ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 16 - 22 กันยายน 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | เครื่องเสียง |
เผยแพร่ |
เครื่องเสียง
พิพัฒน์ คคะนาท
C.E.C. TL2N & DA SL
CD Transporter & Converter
ดังที่ได้บอกไปเที่ยวก่อนนั่นแหละครับ ว่าแม้ทุกวันนี้สตรีมมิ่งดูจะกลายเป็นรูปแบบของสื่อความบันเทิงหลักของผู้คนไปแล้วก็ตาม
แต่จากการที่ปัจจุบันยังมีแผ่นซีดีเพลงหมุนเวียนอยู่กว่า 12 ล้านล้านแผ่น มันจึงเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าเครื่องเล่นสำหรับพวกมันยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้คนที่เป็นมิตรรักนักเพลงอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งต้องการคุณภาพเสียงระดับมาตรฐานจากเครื่องเล่นพื้นฐานอย่าง CD Player ที่ผ่านการออกแบบมาเป็นอย่างดี
รวมทั้งยังมีนักเล่นอีกกลุ่มที่ต้องการสัมผัสคุณภาพเสียงสูงสุดจากแผ่นซีดี ผ่านเครื่องเล่นที่เป็นอุปกรณ์แยกชิ้นการทำงานของภาคขับหมุนและอ่านแผ่น หรือ CD Transporter กับเครื่องที่เป็นภาคการทำงานแปลง/ถอดรหัสสัญญาณดิจิทัลเป็นอะนาล็อก หรือ Digital-to-Analogue Converter นั่นเอง
เช่นกับชุดที่จ่าหัวเอาไว้และนำมาเล่าสู่กันฟังเที่ยวนี้นี่แหละครับ
เป็นชุดเครื่องเล่นแผ่นซีดีแบบแยกชิ้นจากค่าย C.E.C. ที่ยังคงอนุรักษ์โครงสร้างภาพลักษณ์หน้าตาของเครื่องเอาไว้ ชนิดที่หากไม่ก้มมองที่แผงหน้าปัดแล้ว แทบบอกไม่ได้เลยว่าเครื่องที่เห็นนั้นคือรุ่นไหนของค่ายนี้เขา
Model TL2N Double Belt Drive CD Transport ยังคงออกแบบให้วางแผ่นลงถจานรับผ่านฝาเปิดที่ด้านบน แบบ Top-Loading ในลักษณะการเลื่อนเปิด/ปิด ที่เมื่อวางแผ่นเข้าแกนหมุนแล้วจะมีชุดลูกยางเคลือบสักหลาดขนาดใหญ่ และหนักเป็นพิเศษ คือ 120 มิลลิเมตร/380 กรัม ทำหน้าที่เป็น Disc Clamp กดทับแผ่นเพื่อกระชับไว้กับชุดจานหมุนอย่างมั่นคง ใช้ระบบขับหมุนด้วยสายพานแบบคู่ ชุดจานหมุนแผ่นขึ้นรูปด้วยโลหะทองเหลืองหล่อชิ้นเดียว ซึ่งช่วยให้ขณะทำงานมีความเสถียรมากยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นแล้ว ยังได้เพิ่มสปริงรับน้ำหนักขนาดใหญ่เอาไว้ใต้มอเตอร์และแกนหมุน ที่ช่วยเสริมให้เครื่องทำงานด้วยความเที่ยงตรงและมีความแม่นยำสูงมากยิ่งขึ้นด้วย
โดยระบบสายพานที่ใช้ในการขับหมุนนั้น ใช้ทั้งในส่วนของกลไกจานหมุนแผ่น และในส่วนของหัวอ่านเลเซอร์ที่เคลื่อนตามการหมุนของแผ่นด้วย
ระบบขับหมุนแผ่นและวงจร Servo ได้รับการปรับปรุงให้มีความเร็วในการอ่านที่รวดเร็วขึ้น ทั้งยังมีประสิทธิภาพสูงสามารถอ่านแผ่นที่มีสภาพรอยขีดข่วนได้อย่างหมดจด และอ่านแผ่นความจุสูงตามมาตรฐาน Red Book CD ได้เต็มความจุ 74 นาที การปรับปรุงต่างๆ ที่ทำให้การทำงานมีความเที่ยงตรง แม่นยำสูง และปลอดการรบกวนที่ดีกว่าเดิมนี้ ส่งผลให้เครื่องสามารถถ่ายทอดน้ำเสียงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีความเป็นดนตรีที่ยอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้
แผงหน้าปัดที่เรียบง่ายนั้น มีจอแสดงผลบอกสถานะการทำงานในส่วนของแทร็กและเวลา ปุ่มต่างๆ ใต้จอดิสเพลย์เป็นปุ่มพื้นฐานควบคุมการทำงานของเครื่อง ทั้งกรอกลับ, กรอเดินหน้า, Upsampling, หยุด และปุ่มเล่นหรือหยุดชั่วคราว
ที่แผงหลังของเครื่องมีดิจิทัล เอาต์พุต ให้ทั้ง AES/EBU, Coaxial, Toslink รวมทั้งแบบ Superlink ที่เป็นอินเตอร์เฟซอันเป็นสิทธิบัตรเฉพาะของ C.E.C. สำหรับเชื่อมต่อการทำงานกับเครื่อง DAC ของค่ายเดียวกัน ส่วนสายไฟ AC เป็นแบบมาตรฐานที่สามารถถอดแยกได้
ปกติแล้วระบบการอินเตอร์เฟซสัญญาณดิจิทัลไม่ว่าจะเป็น S/PDIF, AES/EBU, Coaxial, Toslink หรือ Optical จะเป็นการเชื่อมต่อสัญญาณกันด้วยสายเพียงเส้นเดียว ทั้งสัญญาณ Audio และสัญญาณ Clock ดังนั้น จึงไม่สามารถเลี่ยงปัญหาการเกิดสัญญาณข้อมูลรบกวนซึ่งกันและกันไปได้ แต่ระบบ Superlink ของ C.E.C. จะแยกการส่งสัญญาณข้อมูลทั้งหมดผ่านสาย 4 เส้น ที่แยกเป็นอิสระจากกัน รวมทั้งไม่ต้องผ่านกระบวนการเข้ารหัสและถอดรหัส รวมถึงการถอดรหัสสัญญาณนาฬิกาด้วย จึงทำให้การทำงานของเครื่องทรานสพอร์ตและคอนเวอร์เทอร์สอดประสาน (Synchronize) กันอย่างสมบูรณ์ ทำให้ปลอดความพร่าเพี้ยน และลดทอนสัญญาณรบกวนไม่พึงประสงค์ ระหว่างการเชื่อมต่อหรือถ่ายโอนสัญญาณข้อมูลอย่างสิ้นเชิง
โดยสายทั้งสี่เส้นนั้น เป็นสาย Coaxial BNC แบบ 75 โอห์ม แต่ละเส้นทำหน้าที่แตกต่างกันไปตามจุดเชื่อมต่อที่ระบุเอาไว้ที่แผงหลังเครื่อง ดังนี้
MCK : Master Clock (สัญญาณนาฬิกาหลัก) ตัวแปลง/ถอดรหัสจะทำหน้าที่ในการรับผิดชอบสัญญาณนาฬิกาหลัก ซึ่งเครื่องเล่นแบบจานหมุนจะ Sync เข้าด้วยกัน
BCK : Bit Clock (สัญญาณบิตของนาฬิกา) เป็นการส่งสัญญาณบิตนาฬิกาที่จำเป็นสำหรับการแยกสัญญาณดิจิทัล จากเครื่องเล่นและอ่านแผ่นแบบจานหมุนที่ส่งไปยังเครื่องถอดรหัส
LRCK : Left/Right Channel Clock (สัญญาณนาฬิกาซ้าย/ขวา) เป็นการส่งสัญญาณนาฬิกาเพื่อระบุสัญญาณเสียงแชนเนลซ้าย/ขวา
DATA : Music Data (สัญญาณข้อมูลเพลง) เครื่องเล่นแผ่นแบบจานหมุนจะส่งสัญญาณดิจิทัลผ่านสายเส้นนี้ไปยังเครื่องถอดรหัส
Model TL2N เป็นเครื่องขับหมุนและอ่านแผ่นที่ได้รับการยกย่องมาก ว่าให้การทำงานที่มีความเที่ยงตรงและแม่นยำสูง สามารถถ่ายทอดสัญญาณข้อมูลในแผ่นออกมาได้อย่างหมดจด และครบถ้วนในทุกรายละเอียดแบบไม่มีใดตกหล่นแม้แต่น้อย
สําหรับเครื่อง Model DA SL Superlink D/A Converter นั้น ใช้ชิพถอดรหัสคุณภาพสูงของ ESS Technology, Inc. ตัวที่นิยมใช้กันในเครื่องรุ่นสุดยอดทั้งหลาย คือ ES9028PRO ซึ่งอยู่ในตระกูล Sabre Pro HypersStream II Audio DAC ที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับนิยามประสิทธิภาพของ HD Audio ซึ่งรองรับการทำงานได้ถึง 32-bit/768kHz PCM และ Native DSD1024 และให้ช่วงไดนามิก เรนจ์ ได้กว้าง 135dB (Mono Mode) ขณะที่ THD+N มีค่า -120dB
แผงหน้าปัดเครื่องมีความเรียบง่ายเช่นเดียวกับเครื่องขับหมุนและอ่านแผ่น นอกจากปุ่ม Power กดเปิด/ปิดเครื่องแล้ว ยังมีปุ่มกดเล็กๆ อีกสองปุ่มขนาบแผงจอดิสเพลย์ ด้านซ้ายเป็นปุ่มกด Filter ที่มีให้เลือกระหว่าง Flat/Pulse กับด้านขวาเป็นปุ่มกดเลือก Input ของการอินเตอร์เฟซ
โดยที่แผงหลังมีอินเตอร์เฟซแบบ SuperLink ให้เลือกสองชุด ชุดแรกเป็นสายสี่เส้นเหมือนกับ Model TL2N ส่วนอีกชุดเป็นแบบ D-SUB 9-Pin ซึ่งเป็นซูเปอร์ลิงก์เจเนอเรชั่นแรก ให้มาเพื่อสามารถใช้งานร่วมกับทรานสพอร์เตอร์รุ่นก่อนหน้านี้ของ C.E.C. เองได้ โดยจะแสดงสถานะของรูปแบบการอินเตอร์เฟซให้เห็นที่จอแสดงผลบนแผงหน้าปัดเครื่อง
ในส่วนของ Analogue Output มีให้เลือกสองชุดแบบ Balanced XLR กับแบบ RCA นอกจากนี้ ยังมีอินพุตสำหรับ Word-Clock 44.1kHz ให้อีกหนึ่งชุด
C.E.C. TL2N & DA SL ได้รับการชื่นชมมากว่าทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว ภายใต้ความซับซ้อนของเครื่องขับหมุนและอ่านแผ่น กับความเรียบง่ายที่ออกแบบมาอย่างดีเยี่ยมของเครื่องแปลงสัญญาณ ผลลัพธ์ที่ได้คือน้ำเสียงที่มีความเป็นอะนาล็อกสูงมาก เป็นเสียงดนตรีที่มีความลื่นไหลอย่างน่าฟัง และปลอดความรู้สึกระคายเคืองในการรับฟังอย่างสิ้นเชิง จึงสามารถฟังติดต่อกันได้เป็นเวลานานๆ โดยไม่รู้สึกล้าแต่อย่างใด
รางวัล Products of the Year ของสื่ออย่าง High Fidelity รับประกันคุณภาพครับ •
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022