เปลี่ยนผ่าน | ทีมงาน FEED

 

ชีวิตหลังจากนี้

ของ ‘นอท กองสลากพลัส’

 

หลังจาก “นอท-พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์” ทำเพจไฮไลต์ฟุตบอลต่างประเทศได้ประมาณ 7-8 ปี เขาก็พบเจอเส้นทางธุรกิจใหม่ คือการขายล็อตเตอรี่ออนไลน์

เขาจึงก่อตั้งธุรกิจใหม่ “กองสลากพลัส” ขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน ท่ามกลางอุปสรรค คำสบประมาท การแข่งขัน และดราม่าต่างๆ นานา ที่เจ้าตัวเล่าว่า ชีวิตนี้ต้องสู้ ถ้าไม่สู้ ธุรกิจคงพังไปตั้งนานแล้ว

“ที่ผ่านมาก็มีการจ้างมือปืนมาจากต่างประเทศ แต่เราก็เข้าไปเคลียร์แล้ว และตอนนี้เราเจ้าเดียวที่ยังยืนอยู่ได้ คือแพลตฟอร์มอื่นก็โดนตรวจสอบกันไปบ้าง โดนปิดกันไปบ้าง

“และดราม่าส่วนใหญ่ที่เขาว่าผมก็คือ ผมมีเส้นแล้วไปสั่งปิดเจ้าอื่น ผมถามกลับคำเดียวเลย ถ้าเขาไม่ทำผิด ใครจะไปปิดเขาได้ แต่ที่ผมไม่โดนปิดเพราะผมสามารถผ่านการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างมาได้ทั้งหมด นั่นแหละที่ทำให้ผมยังคงยืนอยู่ได้”

นอทเปิดใจ (ก่อนที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเข้าตรวจค้นสำนักงานบริษัทกองสลากพลัส เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566)

 

ซีอีโอกองสลากพลัสยืนยันว่าการทำธุรกิจของเขาไม่มีใครเป็นแบ๊กอยู่เบื้องหลัง และหากใครคิดจะมาแบ๊กก็คงเหนื่อยน่าดู เพราะตนเองเป็นคนมีบุคลิก “ชนแหลก”

ดังนั้น ความสำเร็จที่ผ่านมาทั้งหมดของกองสลากพลัสจึงเป็นของเขากับทีมงานล้วนๆ ไม่ขอยกเครดิตให้ใครอื่นทั้งนั้น รวมถึงไม่ยกเงินให้ใครด้วย

และทุกวันนี้ ตนก็ไม่ได้คิดถึงแค่ลูกหรือครอบครัวของตัวเอง แต่ยังคิดถึงทีมงานในบริษัทอีก 400 คน ซึ่งถ้าเราล้มหรือแพ้เพียงคนเดียว อีก 400 ครอบครัวก็จะมีปัญหาตามมาแน่ๆ

“ตอนนี้รู้สึกหนักใจมากที่สุดเลย คือ เรื่องที่รัฐบาลไม่เข้าใจ เช่น กรณีของนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าท่านไม่ได้รับข้อมูลรอบด้าน และอีกอย่างที่กังวลใจ คือ ประชาชนที่ได้รับข้อมูลแค่บางส่วน ซึ่งส่วนตัวไม่ได้สนใจว่าใครจะคิดอย่างไร

“แต่การที่มีชื่อเสียงด้านลบไปแล้ว (มี) คนหนึ่งไปบอกต่อกันเรื่อยๆ วันนี้มันอาจจะไม่ใหญ่โต แต่ถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ มันจะใหญ่จนเราควบคุมไม่ได้ ยอมรับว่าหนักใจอยู่ แต่สิ่งที่ทำได้ก็เพียงแต่ออกมาชี้แจงไปเรื่อยๆ โดยหวังว่าจะมีคนเข้าใจเรามากขึ้น”

ส่วนที่มีคนกล่าวหาว่าเขาเป็น “คนสีเทา” นอทก็ถามกลับทันทีว่า “ไอ้ที่ว่าเทามันคืออะไร?”

ก่อนที่เขาจะขยายความว่า ถ้ามองว่าการขายล็อตเตอรี่เป็นธุรกิจสีเทา มันก็เทา

แต่ถ้ามองว่าเขาเป็นคนที่หาเงินตามปกติ ไม่มีเงิน ก็ไปกู้ยืมคนอื่นมา ไปกู้ยืมมาใช้ เสร็จแล้วก็ให้ดอกเจ้าหนี้ แล้วก็ได้กำไรในบริษัท สิ่งเหล่านี้ไม่ถือว่า “เทา” เพราะทุกบริษัทในประเทศนี้ต้องกู้ยืมหมด อยู่ที่ว่าไปกู้ยืมใคร กู้ยืมธนาคาร กู้ยืมนักธุรกิจด้วยกัน กู้ยืมบริษัทอื่น กู้ยืมนอน-แบงก์

“หาว่าผมเงินเทาบ้าง สารพัดสารเพที่จะด่า มันบรรยาย มันเยอะมาก แต่เมื่อใดก็ตาม ที่มันฟ้องได้ ผมฟ้องหมด เตือนไว้แล้ว ตอนนี้ฟ้องอยู่ 40-50 คดีแล้ว น่าจะเอาเงินไปสร้างโรงพยาบาลได้แล้วมั้ง คนเหล่านี้ต้องได้รับการสั่งสอน ต้องได้รับบทเรียนว่าไม่ใช่ว่าคุณมีโทรศัพท์มือถือ แล้วคุณจะพูดจาร้ายๆ ใส่ใครก็ได้”

เมื่อถามนอทถึงสาเหตุที่เขายอมทุ่มเงิน 67 ล้านบาท เพื่อซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลอาเซียนคัพในประเทศไทย เจ้าตัวตอบว่า การตัดสินใจดังกล่าวไม่ได้เชื่อมโยงกับรัฐบาล หรือทำเพื่อสนับสนุนผู้มีอำนาจฝ่ายใด แต่เป็น “การตลาด” ของบริษัท เพื่อทำให้คนรู้จักแบรนด์ “กองสลากพลัส” มากขึ้น

“ตื่นขึ้นมาแล้วเงินในบริษัทมันเหลือ ก็คือกำไร เขาส่งยอดมาให้ผมดูเนอะ ผมก็เห็นว่าเฮ้ย 200 กว่าล้าน มันยังมีเศษอยู่นี่หว่า แล้วคนไทยไม่ได้ดูบอล ซึ่งในฐานะที่เป็นซีอีโอด้วย เป็นนักการตลาดด้วย โอกาสนี้คือโอกาสที่จะเปิดตัวแบรนด์กองสลากพลัสให้คนไทยมากกว่าครึ่งรู้จัก ทำไมจะไม่เอาครับ แค่ 60 กว่าล้าน

“ผมถามจริงๆ ว่าผมทำมาทั้งปีเนี่ย ผมหมดเงินไป 500-600 ล้าน ผมยังไม่ได้เท่า 67 ล้านนี้เลย ถ้ามองมุมนี้แล้ว มันไม่มีเหตุผลใดที่ผมจะไม่ซื้อ”

“นอท กองสลากพลัส” ยังให้สัมภาษณ์ถึงอนาคตทางการเมืองของตนเองว่า ตอนนี้ได้รับการทาบทามจากเกือบทุกพรรค ตั้งแต่ 6 เดือนที่แล้ว โดยอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะลงสมัครทางการเมืองหรือไม่เร็วๆ นี้

แต่ถ้าทำงานการเมืองแล้วสามารถแก้ไขปัญหาอะไรบางอย่างให้ประเทศไทยได้ ตนเองก็อยากจะบอกลูกเหมือนกันว่า “พ่อเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร”

“จุดยืนทางการเมืองของผมไม่ประชาธิปไตย ไม่รัฐบาล เน้นแก้ปัญหาเป็นหลัก ใครแก้ปัญหาให้ประเทศชาติได้ ผมก็มองตรงนั้น ผมสนใจว่าปัญหาล็อตเตอรี่มันเป็นอย่างนี้ ปัญหาบ่อนมันเป็นอย่างนี้ ปัญหาโสเภณีมันเป็นอย่างนี้ ปัญหามันอยู่ตรงไหน ถ้าใครแก้ปัญหาที่มันส่งผลต่อคนไทยเนี่ย ผมชอบคนนั้น

“และถ้าลง (เลือกตั้ง) จริงๆ (ประชาชน) ก็เลือกผมหน่อยนะ ผมจะเข้าไปแก้ปัญหาให้”

นอทเผยเรื่องนี้กับทีมงาน FEED ตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่ 2566 ก่อนที่เขาจะออกมาแถลงข่าวเรื่องการก่อตั้งพรรคการเมืองชื่อ “เปลี่ยน” ในกลางเดือนมกราคม

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022