ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 4 - 10 พฤศจิกายน 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | ก่อสร้างและที่ดิน |
เผยแพร่ |
ให้ต่างชาติซื้อบ้าน ไปต่อหรือจบแค่นี้
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบข้อเสนอการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวโดยการอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง 4 กลุ่ม ได้แก่
1. กลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง
2. กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ
3. กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย
และ 4. กลุ่มผู้มีทักษะ เชี่ยวชาญพิเศษ
อนุญาตให้ซื้อบ้านได้เนื้อที่ไม่เกิน 1 ไร่ โดยมีเงื่อนไขต้องนำเงินมาลงทุนในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ต้องคงการลงทุนดังกล่าวไว้ไม่น้อยกว่า 3 ปี
การลงทุนดังกล่าว 5 รูปแบบ ได้แก่ การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือหน่วยงานรัฐ, ในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์, ในกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์, ในทุนเรือนหุ้นของนิติบุคคลที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน, ในกิจการที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้ประกาศ
ปกติเมื่อ ครม.ให้ความเห็นชอบแล้ว ก็ต้องมาประเมินกันว่า 5 กลุ่มที่ว่านี้ จะมีความต้องการที่อยู่อาศัยในประเทศไทยจำนวนกี่ราย
กระบวนการขอหลักฐานการลงทุน 5 รูปแบบดังกล่าวมีรายละเอียดทางปฏิบัติยากง่ายและต้องใช้เวลาเท่าใด
และสุดท้ายจะมีผลต่อธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ เพื่อที่อยู่อาศัยมากน้อยเพียงใด เมื่อไร
คาดเดาง่ายๆ ว่า กลุ่มต่างชาติที่จะขอใช้สิทธิกลุ่มแรกๆ น่าจะเป็นกลุ่มที่มีความต้องการมีความจำเป็นและซื้อบ้านไปแล้วโดยใช้วิธีการตั้งบริษัทจำกัดเป็นนิมินีมาถือกรรมสิทธิ์แทน ก็ถือโอกาสนี้ทำให้ถูกต้อง จะได้ไม่มีความเสี่ยง
ส่วนกลุ่มใหม่ที่มีความต้องการและเข้าเงื่อนไขที่กำหนดน่าจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง
แต่อย่างไรก็ดี การดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดนี้ อาจไม่ง่ายไม่ราบรื่นอย่างที่คิดไว้ เพราะปรากฏว่ามีเสียงคัดค้านไม่เห็นด้วย วิพากษ์วิจารณามาตรการนี้ด้วยวาทกรรม “ขายชาติ” ที่อนุญาตให้ขายที่ดินให้ต่างชาติ
จึงมีประเด็นที่ต้องพิจารณาใหม่ด้วยว่า รัฐบาลนี้ซึ่งเข้ามามีอำนาจบริหารบ้านเมืองด้วยการอ้างความชอบธรรมในการเข้ามา “รักษาความสงบ” ด้วยความรักชาติบ้านเมือง จะผลักดันมาตรการฟื้นฟูชุดนี้ต่อไปจนจบหรือไม่
มีข้อน่าสังเกตว่า เสียงคัดค้านด้วยวาทกรรม “ขายชาติ” รอบนี้ ที่มาจากกลุ่มคนที่มีความคิดทางการเมืองแนวอนุรักษนิยมค่อนข้างเงียบ
แต่มีเสียงจากกลุ่มแนวคิดทางการเมืองที่คัดค้านรัฐบาลปัจจุบัน มุมความเห็นที่นำมาค้านก็มักเป็นมุมทางการเมืองที่ว่า สมัยอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร มีแนวคิดให้นักลงธุรกิจต่างชาติเช่าที่ดินระยะยาวยังถูกโจมตีว่าขายชาติ ในสมัยนี้จะขายกรรมสิทธิที่ดินให้เลย จึงถือว่าขายชาติเสียยิ่งกว่า
ส่วนในมุมมองทางเศรษฐกิจล้วนๆ และการศึกษาบทเรียนจากประเทศต่างๆ ทางสากล ซึ่งมีหลายๆ ประเทศที่ใช้นโยบายแบบนี้มานานนับสิบปีแล้ว กลับยังไม่มีการนำมาอภิปรายถกเถียงกันเพื่อเข้าใจผลดีผลเสีย
พายเรือวนในอ่างกันต่อไปเรื่อยๆ นะ •
ก่อสร้างและที่ดิน | นาย ต.
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/iRHg4WPH4Q
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) October 31, 2022