ยืนหนึ่งในเอเชีย! ยักษ์ใหญ่ ‘เอไอเอส’ วิเคราะห์ การเติบโต ‘ซีรีส์ Y ไทย’

เปลี่ยนผ่าน

feedforfuture.co

 

ยืนหนึ่งในเอเชีย!

ยักษ์ใหญ่ ‘เอไอเอส’ วิเคราะห์

การเติบโต ‘ซีรีส์ Y ไทย’

 

“เรื่องงานรับจ้างผลิตต้องบอกว่า ประเทศไทยเราเป็นผู้นำด้านการผลิตคอนเทนต์ซีรีส์ Y หรือบางคนบอกว่า เรายืนเป็นอันดับหนึ่งในเอเชียด้วยซ้ำ แต่ละเรื่องเราได้การตอบรับในต่างประเทศเป็นอย่างดี คิดว่าเป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทย”

รุ่งทิพย์ จารุศิริพิพัฒน์” กรรมการผู้จัดการพันธมิตรธุรกิจด้านบันเทิงและคอนเทนต์ ของ “เอไอเอส” ให้สัมภาษณ์กับ FEED ถึงสาเหตุที่แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ เช่น “เอไอเอส เพลย์” เลือกดำเนินการผลิตและนำเสนอ “ซีรีส์ Y” อย่างต่อเนื่อง และร่วมวิเคราะห์ถึงโอกาส การเติบโต ของ “อุตสาหกรรม Y ไทย” ที่ตอนนี้โด่งดังไปทั่วโลก

ผู้บริหารเอไอเอสเปิดเผยจุดเริ่มต้นของการนำเสนอซีรีส์ Y ผ่านแพลตฟอร์มว่า “เอไอเอส เพลย์” เป็นผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่ง ที่มีคอนเทนต์เรื่องความบันเทิงหลากหลาย ตั้งแต่หนัง ซีรีส์ คอนเสิร์ต การ์ตูน และกีฬา

โดยลูกค้าสามารถเลือกชมผ่านหลายช่องทาง ทั้งแอพพลิเคชั่นในสมาร์ตโฟน, กล่องเพลย์บ็อกซ์, สมาร์ตทีวี, แอปเปิลทีวี รวมไปถึงเว็บไซต์ เพื่อส่งมอบประสบการณ์และความสุขในการรับชมความบันเทิง ตลอดจนแรงบันดาลใจ ให้แก่ผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย

ในฐานะเจ้าของแพลตฟอร์ม “เอไอเอส เพลย์” เริ่มสังเกตเห็นว่ากระแสความนิยมในซีรีส์ Y นั้นได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ยังเป็น “การตลาดเฉพาะกลุ่ม” (นิช มาร์เก็ต) อยู่

อ่านได้ที่: https://feedforfuture.co/feed-biz/9702/

รุ่งทิพย์ จารุศิริพิพัฒน์

กระทั่งในปี 2563 “เอไอเอส เพลย์” จึงเริ่มต้นผลิต “คอนเทนต์ Y” ของตนเอง โดยเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจ็กต์ที่เรียกว่า “เอไอเอส เพลย์ ออริจินอล” ซึ่งว่าจ้างโปรดักชั่นเฮาส์มาเป็นผู้ดำเนินการผลิตซีรีส์แต่ละเรื่อง และทางเอไอเอสจะมีสถานะเป็น “เจ้าของลิขสิทธิ์”

จนถึงปัจจุบัน ได้มีการผลิต “ออริจินอล คอนเทนต์ แนว Y” ออกมารวมทั้งหมด 8 เรื่อง

นอกจากนี้ “เอไอเอส เพลย์” ยังนำเสนอ “คอนเทนต์ Y” ด้วยวิธีการซื้อสิทธิ์จากพาร์ตเนอร์ในรูปแบบ “เอ็กซ์คลูซีฟ” โดยผู้ชมจะได้รับชมซีรีส์ดังกล่าวผ่านทางแพลตฟอร์ม “เอไอเอส เพลย์” เท่านั้น

ขณะเดียวกัน ก็มีซื้อสิทธิ์ซีรีส์ Y บางเรื่อง ในแบบ “นอน-เอ็กซ์คลูซีฟ” คือจะมีการนำเสนอผ่าน “เอไอเอส เพลย์” และแพลตฟอร์มอื่นๆ ไปพร้อมกัน

กรรมการผู้จัดการพันธมิตรธุรกิจด้านบันเทิงและคอนเทนต์ เอไอเอส เปิดเผยว่า ภายหลังนำเสนอ “คอนเทนต์ Y” ลงในแพลตฟอร์ม ผลตอบรับจากกลุ่มลูกค้าก็ขยายวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มของผู้หญิง นักเรียน นักศึกษา อายุต่ำกว่า 22 ปี จากเดิมที่พื้นฐานกลุ่มผู้ชมของ “เอไอเอส เพลย์” จะเป็นกลุ่มครอบครัวเป็นหลัก

ทั้งยังพบว่า แพลตฟอร์มได้รับกระแสตอบรับผ่านการมีปฏิสัมพันธ์ในโซเชียลมีเดียที่เพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ทุกครั้งที่มีถ่ายทอดซีรีส์เรื่อง “WAR OF Y” หรือ ซีรีส์ “เลิฟ@นาย OH MY SUNSHINE NIGHT” แฮชแท็กชื่อซีรีส์ก็จะติดเทรนด์ทวิตเตอร์

และจากการสำรวจความเห็นของกลุ่มผู้รับชมซีรีส์ว่า หากนึกถึงซีรีส์ Y จะนึกถึงแพลตฟอร์มใดบ้าง? ก็พบว่า “เอไอเอส เพลย์” มักเป็นแพลตฟอร์มอันดับต้นๆ ที่ผู้ชมนึกถึง

จากฐานข้อมูลของ “เอไอเอส เพลย์” พบว่ากลุ่มลูกค้า “คอนเทนต์ Y” เป็นผู้หญิงสูงถึง 60 เปอร์เซ็นต์ เป็นผู้ชาย 40 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มหลักเป็นนักเรียนนักศึกษา รองลงมาเป็นวัยทำงาน ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และยังกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ – หัวเมืองใหญ่ มีพฤติกรรมดูซีรีส์ผ่านแอพพลิเคชั่นในสมาร์ตโฟนเป็นหลัก

ส่วนสาเหตุที่ซีรีส์ประเภทนี้โดนใจคนดู ผู้บริหารเอไอเอสเห็นว่าเกิดจากตัวคอนเทนต์ที่ “สัมผัส” กับประสบการณ์ของผู้ชม ที่เติบโตมาจากกลุ่มคนอ่านการ์ตูนชวนฝัน ดูแล้วไม่เครียด มีความสุข สร้างเสริมจินตนาการ

รุ่งทิพย์วิเคราะห์โอกาสการเติบโตของซีรีส์ Y ไทย ว่า ในขณะนี้ ซีรีส์ Y มีฐานผู้ชมที่แมสมากขึ้น ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศไทย แต่ไปไกลถึงต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นและประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชีย รวมถึงประเทศจีน ที่แม้จะมีกฎระเบียบเกี่ยวกับสื่อ แต่ผู้บริโภคจีนกลับ “ฟีเวอร์” กับดาราไทย Y มาก

ขณะที่กลุ่มแฟนด้อมในอุตสาหกรรม Y ก็เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ นี่จึงเป็นโอกาสของแบรนด์สินค้าและผู้ผลิตคอนเทนต์ Y ที่จะขยายตลาดการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ เพื่อดึงเม็ดเงินกลับเข้ามาในประเทศไทย รวมไปถึงเรื่องงานรับจ้างผลิต

“ต้องบอกว่าประเทศไทยเราเป็นผู้นำด้านการผลิตคอนเทนต์ซีรีส์ Y หรือบางคนบอกว่าเรายืนเป็นอันดับหนึ่งในเอเชียด้วยซ้ำ แต่ละเรื่องเราได้การตอบรับในต่างประเทศเป็นอย่างดี คิดว่าเป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทย”

 

ขณะที่แผนการเผยแพร่ซีรีส์ Y ของ “เอไอเอส เพลย์” นั้นแบ่งเป็น 2 เฟส โดยมี “เอไอเอส เพลย์ ออริจินอล” ที่เผยแพร่แล้ว 8 เรื่อง และจะเผยแพร่อีก 2 เรื่องในต้นปีหน้า และตั้งเป้าไว้ว่าจะผลิตคอนเทนต์ผสมผสานระหว่าง “ดราม่า คอนเทนต์” ที่เป็น “แมส คอนเทนต์” (เนื้อหาทั่วไป) กับซีรีส์ Y ในสัดส่วน 50/50

ในสัดส่วน 50 เปอร์เซ็นต์ของซีรีส์ Y ก็จะมีทั้งเนื้อหาแนวโรแมนติก-คอเมดี้ หรือแนวดราม่า เช่น ซีรีส์ “WAR OF Y” หรือ “ทริอาช The Series” ที่นำเสนอเรื่องราวของแพทย์ เป็นการผสมผสานคอนเทนต์แนวนี้เข้ากับคนดูเฉพาะกลุ่ม

“เอไอเอส เพลย์ ออริจินอล ยังคงฉายอยู่บนแพลตฟอร์มของเรา แล้วเราจะขายไปตลาดต่างประเทศที่ไม่ทับซ้อนแพลตฟอร์มกัน บางเรื่องก็นำไปเผยแพร่ในแพลตฟอร์มอื่นบ้าง เช่น ยูทูบ เป็นการผสมผสาน ระยะเวลาหนึ่งเอ็กซ์คลูซีฟอยู่ที่เรา ระยะเวลาหนึ่งเราเริ่มขยายไปที่อื่นๆ ด้วย ก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้ขายไลเซนส์ (ใบอนุญาตการเผยแพร่ผลงาน) ไปที่อื่นๆ เลย”

ผู้บริหารเอไอเอสแสดงความเห็นด้วยว่า การที่ซีรีส์ Y ได้ขยายช่องทางการเผยแพร่ไปสู่สถานีโทรทัศน์เจ้าใหญ่อย่างช่อง 3 และเวลาการออกอากาศคอนเทนต์ประเภทนี้ของทีวีช่องต่างๆ ยังถูกขยับมาอยู่ในช่วงไพรม์ไทม์แล้วหลายเรื่อง

คือการบ่งบอกว่า กระแสของ “คอนเทนต์ Y” จะยืนระยะได้อีกหลายปี และจะมีความนิยม (ป๊อปปูลาร์) ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ