รัฐบาลยื้อยุบสภาเละเป็นโจ๊ก | ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์

ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์www.facebook.com/sirote.klampaiboon

ในที่สุดคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เดินมาสู่บทสุดท้ายของชีวิตทางการเมือง และถึงแม้คุณประยุทธ์จะอุบเงียบไม่ยอมพูดเรื่องอนาคตทางการเมืองของตัวเอง แต่สัญญาณทางการเมืองทั้งหมดก็ชี้ชัดว่าคุณประยุทธ์คือสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์ที่เดินต่อไปไม่ได้อีกแม้แต่นิดเดียว

ถ้าเปรียบชีวิตทางการเมืองของคุณประยุทธ์กับชีวิตมนุษย์ คุณประยุทธ์ในเวลานี้ก็คือลุงแก่ๆ ที่เหมือนถุงกาแฟโบราณเหี่ยวๆ ที่พอนั่งก็เหมือนกระสอบเก่าๆ ซึ่งอวัยวะภายในอาจดำคล้ำด้วยโรคร้าย จนชีวิตเป็นแค่การพยุงลมหายใจเพื่อยื้อเวลาให้ยมทูตมารวบตัวเท่านั้นเอง

แม้คุณประยุทธ์จะโกงเวลาจากความตายทางการเมืองจนเป็นนายกฯ เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดอย่างน่าอาย แต่แผนการของคุณประยุทธ์ในการใช้ที่ประชุมเอเปคฟอกตัวเองวาระสุดท้ายก็มีเสียงวิจารณ์ว่าล้มเหลว เพราะภาพจำที่ประชาชนมีต่อคุณประยุทธ์ในการประชุมครั้งนี้แทบไม่มีอะไรดีเลย

แม้กระทรวงการต่างประเทศจะผลักดันให้คุณประยุทธ์เจรจาระดับทวิภาคีกับประเทศอื่นได้มากเกินคาด

แต่ภาพตำรวจไล่ยิงชาวบ้านจนตาบอดในพื้นที่ประท้วงซึ่งห่างจากที่ประชุม 10 ก.ม. เลวร้ายเกินคำว่าอัปยศ ไม่ต้องพูดถึงภาพคุณประยุทธ์หลังยื่นมือให้ผู้นำจีนคอมมิวนิสต์จับแล้วถูกเมิน

เมื่อคำนึงเงื่อนไขที่รัฐบาลไม่มีโอกาสทำอะไรอวยตัวเองได้ต่อไป แม้กระทั่งบอลโลกที่รัฐบาลหวังได้แต้มก็จบด้วยการถูกโจมตีเรื่องใช้ภาษีประชาชน 600 ล้าน เพื่อให้เจ้าสัวได้ถ่ายทอดบอลแบบเอาเปรียบทุกคนหมด

คุณประยุทธ์จึงถูกมองว่ากำลังเข้าสู่วาระสุดท้ายทางการเมืองแบบคนที่ไม่มีต้นทุนอะไรเลย

หนึ่งในคุณสมบัติของนักการเมืองที่ดีคือความไวในการรับรู้ความรู้สึกของประชาชน

แต่ใครที่รู้จักคุณประยุทธ์ดีย่อมรู้ว่าคุณประยุทธ์คือคนที่สนใจความรู้สึกของคนอื่นน้อยมาก หากไม่ใช่คนที่คุณประยุทธ์รู้สึกว่าเหนือกว่าจนต้องเอาใจอย่างประธานาธิบดีจีน

คุณประยุทธ์เชื่ออย่างแรงกล้าว่าตัวเองเป็นที่รักจนเชื่อว่าคนเลือกพลังประชารัฐคือคนที่รักคุณประยุทธ์ทั้งนั้น

ผลก็คือคุณประยุทธ์เข้าใจไปเองว่ามีโอกาสเป็นนายกฯ อีกในการเลือกตั้งครั้งหน้าโดยไม่มีปัญหาเรื่องความนิยมหรือความรังเกียจเลย

สื่อสายติ่งรัฐบาลพยายามอวยว่าคุณประยุทธ์กระแสแรง

แต่ข้อเท็จจริงคือทุกวันนี้ไปไหนก็มีแต่คนด่าคุณประยุทธ์ทั้งนั้น ไม่ด่าด้วยเรื่องการเมืองก็ด่าด้วยเรื่องทำมาหากิน ไม่ด่าเรื่องทำมาหากินก็ด่าเรื่องพูดจาไม่เข้าหู ไม่ฟังคนอื่น หรืออย่างดีที่สุดก็ด่าเรื่องอยู่มาเกินแปดปีแต่ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย

นักการเมืองสายเชียร์บางกลุ่มพูดเป็นตุเป็นตะว่าคุณประยุทธ์มีคนรักทั้งประเทศ

แต่ความจริงคือสำรวจความเห็นประชาชนภาคไหนก็มีแต่คนอยากเลือกพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หรือไม่ก็แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ ไปหมด ยกเว้นภาคใต้ที่ยังอยากให้คุณประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อไปซึ่งมี ส.ส.แค่ 50 กว่าคน

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป อย่างดีที่สุดที่จะเกิดกับคุณประยุทธ์ในการเลือกตั้งปี 2566 คือการได้คะแนนเสียงจากคนใต้เหมือนคุณชวน หลีกภัย, คุณบัญญัติ บรรทัดฐาน และคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่จะไม่ได้คะแนนจากคนส่วนใหญ่จนไม่มีทางเป็นนายกฯ ยกเว้นจะซิกแซ็ก หรือไม่ก็ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยขึ้นมา

(Photo by PORNCHAI KITTIWONGSAKUL / AFP)

มองย้อนกลับไปปี 2557 ที่คุณประยุทธ์ใช้กระบอกปืนตั้งตัวเองเป็นนายกฯ คุณประยุทธ์ในปี 2565 ไม่มีกองหนุนเหลืออีกแบบเดียวกับที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เคยบอกก่อนเสียชีวิต เพียงแต่คุณประยุทธ์ยังไม่ยอมรับความจริงที่แม้แต่พวกเดียวกันที่มีสติยังรู้มาแล้วหลายปี

ด้วยความไม่รู้ร้อนรู้หนาวต่อเสียงประชาชนจนกลายเป็นอวิชชาแห่งการหลงตัวเอง คุณประยุทธ์มองไม่ออกว่า 8 ปีที่เป็นนายกฯ คือ 8 ปีที่แห่งการไม่เคยชนะใจประชาชนจนชนะเลือกตั้งจริงๆ แต่เป็นด้วยปืน และด้วยคุณประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปรวมนักการเมืองน้ำเน่าให้ ส.ว.เลือกพรรคแพ้เลือกตั้งมาตั้งรัฐบาล

ในการเลือกตั้งปี 2566 ปืนที่เคยอยู่ข้างคุณประยุทธ์ไม่ได้ทำตัวเป็นกองกำลังของคุณประยุทธ์อย่างในปี 2562 ถึงคุณประยุทธ์จะคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพในช่วง 22 พฤศจิกายน เรื่องเป็นนายกฯ ต่อช่วง “เปลี่ยนผ่าน” แต่ข้ออ้างนี้ไม่มีน้ำหนักเท่ากับที่คุณประยุทธ์เคยอ้างมา 8 ปีแล้วอย่างแน่นอน

ทางเดียวที่คุณประยุทธ์จะเป็นนายกฯ โดยไม่ต้องพึ่งความหนาบนผิวหน้าคือพลังประชารัฐชนะเลือกตั้งโดยไม่ต้องพึ่ง ส.ว.

แต่พลังประชารัฐภายใต้คุณประวิตรแพ้เลือกตั้งทุกครั้งจนไม่มีอนาคต ยกเว้นจะทำอะไรให้การเลือกตั้งบิดเบือนไป หรือใช้องค์กรอิสระเป็นตัวช่วยแบบลด ส.ส.บัญชีรายชื่ออนาคตใหม่เกือบสิบคน

อนาคตคุณประยุทธ์อยู่ที่การเลือกตั้งซึ่งอยู่ในมือคุณประวิตรที่ประชาชนรังเกียจจนไม่มีอนาคตในสนามเลือกตั้ง ส่วนอนาคตคุณประวิตรอยู่ที่องค์กรอิสระและ “คอนเน็กชั่น” กับทุกพรรคที่มี “นายใหญ่” (ยกเว้นพรรคก้าวไกล) คุณประวิตรจึงต้องพึ่งคะแนนนิยมจากคุณประยุทธ์ซึ่งแทบไม่มีเลย

คุณประยุทธ์กับคุณประวิตรมีความสัมพันธ์แบบผีเน่ากับโลงผุที่ต้องอยู่คู่กัน แยกกันวันไหนก็มีแต่เจ๊งทั้งคู่ คอนเน็กชั่นกับองค์กรอิสระและนายใหญ่ทำให้คุณประวิตรชนะเลือกตั้งไม่ได้ ขณะที่คุณประยุทธ์ซึ่งไม่มีคุณประวิตรก็ไม่มีทางเป็นนายกฯ ได้ หากไม่ทำถึงขั้นซิกแซ็กเลือกตั้งหรือล้มกระดาน

ภายใต้ภาพใหญ่ทางการเมืองที่คุณประยุทธ์จะไปพรรครวมไทยสร้างชาติแน่ๆ คุณประยุทธ์กับคุณประวิตรกำลังพาตัวเองสู่จุดจบที่ต่างฝ่ายต่างแพ้ทั้งหมด เว้นแต่คุณประยุทธ์จะทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดกับคุณประวิตร นั่นก็คือระดม ส.ส.พลังประชารัฐให้ย้ายไปพรรคใหม่แบบเซ้งยกพรรคทันที

ล่าสุด ความเคลื่อนไหวของพลังประชารัฐระดับรัฐมนตรีเริ่มแสดงทิศทางของการย้ายค่ายบ้างแล้ว คุณสุชาติ ชมกลิ่น ไปพรรคใหม่กับคุณประยุทธ์แน่ๆ ซึ่งเท่ากับ ส.ส.ภาคกลางกลุ่มใกล้ชิดกับคุณสุชาติคงไปด้วย

แต่กลุ่มอื่นอย่างสามมิตร, กลุ่มกำเพงเพชร, กลุ่ม กทม. ฯลฯ ยังไม่มีสัญญาณลักษณะเดียวกัน

ตราบใดที่คุณประยุทธ์ยังไม่สามารถทำให้พลังประชารัฐย้ายไปพรรคใหม่แบบแทบยกพรรคได้ ตราบนั้นคุณประยุทธ์ก็ยังอยู่ห่างไกลจากโอกาสในการเป็นนายกฯ อีกรอบ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือพลังประชารัฐและพรรคใหม่ของคุณประยุทธ์จะเป็นพรรคเบี้ยหัวแตกจนเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลแทบไม่ได้เลย

เส้นทางสู่การยึดทำเนียบอีกรอบของคุณประยุทธ์ต้องทำลายพลังประชารัฐให้เละเป็นโจ๊ก หรือไม่อย่างนั้นก็คือซิกแซ็กเลือกตั้งและล้มกระดาน ส่วนอีกทางก็คือการเก็บคะแนนนิยมจากกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลให้มากที่สุด หรือพูดตรงๆ ก็ได้แก่การแย่งคะแนนจากประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย

เป็นไปได้สูงที่คุณประยุทธ์จะเชื่อว่าตัวเองกระแสดี แต่โอกาสที่คุณประยุทธ์จะแย่งผู้สนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันนั้นเป็นเรื่องไกลเกินเอื้อม เพราะรัฐบาลทั้งหมดกำลังเจอสถานการณ์ที่นักรัฐศาสตร์เรียกว่า Politics of Alignment หรือการเมืองที่คนเริ่มเปลี่ยนขั้วทางการเมือง

เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่ประเทศถูกครอบงำด้วยกลุ่มขวาจัดสุดโต่งอย่าง กปปส. จนคุณประยุทธ์ฉวยโอกาสรัฐประหารและโจมตีทุกคนที่เห็นต่างว่าเป็นพวกล้มสถาบัน หายนะที่คุณประยุทธ์ทำให้เกิดจนถึงปี 2565 ทำให้พรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองแนวสุดโต่งหมดความน่าเชื่อถืออย่างสมบูรณ์

ในเงื่อนไขที่การเมืองแนวขวาจัดถดถอยเพราะความย่ำแย่ของคุณประยุทธ์ตลอด 8 ปี ความเป็นไปได้ที่คุณประยุทธ์จะปลุกกระแสฝ่ายขวาจนแย่งคะแนนจากพรรคอื่นได้นั้นมีน้อยมาก พรรคใหม่ในการเลือกตั้งรอบนี้คือพรรคชูประเด็นเศรษฐกิจ ไม่ใช่ประเด็นอย่างพรรคสุเทพหรือพรรคเทิดไท

แกนหลักของรวมไทยสร้างชาติคือกลุ่ม ส.ส.สอบตกซึ่งไม่มีใครเป็นดาวฤกษ์โดยตัวเอง และต่อให้มีการเซ้ง ส.ส.พลังประชารัฐมาก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้นักการเมืองระดับดาวฤกษ์มาด้วย อย่างดีที่พรรคใหม่คุณประยุทธ์เป็นได้คือพลังประชารัฐเสินเจิ้นที่เละกว่าพลังประชารัฐปัจจุบัน

ไม่ว่าคุณประยุทธ์จะยุบสภาในเดือนกุมภาพันธ์ หรือเตะถ่วงไปถึงมีนาคม อนาคตทางการเมืองของคุณประยุทธ์กำลังเดินหน้าสู่ความย่อยยับอย่างไม่มีทางฟื้นขึ้นมาได้แล้ว คุณประยุทธ์ไม่มีวันชนะเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่มีทางได้เป็นนายกฯ และไม่มีทางแย่งคะแนนจากพวกเดียวจนเป็นผู้นำรัฐบาล

สำหรับคนแบบ พล.อ.ประยุทธ์ สิ่งที่น่าห่วงที่สุดคือความไม่สำนึกว่าตนเองคือคนทำให้ประเทศไทยดิ่งเหวอย่างต่อเนื่อง

รวมทั้งการดิ้นรนอยู่ในอำนาจทั้งที่ทั้งหมดจะนำไปสู่ความพ่ายแพ้ ที่เหลือแค่จะรุนแรงระดับไหนและอย่างไรเท่านั้นเอง