หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๕๗) | ฟ้า พูลวรลักษณ์

บทความพิเศษ | ฟ้า พูลวรลักษณ์

 

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๕๗)

 

ประเทศจีนมีแม่น้ำสำคัญสองสายไหลผ่าน คือแม่น้ำเหลืองและแม่น้ำแยงซีเกียง สองสายนี้ไหลออกสู่ทะเล โดยไหลจากทิศตะวันตกไปสู่ทิศตะวันออก

แต่ยังมีแม่น้ำนามธรรมสายหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด แม่น้ำนามธรรมสายนี้คือแม่น้ำนามธรรมขงจื๊อ เป็นที่มาของความเจริญและความเสื่อม

แม่น้ำนามธรรมขงจื๊อนี้ เริ่มต้นในยุคชุนชิว กำเนิดจากขงจื๊อ (551-479 BC) แรกเริ่มเดิมทีก็เป็นแม่น้ำเล็กๆ หนึ่งในร้อยสาย ในยุคนั้น ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยความคิดหลากหลาย ร้อยความคิด ร้อยนักปราชญ์

แม่น้ำนามธรรมขงจื๊อ ยึดถือในหลักธรรม หลักคิด และวัฒนธรรมแต่โบราณ ของราชวงศ์เซี่ย (2070-1600 BC) ต่อมาจนถึงราชวงศ์ซาง (1600-1046 BC) และราชวงศ์โจว (1046-256 BC)

เรียกว่าตั้งฐานไว้ที่บุพกาล ยาวนานสองพันกว่าปีก่อน

 

มันถดถอยในยุคราชวงศ์ฉิน (221-206 BC) ด้วยเพราะฉินนิยมในนิติรัฐ

กลับมาได้รับความนิยมใหม่ในราชวงศ์ฮั่น (206 BC-220) แต่ในยุคนี้ต้องต่อสู้กับเต๋า และตัวฮ่องเต้เองก็ยังยึดมั่นในสัจนิยม และมิได้ทอดทิ้งนิติรัฐ แต่ฮั่นเห็นว่าลัทธิขงจื๊อตอบโจทย์ของประเทศจีน ที่ทำให้บ้านเมืองปกครองง่าย ประชาชนว่านอนสอนง่าย

จริงๆ แล้วนี้คือลัทธิที่ทำให้คนเป็นทาส สำหรับประเทศที่มีขนาดใหญ่มหึมาอย่างนี้ ยังมีอะไรสำคัญกว่าการปกครองได้อีกหรือ

นั้น ลัทธิขงจื๊อจึงค่อยๆ เหนือล้ำกว่าทุกลัทธิ บวกกับพิธีกรรม ประเพณีของมันนั้น ถูกใจฝ่ายปกครอง ยิ่งใช้ยิ่งถูกใจ กลายเป็นนิสัย

มันต้องสู้กับพุทธศาสนา ในราชวงศ์ถัง (618-907) แต่ก็เอาชนะได้ ปรับตัว กลายมาเป็นระบบสอบของจักรพรรดิ เท่ากับว่ายึดเส้นสายของข้าราชการไว้หมด คุณจะเป็นข้าราชการ ต้องเป็นบัณฑิตขงจื๊อ บัดนี้แม่น้ำนามธรรมสายนี้ครองความเป็นใหญ่ในเมืองจีน และทวีความรุนแรงขึ้นในราชวงศ์ซ่ง (960-1297) เรียกว่ายึดประเทศจีนได้หมดจด สติปัญญาของชาวจีนต้องผ่านเบ้าหลอมนี้ก่อน จึงจะเป็นที่ยอมรับ

เป็นเช่นนี้จนกระทั่งระบบสอบของจักรพรรดินี้ถูกยกเลิกไปในปี 1905

 

แม่น้ำนามธรรมสายนี้ไหลผ่านเมืองจีน นานวันเข้าก็เริ่มมีปัญหา เริ่มมีซากศพลอยน้ำมา มีปฏิกูล มีความหมักหมม บางส่วนจะไหลไม่ได้เลย จับตัวเป็นน้ำเน่า เป็นหนองบึงที่ไม่อาจสัญจร สภาวะเช่นนี้คือสภาวะการถูกดอง บัดนี้คนจีนจำนวนมากกลายเป็นเด็กดองในขวดโหล

ในยุคโบราณ นานาชาติบนโลกระอุไปด้วยสงคราม อาจมีบางครั้งจะรวมตัวกัน เกิดอาณาจักรยิ่งใหญ่ ปกครองได้อย่างสงบสุข แต่ก็ไม่เคยมีอาณาจักรไหน ปกครองได้ดีและยาวนานเท่าประเทศจีน คนต่างชาติในสมัยโบราณ หากมาเมืองจีนจะตกตะลึง ด้วยบ้านเมืองมีระเบียบเรียบร้อย รัฐบาลกลางมีระบบการเก็บภาษีที่ทรงประสิทธิภาพ

นี้คือความดีของแม่น้ำนามธรรมขงจื๊อ มันตอบโจทย์ของจีนได้พอดี

แต่เมื่อโลกตะวันตกมีการปฏิวัติอุตสาหกรรม (1760-1820) พวกเขาก็ก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด ตรงกับยุคสมัยของพระเจ้าเฉียนหลง และต่อมาจนถึงสิ้นสมัยของพระเจ้าเกียเข่งผู้เป็นลูกชายเฉียนหลง

ช่วงนี้เองที่ชาวตะวันตกเริ่มทิ้งจีนไว้ข้างหลังอย่างไม่เห็นฝุ่น

หากชาวจีนรู้สำนึก และรีบปรับตัว ก็ยังทัน แต่ทว่ามาถึงวันนี้ คนจีนส่วนใหญ่กลายเป็นเด็กดองไปเรียบร้อยแล้ว

รวมทั้งราชวงศ์ชิงเองก็เช่นกัน ถูกดองทั้งนายและบ่าว ไม่สามารถยอมรับความเปลี่ยนแปลงของโลกได้

 

บัณฑิตขงจื๊อไม่สามารถเข้าใจการปฏิวัติอุตสาหกรรม มันแตกต่างกันมากจนเกินไป และไม่มีสายน้ำนามธรรมอื่นใดมาช่วยเลย เพราะสายน้ำอื่นถูกกำจัดจนแห้งผากไปหมดแล้ว ต้องผ่านเหตุการณ์ใหญ่หลายอย่าง เช่น การเปลี่ยนการปกครองจากราชวงศ์ชิงมาเป็นสาธารณรัฐ การมีประชาธิปไตย การกำเนิดของพรรคคอมมิวนิสต์

ในที่สุดสายน้ำนามธรรมขงจื๊อจึงยอมยุติลง ในวันนั้น

เกิดสายน้ำนามธรรมใหม่ขึ้น คือสายน้ำคอมมิวนิสต์

๑๐

สายน้ำนามธรรมคอมมิวนิสต์นี้ เริ่มจากรัสเซีย แต่ทว่ากลับไหลแรงในเมืองจีน เพราะมันตอบโจทย์ของประเทศจีน ประเทศใหญ่ที่มีประชากรมหาศาล การใช้ลัทธิคอมมิวนิสต์ทำให้ชาตินี้เติบโตในทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว และทำให้ประชาชนในชาติมีจุดร่วม

๑๑

การเป็นเด็กดองมาช้านาน ทำให้พวกเขาเวลาเปลี่ยน กลับกลายเป็นตรงกันข้าม พวกเขาวันนี้กลายเป็นเด็ก Android คือจากเด็กที่ไม่รับรู้สิ่งใดนอกจากเบ้าหลอมที่ถูกกำหนดมา

บัดนี้พวกเขากลายเป็นเด็กวิทยาศาสตร์ ที่ไม่ได้เสียดายอะไรในโลกเสรี เพราะไม่เคยมีมันมาแต่ก่อน เสรีภาพส่วนบุคคล แนวคิดแบบปัจเจกชน ก็ไม่เคยมี

บัดนี้ประเทศจีนกลายเป็นประเทศที่ล้ำยุคที่สุด ดวงตานั้นอาจจะว่างเปล่า แต่ทว่าเส้นทางที่เดินกลับมีระเบียบ

๑๒

ปัญหาคือ พวกเขาอาจเป็นชาติแมลงชาติแรกในโลก ทุกวันนี้ หากจะมองให้เห็นปัญหา ต้องมองในยามค่ำคืน จะเห็นว่านานานครในเมืองจีนเต็มไปด้วยตึกสูง พลุกพล่าน คึกคัก สับสน ไปด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้า สว่างจ้าไปหมด ราวกับว่าคนในชาตินี้จะไม่หลับนอน พวกเขาเผาผลาญพลังงานของโลกอย่างมหาศาล ใช้ชีวิตอย่างรวดเร็ว

นี้คือลักษณะเบื้องต้นของแมลง

 

๑๓

เราไม่รู้ว่า แล้วจะเป็นยังไงต่อไป เพราะมวลมนุษย์ ๑.๔ พันล้านคนนั้น มากมายมหาศาล เพียงแค่หนึ่งวันของพวกเขา ก็มากกว่าตัวฉันทั้งชีวิต ฉันจึงได้แต่ตาลาย หูของฉันก็อื้ออึง คล้ายได้ยินเสียงแมลงนับโกฏินับล้าน แต่ไม่รู้ว่าพวกเขาพูดอะไร มองเห็นความเปลี่ยนแปลง แต่ไม่รู้ว่าแล้วพวกเขาจะไปทางไหน จะเกิดอะไรขึ้นกับโลกนี้

๑๔

ชาวตะวันตกมองชาวจีนด้วยความไม่ไว้ใจ ความหวาดกลัว และยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่อยู่ลึกในจิตของพวกเขา นั่นคือวิบากกรรมช้านานมาแล้ว ที่ครั้งหนึ่งชาวตะวันตกเคยทำกับคนจีน และกลัวว่าจะโดนเอาคืน มันเป็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึก

๑๕

และแล้ว ความขัดแย้งก็เกิดขึ้นจนได้

เส้นทางทุกสาย กำลังเดินไปสู่สงครามโลกครั้งที่สาม

ระหว่างจีนกับชาติตะวันตก หรือพูดง่ายๆ ว่า ระหว่างจีนกับพวกฝรั่ง

หากรบกันในอีกสามสิบปีข้างหน้า จีนมีโอกาสชนะ

หากรบกันในห้าปีนี้ หรือสิบปีนี้ จีนแพ้แน่นอน

นี้เป็นสัจธรรมง่ายๆ คนที่มีความรู้ทางการทหารนิดหน่อยก็มองออก แต่ทว่าชาวจีนประหลาดล้ำ พวกเขาพยายามดิ้นรนเข้าไปในกับดัก ส่วนชาติตะวันตก ก็ต้องปล่อยให้ชาวจีนเดินไปสู่ความตาย

มันมาจากทริกนิดเดียว คือจีนต้องการบุกไต้หวัน ซึ่งเป็นความไร้สาระอย่างที่สุด เป็นความผิดอย่างที่สุด แต่มันก็เกิดขึ้นได้ เพราะมนุษย์เวลาอยู่รวมกันมากๆ กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้เหตุผล

นี้คือเสียงแมลงนับพันล้าน ที่กำลังอยากจะตาย แปลกเหลือเกิน

 

๑๖

จีนต้องการไต้หวันให้กลับมาสู่อ้อมกอด ด้วยเพราะถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน เหมือนอยากให้แมลงกลุ่มนี้ย้อนกลับสู่รวงรัง

แต่ทว่า คนไต้หวันมีพัฒนาการของพวกเขาเองมานานเอาการ มีความต้องการของตัวเอง หรือพูดอีกที พวกเขาไม่ใช่คนจีนอีกแล้ว แต่โดยโชคชะตา กลับกลายมาเป็นเบี้ยของชาวตะวันตก เพื่อใช้ยับยั้งการเติบโตของจีน

คิดแล้วก็ยอกย้อน ชาติที่มีประชากร ๒๓ ล้านชีวิต และมีเชื้อสายเป็นคนจีน กลับกลายมาเป็นเบี้ยของชาวตะวันตก เพื่อเดินหมากรุกการเมือง

เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปฉันไม่รู้ แต่ฉันรู้ว่าคนไต้หวันมีความเป็นคนจีนน้อยลงไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลา

เพราะพวกเขาไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ได้เผชิญหน้าปัญหาด้วยกัน ไม่ได้ใช้แม่น้ำนามธรรมสายเดียวกัน ชีวิตก็เป็นอย่างนี้ นานวันเข้าก็ต่างออกไป

ชีวิตแปรเปลี่ยน เป็นธรรมดา