พิศณุ นิลกลัด : ควรเก่งภาษาหากจะเป็นนักฟุตบอลต่างแดน

พิศณุ นิลกลัด

นับตั้งแต่ปี 2012 ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ทุ่มเงิน 14,600 ล้านบาท ในการสร้างนักเตะโตในบ้าน หรือ โฮม โกรน (Home Grown) ภายใต้แผนชื่อ อีลีต เพลเยอร์ เพอฟอร์แมนซ์ (Elite Player Performance Plan) เน้นการพัฒนาอคาเดมี่ สร้างนักเตะเยาวชนให้มีคุณภาพทั้งในด้านการเล่นฟุตบอล ความรู้ด้านต่างๆ รวมถึงความคิด นิสัย และพฤติกรรม

นักเตะโฮม โกรน คือนักเตะระดับท้องถิ่นที่มาหัดฟุตบอลในทีมสโมสรของอังกฤษตั้งแต่ระดับเยาวชน

หนึ่งในคุณสมบัติสำคัญที่ทางพรีเมียร์ ลีก พยายามปลูกฝังให้นักเตะโฮม โกรน มีก็คือ ความรู้ในภาษาอื่นนอกเหนือจากภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาแม่

มาร์ติน เฮเธอร์ (Martyn Heather) ผู้อำนวยการด้านการศึกษาของพรีเมียร์ ลีก ให้แง่คิดน่าสนใจว่า ความรู้ด้านภาษาที่หลากหลายจะทำให้อายุงานในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพยาวขึ้น และทำให้สามารถเป็นนักฟุตบอลทีมต่างๆ ได้ทั่วโลก

มาร์ตินเห็นว่า ลีกฟุตบอลที่กำลังมาแรงมากในตอนนี้ คือลีกฟุตบอลจีน เพราะจ่ายค่าตัวนักเตะสูงมาก และพยายามจะเป็นคู่แข่งของพรีเมียร์ ลีก

นักเตะเยาวชนควรตระหนักว่า อาชีพนักฟุตบอลนั้นไม่ได้มีอยู่แค่ในอังกฤษ ลองดูตัวอย่างนักเตะต่างชาติที่เล่นในพรีเมียร์ ลีกและประสบความสำเร็จอย่างมาก เรื่องแบบนี้นักเตะเยาวชนในอังกฤษสามารถทำได้เช่นกันในต่างประเทศ

นอกจากนี้ มาร์ตินบอกว่า มีนักเตะที่ค้าแข้งในต่างแดน แต่ไม่เรียนภาษาของประเทศที่ไปค้าแข้ง ทำให้ปรับตัวไม่ได้ เสียโอกาสดีๆ ในชีวิตเพราะไม่ได้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่

เขาชี้ให้นักเตะเยาวชนในอังกฤษดูนักเตะต่างชาติในพรีเมียร์ ลีก เป็นตัวอย่าง ว่าสามารถพูดสื่อสารภาษาอังกฤษคล่องตอนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว

ที่นักเตะต่างชาติต้องพูดและฟังภาษาอังกฤษให้เข้าใจเพราะต้องสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม

หากไปค้าแข้งที่ฝรั่งเศส ภาษาที่นักเตะในทีมสื่อสารกันก็จะเป็นภาษาฝรั่งเศส

ไปค้าแข้งที่สเปน ก็ต้องพูดภาษาสเปนให้ได้

 

สําหรับการฝึกนักฟุตบอลเยาวชนในอังกฤษให้เรียนภาษาอื่น มาร์ติน เฮเธอร์ มีวิธีที่น่าสนใจมาก

เมื่อทีมนักฟุตบอลเยาวชนอังกฤษมีทัวร์นาเมนต์แข่งกับนักฟุตบอลเยาวชนต่างชาติ ไม่ว่าอังกฤษจะเป็นเจ้าภาพหรือเดินทางไปแข่งประเทศอื่น มาร์ตินจะให้นักเตะเยาวชนอังกฤษนั่งทานอาหารร่วมโต๊ะกับนักเตะเยาวชนชาติต่างๆ โดยไม่มีผู้ใหญ่นั่งร่วมโต๊ะ

จากนั้นก็จะให้ทำกิจกรรมตอบคำถามต่างๆ เกี่ยวกับฟุตบอลร่วมกัน วิธีนี้ทำให้นักฟตุบอลเยาวชนจากชาติต่างๆ ต้องสื่อสารกัน เป็นการเรียนภาษาไปด้วยในตัว ทำให้นักเตะเยาวชนได้คิดว่า การรู้ภาษาอื่นๆ นั้นมีประโยชน์และสนุกด้วย เพราะเป็นภาษาต่างชาติที่เกี่ยวกับฟุตบอล

นับเป็นวิธีการเรียนรู้ภาษาใหม่ที่ไม่น่าเบื่อ

 

นักฟุตบอลระดับโลกที่กำลังมีปัญหาไม่เข้าใจภาษาเวลาไปค้าแข้งต่างแดนขณะนี้ คือ คาร์โลส เตเบซ อดีตนักเตะทีมชาติอาร์เจนตินา ซึ่งเคยเล่นให้กับทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเวสต์แฮม ยูไนเต็ด

เตเบซเป็นข่าวดังไปทั่วโลก เมื่อเซ็นสัญญา 2 ปีกับทีมเซี่ยงไฮ้ เซิ่นหัว ใน Chinese Super League เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วด้วยค่าเหนื่อยสูงสุดขีด 1,460 ล้านบาทต่อปี แต่ทางเตเบซออกมากล่าวว่าค่าตัวไม่ได้มากมายอย่างที่รายงานข่าวกัน

เตเบซเริ่มเล่นให้กับทีมเซี่ยงไฮ้ เซิ่นหัว เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ลงแข่งเดือนเดียว 5 นัดยิงแค่ 2 ประตู เดือนเมษายนก็บาดเจ็บน่องทำให้ลงแข่งไม่ได้ ต้องกลับไปรักษาตัวที่อาร์เจนตินาบ้านเกิด เพิ่งเดินทางกลับไปประเทศจีนเมื่อปลายเดือนสิงหาคม

เตเบซไม่เป็นขวัญใจของแฟนฟุตบอลชาวจีนเท่าไหร่ ตามข่าว เขามีปัญหาเรื่องการปรับตัว พูดจีนก็ไม่ได้ ต้องใช้ล่ามตลอด อาหารจีนก็ไม่ชอบทาน อยู่จีนมานานถึง 2 เดือน กว่าที่จะเริ่มทานอาหารจีน ไม่ฝักใฝ่ที่จะเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมจีน เป็นคนเก็บตัวไม่คุยสุงสิงกับเพื่อนร่วมทีม เพราะขนสมาชิกในครอบครัวจากอาร์เจนตินาถึง 19 คนไปอยู่ด้วยที่เมืองจีน จึงไม่รู้จักที่จะขวนขวายทำความรู้จักกับคนอื่น

เมื่อปลายเดือนกันยายน เตเบซยังทำให้แฟนๆ ชาวจีนไม่พอใจเป็นอย่างมากเมื่อสถานีโทรทัศน์ของฝรั่งเศสออกเทปการสัมภาษณ์ของเตเบซที่ตอบเป็นภาษาสเปนว่านักฟุตบอลจีนไม่มีพรสวรรค์เท่าไหร่เมื่อเทียบกับนักฟุตบอลอเมริกาใต้หรือยุโรปที่ฝึกตั้งแต่เด็ก นักฟุตบอลจีนเทคนิคไม่ดีเพราะไม่ได้ฝึกตั้งแต่เป็นเด็ก นอกจากนั้น เตเบซยังบอกว่าอีก 50 ปี ลีกฟุตบอลจีนก็ยังไม่สามารถพัฒนาไปให้เทียบเท่าลีกระดับโลกได้

ปากพาจนจริงๆ พับผ่า

 

เตเบซเป็นนักเตะในพรีเมียร์ ลีกอังกฤษนานถึง 8 ปี แต่พูดภาษาอังกฤษไม่คล่องเอาเลย เพราะไม่สนใจที่จะเรียนรู้

สมัยที่เล่นให้กับทีมแมนเชสเตร์ ยูไนเต็ด เตเบซสร้างความไม่พอใจให้กับเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมเป็นอย่างมาก เพราะเรียนภาษาอังกฤษได้แป๊บเดียวก็เลิกเพราะไม่อยากเรียน

ซึ่งเตเบซยอมรับว่า 8 ปีที่อยู่ในอังกฤษเขาพูดภาษาอังกฤษแทบไม่ได้เลย

หลังจากอำลาเมืองแมนเชสเตอร์ เตเบซก็ให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ว่า เมืองแมนเชสเตอร์น่าเบื่อ มีร้านอาหารเพียง 2 ร้าน ยังไงชาตินี้ก็ไม่มีวันกลับไปเหยียบอีก ซึ่งหลายคนมองว่า การที่เตเบซไม่ประทับใจเมืองแมนเชสเตอร์ เพราะพูดอังกฤษไม่ได้ สื่อสารกับคนอื่นไม่เข้าใจ จึงทำให้อึดอัด ไม่มีความสุขที่จะอยู่

ต่างจาก เซอร์จิโอ อเกวโร่ นักเตะชาวอาร์เจนตินา ของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้

ตอนที่อเกวโร่เซ็นสัญญากับทีมในปี 2011 เขาเตรียมฝึกพูดภาษาอังกฤษทันที โดยตอนนั้นตัวเขาพูดแต่ภาษาสเปน ส่วนภาษาอังกฤษพูดไม่ได้เลย ดังนั้น เขาจึงฝึกติวเข้มภาษาอังกฤษ มีติวเตอร์มาสอนสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 2 ชั่วโมง

เหตุผลที่ เซอร์จิโอ อเกวโร่ เอาจริงเอาจังกับการฝึกภาษาอังกฤษเพราะเขาได้รับคำแนะนำจาก พาโบล ซาบาเลต้า นักเตะร่วมทีมซึ่งเป็นชาวอาร์เจนตินาเหมือนกัน ที่เซ็นสัญญากับทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนหน้าในปี 2008 (ปัจุจบัน ซาเบเลต้าเล่นให้กับทีมเวสต์แฮม) โดยซาบาเลต้าแนะนำอเกวโร่ ว่า การเรียนภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนมาถึงประเทศอังกฤษใหม่ๆ

ซาบาเลต้าบอกว่าตอนเขาไปถึงประเทศอังกฤษใหม่ๆ พูดอังกฤษไม่ได้เลย แต่เขาติวเข้มภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง เพราะนักเตะไม่ใช่พูดสื่อสารเพียงผู้จัดการทีมและเพื่อนร่วมทีมเท่านั้น แต่ยังต้องพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ต่างๆ ในทีม เช่น นักกายภาพบำบัด และ ฯลฯ

การพูดคุยสื่อสารกับคนรอบข้างได้ทุกคนทำให้ปัญหาน้อยลง ชีวิตมีความสุข มีสมาธิกับการฝึกซ้อมและการแข่งขันเต็มที่ ผลงานก็ออกมาดี