บันได ‘ความฝัน’

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

ผมชอบตั้งคำถามเรื่อง “ความฝัน” กับคนอื่นๆ

อยากรู้ว่าเขามีความฝันอะไรที่อยากทำแล้วยังไม่ได้ทำบ้าง

ชอบคนที่มี “ความฝัน” ครับ

แต่พอเจอคำถามย้อนว่า แล้วตัวผมมีความฝันอะไรที่ยังค้างคาใจบ้าง

จะตอบไม่ได้

เพราะผมรู้สึกว่าคำว่า “ความฝัน” มันต้องเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ ไกลเกินสุดมือเอื้อมในวันนี้

แต่ผมมีเพียงแค่ “ความอยาก”

เป็นบันไดขั้นเล็กๆ ที่แค่พอมีเวลาหรือลงแรงนิดๆ ก็ทำได้แล้ว

จำได้ว่าเคยมีเรื่องเดียวที่พอจะบอกได้ว่าเป็น “ความฝัน”

นั่นคือ อยากไปดูฟุตบอลโลกที่สนามจริงๆ

และได้ไปดูแล้วที่เกาหลีใต้

ดูจบก็ไม่ได้รู้สึกว่าอยากดูอีก

ดูในทีวีเหมือนเดิมดีกว่า

มีภาพรีเพลย์ให้ดูด้วย

อีก “ความฝัน” หนึ่งที่ไม่เคยบอกใคร คือ ผมอยากมีรถประจำตำแหน่ง

และมีคนขับรถ

นั่งถามตัวเองว่าทำไมถึงมี “ความฝัน” แบบนี้

น่าจะเป็นเพราะความเคยชินมีคนขับรถให้ตั้งแต่เรียนจบมาใหม่ๆ

แฮ่ม… คือ คนขับแท็กซี่ครับ

ผมไม่เคยซื้อรถส่วนตัว ใช้บริการรถแท็กซี่มาตลอด

ข้อดีมากของการนั่งรถแท็กซี่ คือ เราสามารถทำงานได้ตอนเดินทาง

สมัยที่ผมเป็นนักข่าว ตอนเช้าที่เดินทางมาทำงาน

บางวันผมโทร.หาแหล่งข่าวได้ 2-3 คนก่อนถึง “มติชน”

นอกจากนั้น การนั่งรถแท็กซี่ไม่ต้องหาที่จอดรถ

ถึงที่หมายก็โดดลงจากรถ ทำงานได้เลย

คล่องตัวมาก

ตอนผมออกมาตั้งบริษัทส่วนตัวเล็กๆ

พอบริษัทเริ่มมีกำไร สิ่งแรกที่ผมทำก็คือ ซื้อรถและจ้างคนขับรถ

ยอมลดเงินเดือนตัวเองลงมาให้คนขับรถ

ทำทุกอย่างเพื่อให้ “ความฝัน” เป็นจริง 555

คนอื่นอาจเรียกว่า “รถประจำตำแหน่ง”

แต่ผมเรียกในใจด้วยความคุ้นเคย

“แท็กซี่ส่วนตัว”

 

ล่าสุด ผมมี “ความฝัน” ใหม่ที่เพิ่งทำสำเร็จ

เป็น “ความฝัน” ที่สูงมาก

เริ่มจากปีที่แล้ว ผมกับพี่น้องตัดสินใจเปิดขายทุเรียนและมังคุดออนไลน์

เพราะทนการกดราคาของ “ล้ง” ไม่ได้

“ล้ง” ต้องการมังคุดเรียบมัน ทุเรียนหนามสวย

แต่สวนของผมปลูกผลไม้แบบอินทรีย์

ร่องรอยของแมลงต่างๆ ย่อมอยู่บนผิวมังคุดและเปลือกทุเรียน

เรียบร้อยครับ “ล้ง” จัดอยู่ในเกรดต่ำสุด

ราคาต่ำกว่าราคาที่รับซื้อทั่วไปกว่าครึ่ง

โชคดีที่ผมมีเพจของตัวเองและมีประสบการณ์เคยขายหนังสือออนไลน์มาแล้ว

เสนอพี่น้องว่าเราตัดสินใจลองเสี่ยงบุกเบิกการขายออนไลน์กันไหม

ทุกคนโอเค

แต่ใครจะไปคิดว่าการขายออนไลน์จะประสบความสำเร็จจนน่าตกใจ

จำได้ว่าสภาพการคัดทุเรียน แยกมังคุดทุลักทุเลมาก เพราะใช้ที่ว่างบ้านจอยและบ้านคนงานในการทำงาน

พื้นที่เล็กมาก

ปีนี้เลยตั้งหลักใหม่

ผมสร้างโรงเรือนเล็กๆ เทปูน ทำหลังคาเมทัลชีท พื้นที่ใช้สอยประมาณ 140 ตารางเมตร

กว้างขวางสะดวกสบาย

เป็นการเตรียมสถานที่เพื่อรับมือกับการบรรจุทุเรียน-มังคุด ในปีหน้า

กระเป๋าแฟบเลยครับ

แต่เมื่อทำธุรกิจ อะไรที่จำเป็นต้องลงทุนก็ต้องลงทุน

อย่างเช่น โรงเรือน

และแฮ่ม… “บันไดแห่งความฝัน” ของผม

 

สวนของ “ป๋า” ถูกตัดออกเป็น 6 แปลงตามจำนวนพี่น้อง

แปลงของผมจะเป็นเนินสูง ไม่ติดคลอง

ตอนที่เดินดูสวนตั้งแต่วันแรก ผมมองเห็น “เขาแกลบ” อยู่ไกลลิบๆ

มองจากแนบราบจะมีต้นทุเรียน มังคุดบังอยู่

ผมเริ่มจินตนาการว่าถ้ายืนอยู่สูงกว่านี้ เราจะเห็นภูเขาไหม

จะปีนต้นไม้ดู อะไหล่วัยนี้ก็หายาก

วันหนึ่ง น้องเอาโดรนขึ้นมาบินถ่ายรูปสวนเล่น ผมก็ขอให้เอาโดรนบินสูงประมาณ 5 เมตร แล้วหันกล้องไปที่ภูเขาที่อยู่ไกลลิบๆ

อยากรู้ว่าเห็นไหม

ใช้ได้ครับ เห็นชัดขึ้นกว่าตอนยืนอยู่ที่พื้นดิน

ภาพนั้นติดอยู่ในใจผม

เมื่อต้องลงทุนทำโรงเรือน ผมก็แอบกระซิบถาม “ช่างหนุ่ม” ว่าเราสามารถทำดาดฟ้าบนหลังคาได้ไหม

มีบันไดเล็กๆ ขึ้นด้านข้าง

“ช่างหนุ่ม” อธิบายให้ฟังว่าต้องทำอย่างไรบ้าง แล้วตบท้ายสั้นๆ

“60,000 บาทครับ”

ถามว่าการลงทุนกับดาดฟ้าเล็กๆ นี้ ช่วยอำนวยความสะดวกอะไรกับการคัดแยกทุเรียนหรือมังคุดบ้าง

คำตอบคือ…

… “อย่าถาม”

เพราะการใช้เงินเรื่อง “ความฝัน” มันคิดแบบการลงทุนธุรกิจปกติไม่ได้

ห้ามใช้ต่อม “เหตุผล”

ต้องใช้ต่อม “ความรู้สึก” อย่างเดียว

วันนี้ “บันไดแห่งความฝัน” ของผมเสร็จแล้วครับ

เหยียบย่างขึ้นไปทำพิธีเปิด “ดาดฟ้า” เรียบร้อย

แม้ภูเขาจะอยู่ไกลลิบๆ

แต่ตอนพระอาทิตย์ตก สวยทีเดียว

เหมาะกับการนั่งกินหมูกระทะมาก 555

แต่ขัดใจนิดนึงตรงที่มีใบของต้นขนุนบังภูเขาอยู่

ผมรีบลงมาบอกคนสวนว่าพรุ่งนี้ให้ตัดยอดขนุนต้นนี้ลงนิดนึง

“ทำไมหรือครับ” คนสวนถาม

ผมทำหน้านิ่งๆ บอกตามตรง

“มันบังภูเขา”

คนสวนทำท่างงๆ กับเหตุผล

ส่วนผมก็พยายามหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองอย่างเต็มที่

แล้วก็นึกถึงชื่อหนังสือเล่มนี้

“ความรู้สึก คือ เหตุผลอย่างหนึ่ง”

แม้จะไม่มีเหตุผลก็ตาม •

 

ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ | หนุ่มเมืองจันท์

www.facebook.com/boycitychanFC