สร้าง Metaverse เองก็ได้ ง่ายนิดเดียว | จักรกฤษณ์ สิริริน

“Metaverse จะนำไปสู่ โลกยุคหลัง Internet เป็นปฐมบทการเชื่อมโยงแบบใหม่ของมวลมนุษยชาติ” Mark Zuckerberg กระชุ่น

Mark Zuckerberg ชี้ว่า Metaverse คือสภาพแวดล้อมเสมือนจริง (Virtual Environment) ที่ “เรา” สามารถเข้าไปอยู่ในนั้นได้จริง

Mark Zuckerberg บอกว่า ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า เราทุกคนจะทำงาน พักผ่อนหย่อนใจ พบปะสังสรรค์ และทำธุรกิจใน Metaverse ได้

หากจะยกตัวอย่างทางนามธรรมของ Metaverse คงต้องเอ่ยถึงภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น The Matrix, Ready Player One, Tron, Minority Report, Avatar, Total Recall, Strange Days และอีกมากมายหลายเรื่อง

ในทางวรรณกรรม นวนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง Snow Crash ของ Neal Stephenson ที่ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อปี ค.ศ.1992 ว่ากันว่า เป็นวรรณกรรมชิ้นแรก ที่ปรากฏคำว่า Metaverse

ซึ่งอธิบายถึงชุมชนออนไลน์ ที่มีการทำธุรกรรมโดยใช้สกุลเงิน Digital ภายหลังที่โลกเกิดภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรง และได้ทำลายล้างสกุลเงินในปัจจุบันไปจนหมดสิ้น!

และหากจะยกตัวอย่างทางรูปธรรมของ Metaverse คงต้องพูดถึงเกม Pok?mon GO ที่หลอมรวมฉากสถานที่จริง กับ Computer Graphics ตัวละคร Pok?mon ซึ่งปรากฏบนหน้าจอ Smart Phone ของเรา

ที่กล้องโทรศัพท์มือถือฉายภาพสถานที่จริงที่เราสัมผัส ร่วมกับการปรากฏตัวของ Pok?mon คือตัวอย่างหนึ่งของ Metaverse

Metaverse อีกตัวอย่างหนึ่ง คือ Second Life ซึ่งเป็นการสร้าง “สังคมเสมือนจริง” บน “โลกออนไลน์” ผ่านการจำลองของโปรแกรมคอมพิวเตอร์

สมาชิก Second Life สามารถสร้างตัวละคร Avatar ของตนเอง และเนรมิตสิ่งต่างๆ ตามต้องการ โดยเฉพาะการสร้างปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกคนอื่นๆ

Second Life เป็นหนึ่งในการบุกเบิก “กระแสโลกเสมือน” และเป็นต้นแบบทางความคิดให้กับ Mark Zuckerberg สร้าง Metaverse ในวันนี้

Model ของ Second Life ที่ Metaverse นำมาประยุกต์ใช้ ทำให้ใครๆ ในโลกใบนี้ ต่างก็พากันเกาะกระแส Metaverse กันอยู่ในปัจจุบัน

เพราะ Metaverse หรือ “โลกออนไลน์เสมือนจริง” ได้เปิดตัวออกมาเมื่อปลายปีที่แล้ว พร้อมกับการเปลี่ยนชื่อบริษัท Facebook ให้เป็น Meta

ปัจจุบันเราจึงพบเห็น Platform มากมายที่สร้างขึ้นเพื่อตอบสนองการปรากฏตัวของ Metaverse ซึ่งมีทั้งการใช้เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) และ VR (Virtual Reality)

ไม่ว่าจะเป็น Decentraland ซึ่งมีทั้งคอนเสิร์ตเสมือนจริง งานศิลปะในแกลเลอรี่เสมือนจริง หรือคาเฟ่เสมือนจริง

Roblox เกมออนไลน์ ที่เปิดให้เราสามารถสร้างเกมได้เอง และยังร่วมกับแบรนด์ดังระดับโลก เช่น Gucci

Party.Space ที่โดดเด่นด้านการจัด Event เสมือนจริง ซึ่งสามารถใช้งานผ่านเบราว์เซอร์ได้เลย โดยไม่ต้องติดตั้ง App

Minecraft เกมแนวผจญภัยชื่อดัง ที่ขยายอาณาจักรบน Platform การจัด Event เสมือนจริง เช่น Open House

Sandbox ที่เปลี่ยนตัวเองจากเกมบนมือถือมาอยู่บน Blockchain เปิดให้ผู้เล่นสามารถสร้าง Metaverse ของตัวเอง

Cryptovoxels พื้นที่ใหม่ของเหล่า Crypto Artist เพื่อสร้างแกลเลอรี่แสดงงานศิลปะ และยังมีการจัด Event ศิลปะมากมาย

Somnium Space เป็น Virtual Blockchain ที่ใช้เทคโนโลยี VR โดยเปิดให้จับจองเป็นเจ้าของที่ดินเสมือนบน Metaverse

 

และที่กำลังเป็นที่กล่าวขวัญถึงในขณะนี้ก็คือ Spatial Metaverse ที่เปิดให้ทุกคนสามารถสร้าง Metaverse ได้อย่างเสรี ผ่าน Spatial.io

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แวดวงการศึกษากำลังพูดถึง Spatial กันอย่างกว้างขวาง

เพราะ Spatial คือการสร้างสภาพแวดล้อมเสมือน ที่เชื่อมโยงโลกแห่งความจริง กับเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน จนกลายเป็น “ชุมชนเสมือนจริง”

ที่สามารถผสานวัตถุรอบตัว และสภาพแวดล้อมรอบกาย เชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียว

โดยอาศัยเทคโนโลยี AR และ VR เข้ามาช่วยประสานแบบไร้รอยต่อ ให้ทั้งหมด กลายเป็นพื้นที่เดียวกันใน Metaverse

Spatial จึงเป็น Metaverse Platform หนึ่งซึ่งใช้สำหรับสร้าง Metaverse แบบง่ายๆ โดยเราสามารถเริ่มต้นทดลองใช้งาน Spatial เพื่อสร้าง Metaverse ในเวอร์ชั่น Free ได้ทันที

เพราะ Spatial เปิดให้เราจำลองโลกเสมือนจริง เพื่อให้เราสามารถสื่อสาร ทำกิจกรรม และมีปฏิสัมพันธ์กับชุมชนอย่างไร้ขอบเขตบน Cloud Computing

โดยผู้ใช้งาน Spatial สามารถเชื่อมต่อกันได้ทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ PC Notebook Tablet Smartphone และแว่นตา Digital

เพียงเข้าไปสมัครสมาชิก Spatial ที่เว็บไซต์ https://spatial.io (เวอร์ชั่น Free สามารถรองรับกิจกรรมได้ 50 คน) และทางมือถือ https://app.spatial.io

ก็จะสามารถใช้ Spatial Metaverse สร้างโลกเสมือนจริงแบบ Virtual Reality หรือ Augmented Reality สร้างบ้านแปงเมือง สร้างธุรกิจธุรกรรม

สร้างมหาวิทยาลัย โรงเรียน ห้องเรียน แบบออนไลน์ (Virtual Classroom)

หรือจะประชุมออนไลน์ (Virtual Meeting) และจัด Event แบบเสมือนจริง (Virtual Exhibition / Virtual Events) ก็ได้

เพราะ Spatial Metaverse สามารถสร้างพื้นที่สาธารณะสำหรับนิทรรศการ Digital รองรับการมีปฏิสัมพันธ์กันในโลกเสมือนจริง

โดยการสร้างตัวตนเสมือน (Avatar) แบบ 3D ได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การประยุกต์ให้เกิดการประชุมออนไลน์ หรือห้องเรียนออนไลน์ดังได้กล่าวไป

ซึ่งสามารถ Upload เนื้อหา Digital ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น Share Screen หรือสร้างกระดาษบันทึกข้อความ (Sticky Notes)

และเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการ Digital อื่นๆ ได้อย่างครอบคลุม เช่น Google, Apple หรือ Microsoft

 

ทีนี้เรามาดูวิธีสร้าง Metaverse แบบง่ายๆ ได้ด้วยตัวคุณเอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องมี Headset หรือแว่นครอบศีรษะ AR และ VR

แต่ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ PC Notebook และสัญญาณ Wi-fi ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต

จากนั้น ให้เข้าไปที่เว็บไซต์ https://spatial.io แล้วคลิกที่ปุ่ม Start Now

เลือก Use Your e-Mail ของเรา ซึ่ง Spatial Metaverse สามารถรองรับ e-Mail หลากหลายยี่ห้อ

ไม่ว่าจะเป็น Google Accounts, G-Mail, Apple ID, Microsoft Accounts, Hotmail, Yahoo Mail หรือ e-Mail องค์กรก็ได้

จากนั้นให้เลือกที่ I have read and agree to the terms of use เพื่อยอมรับเงื่อนไขการใช้งาน และ Privacy Policy นโยบายความเป็นส่วนตัว

คลิก Mouse ที่ปุ่มลูกศรขวา เพื่อทำการตั้งชื่อผู้ใช้งาน และถ่ายรูปใบหน้าของเรา หรือ Upload ภาพถ่ายใบหน้าเราที่เตรียมไว้ เพื่อระบบจะนำไปสร้างเป็น Avatar

จากนั้น ให้เลือกเพศชาย หรือเพศหญิง ก็เป็นอันเสร็จสิ้นสำหรับขั้นตอนการสร้าง Avatar แทนตัวตนของเรา

เมื่อถูกอกถูกใจ Avatar ของเราแล้ว ให้คลิก Looks Good เพื่อยืนยันตัวตน

 

เมื่อลงทะเบียน และสร้าง Avatar เรียบร้อยแล้ว Spatial Metaverse จะนำเราทัวร์ห้องต่างๆ โดยหากเราหมายตาห้องรูปแบบไหน ที่ดูแล้วเหมาะกับเราที่สุด ก็ให้เราทำการคลิกเลือกห้องนั้น

จากนั้นคลิกแท็บ Space ก็จะเห็นห้องส่วนตัวของเรา โดย Spatial Metaverse จะพาเราเข้าสู่ห้องส่วนตัวบนโลกเสมือน เพื่อเตรียมตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ และจัดวางรูปแบบห้องตามที่เราต้องการ

โดย Spatial Metaverse จะมีการอธิบาย เพื่อสอนการใช้งานสำหรับผู้ใช้หน้าใหม่อย่างละเอียด

จบขั้นตอนนี้ก็เป็นอันว่า เราได้สมัครเป็นสมาชิก Spatial Metaverse ได้ Avatar ที่ใช้แทนตัวเรา และได้ห้องส่วนตัวของเราในโลกเสมือนจริง

ที่เป็นทั้งตัวตนของเรา และเป็นห้องส่วนตัวของเราจริงๆ บน Metaverse

ถือเป็นการทดลองสร้าง Metaverse แบบง่ายๆ ในสไตล์ที่เป็นตัวเรา จากนั้น เราจะขยายไปสู่การสร้างรูปแบบกิจกรรมต่างๆ ตามความต้องการได้อีก

ไม่ว่าจะเป็น ห้องเรียน Metaverse หรือจะทำธุรกิจธุรกรรมบน Metaverse ในอนาคต

แม้ว่าในช่วงเริ่มต้น เรายังไม่ลงทุนซื้อ Headset หรือแว่นครอบศรีษะ AR และ VR ใช้เพียงคอมพิวเตอร์ PC Notebook

แต่หากในอนาคต เรามีกะตังค์ซื้อ Headset หรือแว่นครอบศีรษะ AR และ VR ก็จะยิ่งช่วยให้การทำ Metaverse ของเราสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นครับ