ปล่อยงู ตบคนแก่ ป่วนงานหนังสือ พฤติกรรมภัยสังคม ‘เค ร้อยล้าน’ โซเชียลจี้รัฐจัดการขั้นเด็ดขาด | บทความในประเทศ

บทความในประเทศ

 

ปล่อยงู ตบคนแก่ ป่วนงานหนังสือ

พฤติกรรมภัยสังคม ‘เค ร้อยล้าน’

โซเชียลจี้รัฐจัดการขั้นเด็ดขาด

 

กลับมาสร้างพฤติกรรมที่ถือว่าเป็นอันตรายต่อสังคมอีกครั้ง สำหรับกรณีของ “เค ร้อยล้าน” หรือนายคเณศพิศณุเทพ จักรภพมหาเดชา นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่เคยก่อความปั่นป่วนในที่สาธารณะและปรากฏเป็นข่าวดังมาหลายครั้ง ล่าสุดก่อเหตุป่วนงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 ด้วยการตะโกนว่ามีระเบิด และเข้าไปล็อกคอทำร้าย “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า ขณะกำลังทำกิจกรรมแจกลายเซ็น

ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เค ร้อยล้าน ทำพฤติกรรมป่วนสังคม ย้อนกลับไปในปี พ.ศ.2549 กับการนำรถมาจอดและพ่นสีสเปรย์ใส่รถเป็นข้อความให้กำลังใจ “พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน” ขณะทำรัฐประหาร

เมษายน พ.ศ.2562 ปล่อยงูเห่า 2 ตัวบริเวณถนนแยกราชประสงค์

และอีกครั้งในช่วงต้นปี 2565 ขับรถหรูจอดกลางถนนหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ก่อนจะปล่อยงูออกมาจากถุงและใช้อาวุธมีดทำร้ายตนเอง หรือแม้แต่การปาขวดน้ำแดงลงพื้นจนแตกกระจายกลางห้างดังย่านปทุมวัน โชคดีที่ประชาชนในละแวกนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บ

รวมถึงเคยโพสต์ข้อความเช็กอินว่าอยู่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จำนวน 2 ครั้ง พร้อมข้อความเชิงข่มขู่ถึงนักศึกษาที่ออกมาทำกิจกรรมเรียกร้องประชาธิปไตย ด้วยภาพและคลิปวิดีโองู

จนทางองค์การนักศึกษา มธ. รังสิต ต้องออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางหน้าเฟซบุ๊กเตือนภัยนักศึกษาและบุคลากร

 

ต้นเดือนมีนาคม 2565 มีข่าวว่า เค ร้อยล้าน เคยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวขณะเดินทางเข้าประเทศ ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ตามหมายจับ 6 ข้อหา คือ

1. พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยเปิดเผยหรือไม่มีเหตุอันสมควร

2. ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจ

3. จอดรถในลักษณะกีดขวางการจราจร

4. ทิ้งสิ่งปฏิกูลมูลฝอยลงบนพื้นที่สาธารณะ

5. มีสัตว์ป่าควบคุมและสัตว์ป่าอันตรายไว้ในครอบครอง

และ 6. ทิ้งหรือปล่อยเป็นอิสระซึ่งสัตว์ป่าควบคุมและสัตว์ป่าอันตราย

และถูกปล่อยตัวในเวลาต่อมา

ต่อมาในช่วงกลางปี ขณะที่แนวร่วมกลุ่ม DemHope กำลังจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “วาดแมวหยุดขัง” เพื่อขอคืนสิทธิประกันตัวให้นักโทษทางการเมือง เค ร้อยล้าน ปรากฏตัวขึ้นที่งานพร้อมปรี่เข้าไปตบ “ป้าเป้า-วรวรรณ แซ่อั้ง” นักเคลื่อนไหวทางการเมือง จนล้มลงไปที่พื้น ก่อนที่เค ร้อยล้าน จะถูกควบคุมตัวไป สน.ปทุมวัน ฐานทำร้ายร่างกาย

ถัดมาไม่กี่วัน เค ร้อยล้าน ก็ออกมาป่วนมวลชนที่มารอรับตัว “ทานตะวัน” นักกิจกรรมที่ถูกจำคุกมากว่า 37 วัน ที่ได้รับการปล่อยตัวบริเวณหน้าทัณฑสถานหญิงกลาง ก่อนจะถูกมวลชนที่มารอรับทานตะวัน ตะโกนต่อว่า วิ่งไล่และปารองเท้าใส่ จนเค ร้อยล้าน ต้องวิ่งหนีเอาตัวรอด และภาพดังกล่าวกลายเป็นมีมที่สังคมพูดถึงอย่างมากมาจนถึงทุกวันนี้

จนมาถึงเหตุการณ์ล่าสุด ในวันสุดท้ายของงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 เค ร้อยล้าน ได้เข้าไปที่งานก่อนจะตะโกนว่ามีระเบิดและเข้าไปบุกทำร้ายร่างกาย “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ขณะกำลังแจกลายเซ็นให้กับแฟนคลับ บริเวณหน้าบูธมูลนิธิคณะก้าวหน้า ก่อนที่เค ร้อยล้าน จะถูกเจ้าหน้าที่ภายในงานล็อกตัวและนำออกจากงานไปที่ สน.ลุมพินี

 

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ให้สัมภาษณ์กับทางข่าวสด เล่าว่าขณะที่ตนกำลังแจกลายเซ็น จู่ๆ ก็มีคนเข้ามาล็อกคอจากด้านหลังจนหายใจไม่ออก จึงพยายามนำมือสอดเพื่อผลักออกไป เมื่อคนใกล้ตัวเห็นจึงจับตัวเค ร้อยล้าน ออกไปกดลงกับพื้น ซึ่งเหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก

“ระหว่างที่เค ร้อยล้าน เข้ามาล็อกคอ เขายังตะโกนดังๆ ว่า ผมมีระเบิดๆ ทำให้คนที่อยู่ในงานสับสนอลหม่าน เพราะอย่าลืมว่าเราเพิ่งผ่านเหตุการณ์ความรุนแรงที่จังหวัดหนองบัวลำภูมาได้ไม่นานนัก พอมีการขู่วางระเบิด แล้วมีการบอกกันปากต่อปาก ทำให้เกิดความโกลาหล ประชาชนตื่นตระหนกอย่างมาก และในงานหนังสือมีประชาชนหลากหลายกลุ่มที่มากันแบบครอบครัว โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บรุนแรง ผมเป็นห่วงสังคมไทยที่ยังมีบุคคลที่มีพฤติกรรมอันตรายมาก หากวันนี้คุณเคพกพาอาวุธมาจริง อาจทำให้มีคนบาดเจ็บล้มตายได้ และหนึ่งในนั้นอาจเป็นตัวผมเองด้วยซ้ำไป มีความกังวลว่าสังคมไทยจะจัดการปัญหานี้ไม่ได้”

ธนาธรกล่าวต่ออีกว่า อยากสื่อสารไปยังกลุ่มผู้ที่เห็นต่างทางการเมืองว่า ต่อให้เราไม่เห็นด้วยทางการเมืองอย่างไร ก็ขออย่าใช้ความรุนแรงกัน สงบสติอารมณ์ เปิดใจให้กว้างและใช้เหตุผลคุยกัน แม้เราจะไม่เห็นด้วยในทางการเมือง เราต้องการการจัดการความขัดแย้งทางความคิดความอ่านและวิธีการอย่างสันติสุข ก่อนที่จะเดินทางเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายโดยละเอียด

สำหรับอาการบาดเจ็บที่ถูกล็อกคอ มีรอยฟกช้ำเล็กน้อยบริเวณแก้มซ้ายและบริเวณต้นคอด้านขวาจากช่วงชุลมุนกัน แต่ยืนยันว่าไม่ได้ถูกต่อย และมีการแจ้งความดำเนินคดีทำร้ายร่างกายอย่างแน่นอน

 

ด้านเค ร้อยล้าน หลังก่อเหตุได้ถูกนำตัวไปที่ สน.ลุมพินี ถูกดำเนินคดีในข้อหา “แกล้งทำให้ผู้อื่นตื่นตกใจซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” และส่งตัวไปตรวจสภาพทางจิตที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ก่อนจะได้รับการปล่อยตัว เนื่องจากลูกชายมาขอรับตัวกลับไปรักษาที่บ้านเอง ด้านกลุ่มผู้จัดงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ มีความประสงค์จะแจ้งความเอาผิดทั้งทางแพ่งและอาญา เค ร้อยล้าน ด้วยเช่นกัน

“พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์” ผบ.ตร. ได้ออกมาเผยถึงกรณีนี้ ยืนยันว่าตำรวจจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายในทุกคดี โดยเฉพาะที่เป็นความผิด ซึ่งเกิดขึ้นในสถานที่สำคัญหรือสถานที่ราชการ จะมีการดำเนินคดีอย่างจริงจังและเด็ดขาด กรณี “เค ร้อยล้าน” ขณะนี้พนักงานสอบสวน รอผลตรวจสภาพจิตจากแพทย์ เพื่อยืนยันว่ามีอาการป่วยทางจิตหรือไม่ แม้ว่าก่อนหน้านี้ “เค ร้อยล้าน” จะเคยก่อคดีลักษณะนี้มาแล้วหลายพื้นที่ และตำรวจตรวจสอบพบประวัติการรักษาอาการทางจิต

พร้อมยอมรับว่า เค ร้อยล้าน ถือเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะแล้ว ดังนั้น การเอาผิดกับผู้ปกครองหรือผู้ดูแล กรณีปล่อยปละละเลยอาจจะเป็นไปได้ยาก หลังจากคดีนี้จำเป็นต้องมีการทบทวน ถอดบทเรียน กรณีผู้ที่ป่วยทางจิต ใช้ชีวิตร่วมกับคนในสังคม โดยมีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแนวทางในอนาคต

 

พฤติกรรมของเค ร้อยล้าน ในครั้งนี้ ถูกคนในโลกออนไลน์ประณามอย่างหนัก โดยเฉพาะประเด็นการตะโกนมีระเบิดกลางงานหนังสือ ที่สร้างความเดือดร้อนและตื่นตระหนกให้กับคนในงาน เนื่องจากคนที่ไปเดินงานส่วนใหญ่เป็นกลุ่มครอบครัวและเยาวชนที่ให้ความสนใจในการอ่านหนังสือ

เรื่องนี้ “นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง” รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อกฎหมายแล้วพบว่า นอกจากผู้ก่อเหตุจะต้องรับโทษในการกระทำของตัวเองแล้ว ผู้ดูแลบุคคลนั้นก็ยังมีความผิด ตามกฎหมายอาญา มาตรา 373 ที่ระบุว่า ผู้ใดควบคุมดูแลบุคคลวิกลจริต ปล่อยปละละเลยให้บุคคลวิกลจริตนั้นออกเที่ยวไปโดยลำพัง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท ซึ่งตามมาตราข้างต้นแค่ปล่อยปละละเลยให้บุคคลวิกลจริตออกไปโดยลำพังก็ถือเป็นความผิดแล้ว

สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น อยากขอให้สาธารณชนหันมาให้ความสำคัญในการดูแลผู้ป่วยทางจิตโดยตาม พ.ร.บ.สุขภาพจิต ให้อำนาจคนทุกคนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครองและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ดำเนินการนำผู้ป่วยจิตเวชเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา เพื่อความปลอดภัยสาธารณชนและตัวผู้ป่วยจิตเวชเอง เพราะหากผู้ป่วยจิตเวชไปก่อเหตุละเมิดผู้อื่น บุคคลนั้นก็สามารถใช้สิทธิป้องกันตัวได้โดยชอบตามกฎหมาย

เหตุการณ์จากพฤติกรรมของเค ร้อยล้าน ในครั้งนี้ทำให้สังคมตั้งคำถามถึงการดำเนินการของรัฐไทยอย่างจริงจังอีกครั้ง ว่าเหตุใดถึงปล่อยให้ออกมาก่อเหตุซ้ำซาก ไร้การจัดการอย่างจริงจัง และดูจะเป็นการเลือกปฏิบัติต่างจากคดีของกลุ่มคนในฝั่งประชาธิปไตย

เพราะขณะนี้ต้องยอมรับว่าสังคมเริ่มหวาดกลัวต่อเหตุร้ายแรงที่อาจจะเกิดซ้ำรอยเหตุการณ์หนองบัวลำภู หากรัฐและผู้เกี่ยวข้องยังปล่อยเบลอไร้การจัดการอย่างที่ควรจะเป็น