กระชับอำนาจ | จรัญ พงษ์จีน

จรัญ พงษ์จีน

ผลของการประชุมสมัชชาแห่งชาติพรคคอมมิวนิสต์จีน สมัยที่ 20 ซึ่งรูดม่านลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ ลงเอยตามคาด “สี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีของจีน วัย 69 ปี กระชับอำนาจได้เบ็ดเสร็จ ง่ายมากแบบ “หน้าแดงแรงไม่ออก”

“สี จิ้นผิง” ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการกลางชุดใหม่ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค อันเป็นตำแหน่งสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน พร้อมรักษาตำแหน่งประธานคณะกรรมการทหารส่วนกลาง ซึ่งมีอำนาจกดปุ่มกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนด้วย

เท่ากับว่า เป็นการคอนเฟิร์มได้ล่วงหน้าว่า “สี จิ้นผิง” ต้องรักษาเก้าอี้ประธานาธิบดีจีนต่อเนื่องได้เป็นสมัยที่ 3 ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เขาจะกลายเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง มีอำนาจสูงสุด และยาวนานที่สุด

“สี จิ้นผิง” เป็นผู้นำขวัญใจประชาชนชาวจีน มีผลงานเชิงประจักษ์มากมาย จนผงาดเป็นมหาอำนาจโลก ไม่เช่นนั้นคงไม่ยืนยงคงกระพันอยู่ในตำแหน่งได้จนตราบเท่าทุกวัน นอกจากหัวเมือง มณฑลต่างๆ ที่อยู่ในอาณัติ เจริญรุ่งเรืองในทุกบริบทแล้ว ในส่วนของเขตปกครองพิเศษ ทั้ง “ฮ่องกง-มาเก๊า” ที่กลับคืนสู่มาตุภูมิจีน ต่างไม่ด้อยค่าไปกว่าตอนอยู่ใต้ร่มเงา “อังกฤษ-โปรตุเกส” แต่ประการใด

กล่าวถึง “เขตบริหารพิเศษมาเก๊า” ที่ยังคงสถานะการปกครอง “หนึ่งประเทศ สองระบบ” แม้จะเป็นเกาะเล็กๆ แต่ถือเป็นหมุดหมาย “กาสิโนเบอร์ 1” ของโลก ได้รับขนานนามว่า “ลาสเวกัสแห่งเอเชีย” ก้าวขึ้นเป็นเกาะที่มีธุรกิจกาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในโลก แทนลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา

“มาเก๊า” มีประชากรเพียง 600,000 คน ผงาดขึ้นเป็นกาสิโนอันดับ 1 จากรายได้การพนันสูงถึง 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี มากกว่ากาสิโนใน “ลาสเวกัส” ต้นฉบับเก่าถึง 7 เท่า ว่ากันว่า รายได้จากบ่อนพนันในมาเก๊า 1 เดือน เกือบจะเท่ากับรายได้ใน “ลาสเวกัส” 1 ปี

ธนาคารโลกเคยระบุตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศต่อหัวประชากร ไว้ว่า เขตบริหารพิเศษมาเก๊า ภายใต้การปกครองของรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีน จีดีพีต่อหัวเพิ่มขึ้นสูงมาก ส่งผลให้เป็นประเทศที่ประชากรมีรายได้มากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก รายได้หลักคือ อุตสาหกรรมกาสิโน โดยนักพนันขาใหญ่ มือหนักที่สุด ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเหล่า “มังกร-กุมารจีน” ด้วยอัตราเฉลี่ยร้อยละ 80-90

ด้วยประการดังกล่าว ยักษ์เล็ก-ยักษ์ใหญ่ จากลาสเวกัส ไม่ว่าจะเป็น Sands-Venetian-Palazzo ต่างแห่นาคมาทุ่มทุนสร้างด้วยเม็ดเงินมากมหาศาล และสามารถถอนทุนคืนได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว หนังคนละม้วนกับลาสเวกัส

โดยใช้กลยุทธ์ในการขับเคลื่อนกาสิโนแต่ละบ่อนจะสร้างห้องวีไอพีไว้รองรับกลุ่มเป้าหมาย นักพนันขาใหญ่ มือหนักเป็นการเฉพาะ นอกจากนั้นแล้วยังเพิ่มกลุ่มเป้าหมายเป็นแหล่งบันเทิงเริงรมย์ และนักช้อปปิ้ง

ปัจจุบันเกาะมาเก๊า มีกาสิโนไม่น้อยกว่า 45 แห่งทั้งเก่าและใหม่ นักเสี่ยงโชค แกะออกมาเป็นตัวเลขที่เข้าไปได้เสียปีละ 35 ล้านคน มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ซะเกือบ 26 ล้านคน

จากตัวเลขดังกล่าวข้างต้น ก่อนหน้านี้ ประเทศจีนได้ออก “กฎเหล็ก” ตีวิถีโค้งเพื่อต่อต้านและปราบปรามการฉ้อราษฎร์บังหลวง สกัดพวกใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟื่อยของประชาชนพลเมืองจีน เป็นมาตราการ “ต้องห้าม 11 ประการ”

อาทิ ห้ามใช้จ่ายเงินหลวงอย่างฟุ่มเฟือย ห้ามจัดเลี้ยงในร้านอาหารราคาแพง ห้ามเลี้ยงแอลกอฮอล์ในทุกงานเลี้ยง ห้ามจัดเลี้ยงผู้บริหารระดับสูงที่อยู่ในอำนาจกลาง ทรัพย์สินที่มีค่า บัญชีเงินจากต่างประเทศ ให้โอนและเอามาฝากในประเทศ

พร้อมกับคุมเข้มเรื่องการนำเงินหยวนออกนอกราชอาณาจักร รวมถึงการนำเข้าสกุลเงินต่างๆ เพื่อสกัดผีพนันที่ขนเงินมาเล่นได้-เสียครั้งละมากๆ และทำการตรวจเช็กบัญชีเงินเข้า-เงินออก รวมถึงอนุญาตให้เข้า-ออกมาเก๊าได้ปีละครั้ง

โชคซ้ำกรรมซัดก็ว่าได้ ขณะที่จีนพยายามสกัดไม่ให้กุมาร-มังกร พวกผีพนันเข้ามาเสี่ยงโชค ขีดวงจำกัด ออกมาตรการคุมเข้มก็เงื่อนไขหนึ่งแล้ว “มาเก๊า” เหงาหงอยลงมากกว่าเดิมแล้ว ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ลาสเวกัสแห่งเอเชีย เผชิญกับวิบากกรรมหนัก เพราะการแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของมาเก๊าอย่างรุนแรง กาสิโนทั้งหมดต้องปิดตาย ทั้งแซนด์ไชน่า วินน์ มาเก๊า เอ็มจีเอ็ม กาแล็กซี่ เอสเจเอ็ม

3 ปีเต็มที่กาสิโนบนเกาะมาเก๊าขาดทุนสะสมต่อเนื่อง หลายแห่งกำลังหมดอายุ ต้องต่อสัญญาใหม่

สุดท้ายแล้ว ยักษ์เล็ก ยักษ์ใหญ่ ที่ข้ามฝากมาเปิดกาสิโนที่มาเก๊า หวังไปโกยเงินเข้ากระเป๋า 2-3 ปีที่คืนทุน รวดเร็วกว่าลาสเวกัส ตอนนี้ต่างพากันน้ำตาตกใน ไม่ว่ากิจการไหน ต่อให้ศิวิไลซ์ หะรูหะรามากแค่ไหน แต่เมื่อไม่มีลูกค้าเข้าไปใช้บริการ จาก 2 เงื่อนไข จีนคุมเข้มประชากร ไม่ให้เข้าไปเล่นการพนันมากเหมือนเมื่อก่อน บวกด้วยผลกระทบจาก “โควิด-19”

สถานที่ของกาสิโนที่ลงทุนมากมายมหาศาล อลังการงานสร้างเป็นดอกเห็ดทั่วเกาะมาเก๊า มีแนวโน้มจะพากันเจ๊งชัย ฝรั่งตาน้ำข้าว เลิกฝันหวาน ทู่ซี้ทนขาดทุนบักโกรกไม่ไหว ก็ต้องถอนสมอกลับประเทศ

บ่อนพนัน กาสิโน ศูนย์การค้า แหล่งช้อปปิ้ง เงียบเชียบเป็นเป่าสาก ทุกอย่างเริ่มไม่สนุก กรณีที่ว่า เมกะโปรเจ็กต์ สารพัดสะดุด ทุนใหญ่จากลาสเวกัสอาจจะต้องจำใจถอนสมอ

ทิ้งตัวด้วยเงื่อนไขใดๆ เช่น ไม่ยอมต่อใบอนุญาตสัญญาประกอบการที่หมดอายุ กับกาสิโนของบริษัทสัญชาติอเมริกัน นักลงทุนจีน ก็พร้อมที่จะเข้าไปช้อนซื้อกิจการ

สุดท้ายธุรกิจบนเกาะมาเก๊า ก็ต้องตกเป็นของคนจีนอย่างเต็มตัวโดยอัตโนมัติ คาดว่าน่าจะในเร็วๆ นี้