หยุดปฏิบัติหน้าที่/ลึกแต่ไม่ลับ จรัญ พงษ์จีน

จรัญ พงษ์จีน

ลึกแต่ไม่ลับ

จรัญ พงษ์จีน

 

หยุดปฏิบัติหน้าที่

 

ประวัติศาสตร์การเมืองต้องจารึกชื่อไว้ สำหรับเขา “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เพื่อเอาไปเล่าต่อยังรุ่นลูก รุ่นหลานในภพภูมิต่อไป แม้การได้มาซึ่งอำนาจ จะเลาะสนามมาทางลัด จากการ “ปฏิวัติ-รัฐประหาร”

เข้ามาบริหารจัดการประเทศ 2 คาบช่วงเวลา ผลงานลุ่มๆ ดอนๆ ถึงตอนนี้ ความอดยาก ความยากจนแผ่กระจาย สิทธิเสรีภาพถูกจำกัด “หลักธรรมาภิบาล” ล่มสลาย ความถูกต้องเป็นธรรม-นิติธรรม-คุณธรรม-ความโปร่งใส เละตุ้มเป๊ะ

แต่ “พล.อ.ประยุทธ์” กลับหนังเหนียวหนึบๆ ยืนยงคงกระพันแบบสุดๆ

คงทนต่อศัสตราวุธ สามารถทนทานต่อคมอาวุธทั้งหลาย ยืนหยัดมาได้ตลอด “อยู่ยงคงกระพัน” ฟันแทงเท่าไหร่ไม่เข้า โดนฝ่ายตรงข้ามรุมกินโต๊ะมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

ทั้งกระบี่หงส์หยก-มีด-ขวาน-ไม้หน้าสาม พากันสนิมจับเกรอะ ทื่อๆ สุดท้ายพากันบาดคอหอยไม่ตาย แทงไม่เข้า “บิ๊กตู่” แค่หน้าแดงแรงไม่ออก จึงรอดแล้วรอดเล่า ไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว

ปมใหม่ว่า “คุณสมบัติครบ 8 ปี” บนเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 29 ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ กันฝุ่นตลบ จะจบอย่างไร นับหนึ่งจากจุดสตาร์ตวันไหน

1. เริ่มนับจากการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งแรก เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2557 วันโปรดเกล้าฯ ครั้งแรก ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557

ก็จะครบ 8 ปีบริบูรณ์หลังเที่ยงคืนวันที่ 23 สิงหาคม 2565 “พล.อ.ประยุทธ์” ต้องก้าวลงจากหลังเสือ

แนวทางที่ 2 เริ่มนับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 จะครบ 8 ปีบนเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 5 เมษายน 2568 ยังลงสมัครรับเลือกตั้งได้อีก 1 สมัย แต่กรณีที่ได้รับฉันทานุมัติให้กลับมาดำรงตำแหน่งนายกฯ อีกครั้ง จะอยู่ได้ครึ่งเทอมแค่ 2 ปี

กับช่องทางที่ 3 เริ่มนับหนึ่งจากวันดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 คือวันที่ 9 มิถุนายน 2562 หลังศึกเลือกตั้งใหญ่ จะครบ 8 ปีเต็มในวันที่ 8 มิถุนายน 2570 “บิ๊กตู่” จะมีอายุราชการอีกเหลือเฟือ 5 ปีเต็ม

ล่าสุด “หวย 8 ปี” ออกเรียบร้อยแล้ว “มหาภูตสี่” ดิน น้ำ ลม ไฟ ออกจากร่าง “พล.อ.ประยุทธ์” ชั่วคราว จากที่เคยหนังเหนียว ฟันแทงไม่เข้า กลับคางเปราะดุจ “กระดูกยุง” ความคงกระพันไร้มนต์ขลังซะแล้ว

เมื่อ “คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” นัดประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องรับหรือไม่รับ กรณีประธานรัฐสภาส่งคำร้องของ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน เข้าชื่อกันตามมาตรา 82 เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นนายกรัฐมนตรีของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” สิ้นสุดลงเนื่องจากดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี รวมทั้งขอให้มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าทื่ จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยออกมา เนื่องจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมีความสำคัญต่อการบริหารราชการแผ่นดิน

โดยรายงานข่าวเบื้องต้นแจ้งว่า “ศาลรัฐธรรมนูญ” พิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้อง และเอกสารคำร้องแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 รับคำร้องไว้วินิจฉัย ขณะเดียวกัน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 เสียง ให้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันนี้ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

 

ทีนี้มาทำความรู้จัก “คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” ทั้ง 9 คน ประกอบด้วย

1. “นายวรวิทย์ กังศศิเทียม” ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้รับเลือกมาโดยที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด

2. “ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.จิรนิติ หะวานนท์” รับเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา

3. “นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม” รับเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา อดีตผู้พิพากษาศาลจังหวัดแม่สอด จังหวัดพิษณุโลก และศาลจังหวัดนครสวรรค์

4. “นายวิรุฬห์ แทงเทียน” รับเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา ประธานแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจในศาลฎีกา

5. “นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์” รับเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด อดีตตุลาการศาลปกครองชั้นต้น ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองชั้นต้น ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด

6. “ศ.ดร.ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ” ผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์ นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

7. “นายปัญญา อุดชาชน” ผู้ทรงคุณวุฒิทางราชการ ศิลปศาสตรบัณฑิต นิติศาสตรมหาบัณฑิต

8 “ศ.ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์” ผู้ทรงคุณวุฒิสาขารัฐศาสตร์ รัฐศาสตรบัณฑิต การเมือง การปกครอง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

9. “นายนภดล เทพพิทักษ์” ผู้ทรงคุณวุฒิทางราชการ รัฐศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ทั้งนี้ สำหรับ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ไม่ใช่ครั้งแรกที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เคยโดนมาแล้วหลายครั้ง แต่แขวน “พระรอด” มาตลอด หนแรก กรณีกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ครบถ้วน ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ

ครั้งที่สอง กรณี “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นหัวหน้า คสช. มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงขาดคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี “ศาล” วินิจฉัยว่า ไม่ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากตำแหน่งหัวหน้า คสช.ไม่ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ครั้งที่ 3 พรรคฝ่ายค้านเป็นเจ้าภาพร่วมกันอีกที ยื่นคำร้อง กรณีที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ซึ่งเกษึยณอายุราชการแล้ว ยังอยู่บ้านหลวง ใช้น้ำ ใช้ไฟฟ้าฟรี เข้าข่ายรับประโยชน์โดยมิชอบจากหน่วยราชการ

ปรากฏว่า ศาลมีมติยกคำร้อง แต่ครั้งที่ 4 ว่าด้วยคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี ผิดแผกแตกต่างกับครั้งที่ 1-3 รับเรื่องไว้วินิจฉัยเป็นเอกฉันท์ และ 5 ต่อ 4 เสียง ให้ “ลุงตู่” หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว

กระบวนการพิจารณาไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อความรอบคอบ รัดกุม จะกี่เดือน-ปักษ์-ฤดูกาล ก็ต้องลุ้นระทึกกันต่อไป

รู้แต่ว่า ตอนนี้เวทีแห่งโชคชะตาของ “พี่ใหญ่-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” เปิดประตูอ้าซ่า

ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 1 ขยับขึ้นไปทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี ถึงเวลาดอกไม้ก็บานเอง ได้นั่งหัวโต๊ะประชุมคณะรัฐมนตรีสืบแทน

ขณะที่ “น้องตู่” แม้จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไว้เป็นการชั่วคราว

แต่ยังมีหมวกสวมอยู่อีกใบ คือ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สามารถเข้าไปประชุม ครม.ได้ด้วย

เพียงแต่ต้องสลับฟันปลา เป็นเก้าอี้ดนตรีกับ “พี่ป้อม” กันชั่วคราว

“สมบัติผลัดกันชม” ก็สนุกไปอีกแบบ