2 คู่นี้ออกมา

กรี๊ดสนั่น

และคนกรี๊ดก็คือสาวๆ

หรือในละครชุดฮอร์โมนฯ ก็มีเช่นกัน

และคนที่ฟินก็คือ “ผู้หญิง” เหมือนเดิม

ส่วน “ผู้ชาย” ยืนงงๆ

กระแส “ชายรักชาย” ที่สาวๆ ชอบทำให้หนังสือตระกูล y ที่ขายดีมีคนซื้อไปทำละครโทรทัศน์แล้ว

ถ้าข้อมูลไม่ผิด น่าจะเป็นช่อง GMM 25

ผมฟังน้องๆ ในบู๊ธนี้เล่าอย่างตื่นตาตื่นใจ

ถึงขนาดยอมเสียมารยาทขอกระดาษจดเลย

ถามว่าฟังแล้วเข้าใจไหม

ตอบเลยว่าไม่เข้าใจ

แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา

ในโลกนี้คงต้องมีบางเรื่องที่เราเข้าใจอย่างดีระดับ “รู้สึก” ได้

แต่มีบางเรื่องที่เราแค่ “รู้”

แต่ “ไม่รู้สึก”

รู้แบบ “ตถตา” ครับ

…มันเป็นเช่นนั้นเอง