พลิกนาทีไฟไหม้สยอง เมาน์เท่นบี-คร่า 19 ศพ โวยท้องถิ่น-ตร.ละเลย ปล่อยเหตุซ้ำ ‘ซานติก้า’/อาชญา ข่าวสด

ไหม้ผับสยอง

อาชญา ข่าวสด

 

พลิกนาทีไฟไหม้สยอง

เมาน์เท่นบี-คร่า 19 ศพ

โวยท้องถิ่น-ตร.ละเลย

ปล่อยเหตุซ้ำ ‘ซานติก้า’

 

เป็นความสูญเสียที่ชอกช้ำที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ สำหรับเหตุไฟไหม้ผับเมาน์เท่นบี ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จนมีผู้เสียชีวิตนับสิบราย บาดเจ็บอีกหลายสิบคน

เพราะเป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนความเพิกเฉย ปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับ จนเกิดเหตุสลดขึ้นมาได้

ทั้งที่กรณีดังกล่าวเคยมีบทเรียนมาก่อนแล้ว เมื่อครั้งซานติก้าผับ จนเกิดความตื่นตัวในทุกระดับ ทั้งเรื่องการให้ความรู้เกี่ยวกับการเอาตัวรอดจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ การปรับปรุง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร การกำหนดพื้นที่สถานบริการว่าต้องมีระบบดับไฟ ทางเข้าออกชัดเจนและเพียงพอต่อการอพยพคนจำนวนมาก

แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นเช่นนั้น ยังเกิดไฟไหม้มีคนเสียชีวิตในสภาพอออยู่หน้าประตูทางออกที่เล็ก แคบ และเปิดไว้เพียงทางเดียว

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อตรวจสอบกลับพบว่าเป็นสถานบริการที่เปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต ตำรวจ ท้องถิ่น ฝ่ายปกครอง ทุกคนไม่รู้เลยว่ามีสถานบริการแห่งนี้เกิดขึ้นในพื้นที่

กลายเป็นคำถามทำไมถึงเกียร์ว่างกันได้ขนาดนี้ แล้วใครกันแน่ที่ควรจะรับผิดชอบ

รวมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดเหตุสลดเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก!!

ไฟไหม้ผับคร่าแล้ว 19 ศพ

เหตุสลดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 5 สิงหาคม ตร.สภ.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้สถานบริการบันเทิงเมาน์เท่นบี ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท หมู่ 7 ต.พลูตาหลวง มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารชั้นเดียวในเนื้อที่กว่า 3 ไร่ เพลิงลุกไหม้ตัวอาคารอย่างรุนแรงท่ามกลางความโกลาหลวุ่นวาย นักเที่ยวนับร้อยวิ่งหนีตายออกจากตัวอาคาร บางรายอยู่ในสภาพถูกไฟคลอกทั้งตัวนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด เจ้าหน้าที่และอาสากู้ภัยช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น และรีบนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และโรงพยาบาลพลูตาหลวง ก.ม.10

ทั้งนี้ การควบคุมเพลิงเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากภายในอาคารมีวัสดุติดไฟง่าย โดยเฉพาะฉนวนโฟมซับเสียง จึงทำให้เพลิงลามไปทั่วตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมฉีดน้ำนานกว่า 2 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ พร้อมทั้งกันผู้คนออกจากพื้นที่ เนื่องจากอาคารอาจทรุดตัวลงมา

จากนั้นเจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 13 คน เป็นผู้หญิง 4 คน และผู้ชาย 9 คน นอนตายกองรวมกันบริเวณหน้าประตู 4 คน ในห้องน้ำชาย 3 คน หลังบูธดีเจ 1 คน ในบริเวณแคชเชียร์ 2 คน และหน้าแคชเชียร์ 3 คน สภาพศพถูกไฟคลอกไหม้เกรียมทั้งตัว เสียชีวิตสลด

ต่อมามีผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 2 ราย เป็น 16 ศพ ทั้งนี้ ยังมีบาดเจ็บ 42 ราย ในจำนวนนี้ใส่ท่อช่วยหายใจ 16 ราย

ล่าสุด รายที่ 19 น้องไอซ์ อาทิตยา อินศิริ อายุ 23 ปี จากไปอย่างสงบเมื่อเวลา 02.50 น. วันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา

เป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่!!

สำหรับสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เร่งเก็บหลักฐาน ตรวจสอบทั้งวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งภายใน ฉนวนซับเสียง อุปกรณ์ต่างๆ เวที ฝ้าเพดาน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

ขณะที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าถึงนาทีนรกว่า ระหว่างที่กำลังกินดื่มอยู่ภายในผับ ซึ่งมีการแสดงดนตรีตามปกติ และช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง จากนั้นนักดนตรีก็หยุดเล่น ก่อนจะเกิดไฟลุกและกลุ่มควันต้นเพลิงอยู่บนเพดานเหนือเวทีฝั่งซ้าย

จากนั้นก็มีคนตะโกนว่าไฟไหม้ แล้วเกิดไฟลามอย่างรวดเร็ว คาดไฟลุกไหม้ฉนวนโฟมกันเสียงที่ฉีดไว้เต็มพื้นที่ จากนั้นนักท่องเที่ยว พนักงาน กรูกันวิ่งออกจากผับด้านหน้า บางคนวิ่งหนีออกมาไม่ทันก็ถูกไฟคลอก บางคนวิ่งออกมาจากผับได้ในสภาพไฟท่วมตัวก็มี

ขณะที่นักดนตรีเล่าให้ฟังว่าผับดังกล่าวมีประตู 3 ทาง ด้านหน้ามีทางเข้า 2 ชั้น โดยประตูอยู่สลับด้าน ด้านหลังแม้มีประตู แต่ล็อกกุญแจไว้ตลอด เพราะการลักลอบเข้ามาในผับ นอกจากนี้ ยังไม่มีทางบอกประตูหนีไฟที่ชัดเจน ไม่มีระบบดับเพลิงตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร

สภาพภายใน

ทำให้ความสูญเสียรุนแรงอย่างที่เห็น!!!

เด้งรูด ตร.-นอภ.-เสี่ยโต้นอมินี

และแน่นอนเมื่อเกิดความสูญเสียใหญ่ขนาดนี้ การไล่รื้อขยะที่ซุกอยู่ใต้พรมก็ต้องเกิดขึ้น และจากการตรวจสอบพบว่าเป็นสถานบริการที่ไม่มีใบอนุญาต และมีความผิดเกือบทั้งหมด

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ระบุว่า เรื่องผับเมาน์เท่นบี เป็นอำนาจท้องถิ่นที่อนุญาต โดยคนที่กำกับท้องถิ่นคือผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งนี้ ตรวจสอบพบเป็นการขออนุญาตจดทะเบียนเป็นร้านอาหาร เปิดกิจการเมื่อ 1 มิถุนายน 2565 แต่กลับเปิดเป็นสถานบริการ ขั้นต้นท้องถิ่นต้องรับผิดชอบ ฝ่ายปกครองก็ผิดด้วย

เบื้องต้นสั่งย้าย ว่าที่ พ.ต.ชาติชาย ศรีโพธิ์อ่อน นายอำเภอสัตหีบ มาช่วยราชการที่กรมการปกครอง พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว ซึ่งเจตนากระทำผิดคอร์รัปชั่น มีผลประโยชน์ มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือปล่อยปละละเลยหรือไม่ ถือว่าเข้าข่ายผิดทั้งทางวินัยและอาญา

ขณะที่ พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี มีคำสั่งย้าย 5 เสือ สภ.พลูตาหลวง ประกอบด้วย พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ สมใจ ผกก.สภ.พลูตาหลวง พ.ต.ท.สมศักดิ์ รู้ยิ่ง รอง ผกก.ปป.สภ.พลูตาหลวง พ.ต.ท.ต่อวงศ์ ศักดิ์กุลวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.พลูตาหลวง พ.ต.ต.สมญา ชูสุขพลเยี่ยม สารวัตรปราปราม สภ.พลูตาหลวง พ.ต.ท.ยุทธนา สงกระสันต์ สารวัตรสืบสวน สภ.พลูตาหลวง

รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม สังคมก็ยังเกิดความสงสัยว่าผับดังกล่าวสามารถเปิดบริการได้อย่างสะดวกโยธิน จะเป็นไปได้หรือไม่ที่มีคนมีสีอยู่เบื้องหลัง และใช้ให้นอมินีเป็นเจ้าของแทน

โดยนายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ หรือเสี่ยบี อายุ 27 ปี ผู้รับเป็นเจ้าของผับ และถูกตั้ง 2 ข้อหา คือ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้รับประกันตัว ก็เปิดแถลงข่าวยืนยันเป็นเจ้าของตัวจริง ไม่มีนายทุนจีน ไม่มีคนมีสี ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง เป็นเพียงวัยรุ่นสร้างตัวที่ทำงานเก็บเงินจากเขียงหมู ร้านก๋วยเตี๋ยว มาเปิดสถานบริการเท่านั้น

ยืนยันพร้อมให้ความร่วมมือกับการตรวจสอบสาเหตุทั้งหมด และจะเยียวยาผู้เสียหายเต็มที่ หลังจากเสร็จเรื่องก็จะบวชอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตทั้งหมด

เป็นการชี้แจงจากเจ้าของผับ ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์

เจ้าของแถลงขอโทษ

ย้อนโศกนาฏกรรมซานติก้าผับ

สําหรับเหตุการณ์ความสูญเสียครั้งนี้ นอกจากความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังเกิดปรากฏการณ์ของสังคมที่เกิดการตั้งคำถามว่าจะต้องเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีกสักกี่ครั้ง เพราะก่อนหน้านี้เมื่อเกิดเหตุสยองที่ซานติก้าผับ ทุกหน่วยงานองคาพยพก็พยายามออกมาถอดบทเรียนแก้ไขปัญหากันอย่างอุตลุด แต่เหตุใดเพียง 10 กว่าปีผ่านไป ก็ไม่มีการวางมาตรการใดๆ ที่เป็นรูปธรรม

หรือเป็นเพียงการแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปเท่านั้น

สำหรับเหตุซานติก้าผับนั้น เป็นเหตุการณ์ไฟไหม้สถานบันเทิงจนมีผู้เสียชีวิตเกือบ 70 คน บาดเจ็บอีกนับร้อย เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2551 คืนวันฉลองส่งท้ายปีเก่า ที่ซานติก้าผับ สถานบันเทิงชื่อดังย่านเอกมัย โดยรายงานแจ้งว่าคืนวันเกิดเหตุมีบรรดานักท่องเที่ยวเข้าไปร่วมฉลองเคาต์ดาวน์กว่า 1 พันคน ขณะที่ผับดังกล่าวรองรับลูกค้าได้ประมาณ 500 คนเท่านั้น

โดยสาเหตุเดิมคาดว่าเกิดจากการที่นักท่องเที่ยวจุดพลุกระดาษฉลองในช่วงเคาต์ดาวน์ จนไปติดไฟสปอตไลต์เกิดไฟลุก แต่จากการสอบสวนจนทราบว่าเกิดจากเอฟเฟ็กต์ประกอบการแสดงดนตรีนั่นเอง

เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เนื่องจากไม่สามารถหนีออกจากอาคารที่มีประตูทางออกขนาดเล็ก จนหลายศพเหยียบกันตาย และถูกไฟคลอก

หลังเกิดเหตุมีการออกกฎกระทรวง กำหนดประเภทและระบบความปลอดภัยของอาคารที่ใช้เพื่อประกอบกิจการเป็นสถานบริการ พ.ศ.2555 แบ่งขนาดพื้นที่บริการ 6 ประเภท ตามขนาดพื้นที่และลักษณะอาคารเดี่ยว หรือสถานบริการหลายประเภทรวมกัน กำหนดตำแหน่งบันไดหนีไฟอย่างน้อย 2 ทาง รวมถึงทางออก และประตูทางออก ที่สอดคล้องกับจำนวนคนสูงสุดที่อยู่ในพื้นที่บริการ มีการกำหนดโครงสร้างหลัก โครงสร้างหลังคาที่ต้องมีอัตราทนไฟ รวมทั้งมีอุปกรณ์ป้องกันไฟไหม้ เครื่องดับเพลิงแบบมือถือ หรือหัวจ่ายน้ำดับเพลิง ตามขนาดสถานบริการ

เป็นกฎหมายที่ออกมาป้องกันเหตุสลด แต่สุดท้ายถูกละเลยไม่มีการตรวจสอบใดๆ จากพนักงานเจ้าหน้าที่ จนเกิดการตายซ้ำแล้วซ้ำอีก

จึงเป็นเรื่องต้องรอดูว่าความรับผิดชอบที่เกิดขึ้นจะมีผลสรุปออกมาอย่างไร!!!