เทสลา ‘Model 3’ – ‘Model Y’ ราคาสะท้านจิต-ออปชั่นสะท้านใจ

สันติ จิรพรพนิต

เห็นราคาที่เปิดออกมาของรถ “เทสลา” (Tesla) ใน 2 รุ่นหลักคือ Model 3 และ Model Y ต้องบอกว่าเขย่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเมืองไทยอย่างยิ่ง

เพราะก่อนหน้าที่ผู้นำเข้าอิสระมาเปิดตลาดราคากว่า 3 ล้านบาท ยิ่งหากเป็นรุ่นแต่งเศษซัดเข้าไปเกิน 4 ล้านบาท

แต่สำหรับการเข้ามาทำตลาดเองของเทสลาในเมืองไทย โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

สามารถหั่นราคา Model 3 เริ่มต้นล้านกลางๆ และ Model Y เริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้านบาท

บวกกับกระแสความโด่งดังระดับโลก ดูท่าทีแล้วเทสล่า จะเข้ามาสร้างกระแสได้ไม่ยาก

ทั้ง Model 3 และ Model Y ได้รับความนิยมอย่างมากในทุกประเทศที่ไปเปิดตัว ซึ่งไม่เพียงเทคโนโลยีที่ล้ำๆ เท่านั้น หากแต่ความปลอดภัยได้รับการยอมรับทุกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการกวาดคะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาวในทุกประเภทและหมวดหมู่ย่อย

รับรางวัล IIHS Top Safety Pick+ คะแนนสูงสุดในด้านความสามารถของโครงสร้าง ในการปกป้องผู้ขับขี่ในระหว่างที่เกิดผลกระทบ และการป้องกันการชนด้านหน้า

สําหรับ Model 3 ถือเป็นรถเทสลาที่โด่งดังที่สุดรุ่นหนึ่ง เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2017 ใช้เวลาเพียง 4 ปี กวาดยอดขายทั่วโลกเกิน 1 ล้านคัน กลายเป็นรถอีวีที่ได้รับความนิยม และมีระยะการรอส่งมอบนานที่สุดรุ่นหนึ่ง

จุดเด่นไม่พ้นรูปร่างหน้าตาออกแนวสปอร์ต ทันสมัย แม้จะเป็นรถซีดาน 4 ประตู แต่ออกแบบแนวหลังคาลาดลงแบบ fastback รับกับกระจกหลังบานใหญ่ ทำให้มองผาดๆ คล้ายรถ 5 ประตู

ด้านหน้าปิดทึบตามสไตล์รถอีวี ที่ไม่ต้องการลมช่วยระบายความร้อน เส้นสายฝากระโปรงหน้าพลิ้วไหว ลื่นไหลเชื่อมต่อถึงด้านข้าง

ไฟหน้า LED พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ และเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ

ไฟท้ายโคมใสเป็นแบบ LED เช่นกัน รูปทรงคล้ายปากเหยี่ยว

ติดตั้งสปอยเลอร์แบบคาร์บอนไฟเบอร์ ช่วยเรื่องอากาศพลศาสตร์

กระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า

มือจับประตูทั้ง 4 บานแบบเรียบแนบกับตัวถัง

เพิ่มความสปอร์ตมากขึ้นด้วยกระจกหน้าตาแบบไร้กรอบ

ล้อขนาดใหญ่ถึง 20 นิ้ว ออกแบบลายคล้ายใบพัด ติดตั้งคาลิปเปอร์เบรกสีแดง เพิ่มความสปอร์ตมากขึ้น

ภายในออกแบบสไตล์มินิมอล เน้นความเรียบง่ายใช้สีดำเป็นหลัก

พวงมาลัย 3 ก้านดูเรียบๆ มาตรวัดและระบบควบคุมทั้งหมดนำไปรวมกันอยู่ในจอกลางขนาด 15 นิ้ว คล้ายไอแพดที่วางแนวนอน

ทำให้เวลาขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัยแล้ว คนไทยอาจไม่คุ้นเคยเท่าไหร่เพราะไม่มีเรือนไมล์ด้านหน้า ทำให้ดูโล่งๆ โหวงๆ พิกล

อารมณ์คล้ายกับ “โตโยต้า วีออส” รุ่นแรกที่ขยับมาตรวัดจากด้านหน้าไปอยู่ตรงกลางนั่นเอง

จอกลางใช้ควบคุมระบบการขับขี่ทั้งหมด รวมไปถึงความสะดวกสบายต่างๆ ภายในรถ ออกแบบมาให้พัฒนาอยู่ตลอดเวลาผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์ อัพเดตฟีเจอร์ ฟังก์ชั่นการทำงาน และประสิทธิภาพใหม่ๆ

โดยจะแสดงมาตรวัดความเร็ว พลังงานที่เหลือ และข้อมูลสำคัญๆ ทั้งหมดระหว่างขับขี่

ใช้ควบคุมเครื่องเสียงเชื่อมต่อ internet แบบ Wi-Fi และ LTE

ระบบเสียงระดับพรีเมียมลำโพง 14 ตำแหน่งซับวูฟเฟอร์และแอมพลิฟายเออร์คู่

มีระบบระบบสั่งการด้วยเสียง สามารถเชื่อมต่อมีเดียต่างๆ ผ่าน Bluetooth

แอร์อัตโนมัติ Dual Zone เจาะช่องสำหรับผู้โดยสารตอนหลังให้ด้วย

โปร่งสบายมากขึ้นด้วยหลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดเต็มบาน ขับขี่ในเมืองไทยอาจต้องติดฟิล์มกันร้อนหนักๆ หน่อย

มีที่ชาร์จสมาร์ตโฟนสองเครื่อง ช่อง USB ฯลฯ

ที่นั่งเบาะหลังกว้างประมาณหนึ่ง พนักตรงกลางดึงลงมาเป็นที่เท้าแขนและวางแก้วน้ำ 2 จุด

ความเท่อีกอย่างคือการใช้สมาร์ตโฟนสตาร์ตรถและควบคุมระบบต่างๆ ได้ด้วย

ขณะที่ Model Y ซึ่งเป็นรถเอสยูวี รูปร่างหน้าตาภายนอกแทบไม่ต่างกัน เพราะใช้แพลตฟอร์ม Model 3 ที่จะไม่เหมือนคือประตูด้านหลังที่เปิดได้ทั้งบาน

เช่นเดียวกับภายในก็เหมือนกันทั้งหมด

เพียงแต่มิติขนาดจะใหญ่กว่า ตัวรถสูงกว่า ให้ความสะดวกสบายในการนั่งภายในมากขึ้น

ทั้ง 2 รุ่นใช้ขุมพลังเดียวกัน ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และ 4 ล้อ (แล้วแต่รุ่นย่อย) ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ 2 ตัวที่แยกจากกันช่วยให้ระบบ redundancy ทำงานที่ดียิ่งขึ้น

มอเตอร์แต่ละตัวจะมีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวเพียงชิ้นเดียวเพื่อความง่ายต่อการบำรุงรักษาและความทนทานสูงสุด

แตกต่างจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบทั่วไป ที่ระบบจะสามารถควบคุมแรงบิดไปยังล้อหน้าและล้อหลังแบบดิจิทัล เพื่อการควบคุมและการยึดเกาะถนนที่ดียิ่งกว่า

อัตราเร่งหายห่วงเพราะเป็นรถอีวี Model 3 ทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.3 วินาที

ขณะที่ Model Y ทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.7 วินาที

พิสัยทำการไกลสุด Model 3 อยู่ระหว่าง 559-681 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (แล้วแต่รุ่นย่อย)

เช่นเดียวกับ Model Y อยู่ระหว่าง 510-623 กิโลเมตร

เทคโนโลยีความปลอดภัยและสะดวกสบายครบเครื่อง เพราะถือเป็นจุดเด่นของเทสลาอยู่แล้ว

อาทิ กล้องด้านหลัง ด้านข้าง และด้านหน้าแบบ 360 องศา

การประมวลผลภาพมีระยะสูงสุดถึง 250 เมตร

ระบบ Autopilot ทั้งขับขี่ตามคันหน้า และระบบจอดรถอัตโนมัติ ฯลฯ

เทสลาวางแผนเปิดศูนย์บริการแแห่งแรกภายในต้นปีหน้า ซึ่งสอดคล้องกับการส่งมอบรถล็อตแรกนั่นเอง

พร้อมตั้งเป้าเปิดสถานี Supercharging รวม 10 จุด สามารถชาร์จรถเพื่อวิ่งระยะทางเพิ่มขึ้น 275 กิโลเมตร ในเวลา 15 นาที

ส่วนการรับประกันตัวถังและชิ้นส่วนอื่นๆ นาน 4 ปี หรือ 80,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน

แบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อน รับประกัน 8 ปี หรือ 192,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน

เทสลา Model 3 มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย

Model 3 ราคา 1,759,000 บาท

Long Range ราคา 1,999,000 บาท

Performance ราคา 2,309,000 บาท

ส่วนเทสลา Model Y แบ่ง 3 รุ่นย่อยเหมือนกัน

Model Y ราคา 1,959,000 บาท

Long Range ราคา 2,259,000 บาท

Performance ราคา 2,509,000 บาท •

 

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]