คอลัมน์ประจำ

บีบหัวใจ ‘ประชาธิปัตย์’

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 กุมภาพันธ์ 2566
เผยแพร่

การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ชัดเจนแล้วว่าภาคใต้จะเป็นพื้นที่ที่การต่อสู้ดุเดือดที่สุด

ที่เป็นเช่นนั้นเพราะภาคใต้ได้กลายเป็นพื้นที่ไร้เจ้าที่ หลังประชาธิปัตย์กลายเป็นพรรคที่ไม่เหลือความหวังว่ามีศักยภาพพอเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้

ประชาธิปัตย์ที่สถานการณ์การเมืองลดไซซ์จากพรรคขนาดใหญ่เป็นที่หนึ่ง หรือที่สองในการเลือกตั้ง ต่อมาเป็นพรรคขนาดกลางคล้อยมาทางขนาดเล็กลงเรื่อยๆ ระดับที่หัวหน้าพรรคไม่ได้อยู่ในอันดับโพลของผู้ที่ประชาชนจะเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกแล้ว

การเสียสถานะเช่นนี้ ทำให้พรรคประชาธิปัตย์รักษาความเป็นเจ้าที่ในพื้นที่ภาคใต้ไม่ได้ไปด้วย

และเพราะไม่มีใครเป็นเจ้าที่ จึงเป็นโอกาสของทุกพรรคที่จะลงไปช่วงชิงคะแนนเสียง

โอกาสที่ประชาธิปัตย์ปล่อยให้หลุดมือ ให้ทุกพรรคมีความหวังนี้เอง จึงทำให้เกิดการต่อสู้ดุเดือดยิ่ง

ทุกพรรคต่างทุ่มเต็มกำลังเพื่อช่วงชิงความเป็นเจ้าของพื้นที่แทน เพราะหากปักธงได้ครั้งนี้ เท่ากับโอกาสได้ครอบครองยาวในอนาคต

 

ความเป็นจริงนี้ปรากฏแล้วในผลสำรวจของ “นิด้าโพล” สำรวจแบบเจาะลึก โดยใช้คนนครศรีธรรมราชเป็นตัวแทนคนภาคใต้

หากแบ่งตามคำถามของ “นิด้าโพล” เป็นความนิยมใน 3 เรื่องคือ

หนึ่ง บุคคลที่จะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี

คำตอบที่ออกมาคือ อันดับ 1 ร้อยละ 29.08 เป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จาก “พรรครวมไทยสร้างชาติ”

อันดับ 2 ร้อยละ 21.07 เป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย

อันดับ 3 ร้อยละ 10.53 ยังหาตัวคนที่เหมาะสมไม่ได้

สำหรับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อยู่ที่แค่ร้อยละ 7.33 มาเป็นอันดับ 5 ตามนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกลที่ได้ร้อยละ 8.93 ที่มาเป็นอันดับ 4 เสียด้วยซ้ำ

เมื่อถามถึงคนที่แนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส.ในระบบแบ่งเขต แม้ “ประชาธิปัตย์” จะอยู่ในอันดับ 1 แต่ก็แค่ร้อยละ 22.29 โดยมีผู้ที่เบียดมาติดๆ เป็นคนของ “พรรคเพื่อไทย” ที่ร้อยละ 21.68 และพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ร้อยละ 21.22

ในคำถามที่ว่าจะเลือก ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคใด กลับกลายว่าอันดับ 1 เป็น “เพื่อไทย” ร้อยละ 22.44 อันดับ 2 เป็น “ประชาธิปัตย์” ร้อยละ 20.69 มี “รวมไทยสร้างชาติ” เป็นอันดับ 3 ร้อยละ 20.69

 

ความน่าสนใจอยู่ที่ “คนของพรรคประชาธิปัตย์” จะมองผลโพลนี้อย่างไร

หากยังมองในมุมที่เข้าข้างตัวเอง พยายามวิเคราะห์ให้คนที่ได้ฟังเชื่อว่าความนิยมของพรรคยังมั่นคง ด้วยการหยิบเอาความนิยมในตัวผู้สมัครพื้นที่ซึ่งยังมาเป็นอันดับหนึ่ง ก็ดูจะทำให้อุ่นใจได้อยู่

แต่หากเอากระแสพรรค และกระแสผู้นำพรรคที่เคยเป็นจุดขายสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ภาคใต้ ในระดับที่เชื่อกันว่ากระทั่งส่ง “เสาไฟฟ้า” ลงสมัครก็จะยังได้รับเลือก จากผลโพลนี้สะท้อนความความเป็นจริงนั้นเปลี่ยนไปแล้ว ไปไกลเสียด้วย

ยิ่งไม่สามารถลบภาพลักษณ์ของพรรคที่มีทางเลือกแค่ “สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ทางเดินของประชาธิปัตย์ยิ่งตีบตันยิ่ง

เพราะกลายเป็น “พรรคที่รอน้ำใต้ศอก” จาก “พรรคที่เป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่สุดในพื้นที่ที่ตัวเองเคยเป็นเจ้าที่”

เกมการเมืองรอบนี้ จึงชวนให้อึดอัดยิ่งสำหรับความรู้สึก “ผู้มีความเป็นประชาธิปัตย์เข้มข้นในสายเลือด”