รัชดา ธนาดิเรก กับเรื่องผู้หญิงในประชาธิปัตย์ ส.ส.สตรีทุกคนในพรรคต้องมูฟออน/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

ปิยะ สารสุวรรณ

 

รัชดา ธนาดิเรก

กับเรื่องผู้หญิงในประชาธิปัตย์

ส.ส.สตรีทุกคนในพรรคต้องมูฟออน

 

เมฆฝน “ปริญญ์เอฟเฟ็กต์” เหมือนจะลับหายเข้าเส้นขอบฟ้า แต่ไม่ได้หายไปจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะตั้งเค้า-ฟ้าคะนองลงใจกลางลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม

“รัชดา ธนาดิเรก” กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) – (อดีต) ส.ส.หญิงประชาธิปัตย์ สวมหมวกคณะกรรมการกำหนดแนวทางในการตรวจสอบคุณสมบัติและเกณฑ์การคัดเลือกผู้ที่จะสมัครเป็นผู้สมัครเป็นสมาชิกพรรคและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำสุดขีด

ทว่า เธอไม่ได้มองว่าเป็น “เผือกร้อน” และไม่ใช่เป็นเรื่อง “ปาหี่”

“แวบแรกอาจจะเหมือนเป็นเผือกร้อน แต่หลังจากได้รับมอบหมายได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 9 คน และเชิญบุคคลภายนอก 10 คน ที่เป็น activists (นักเคลื่อนไหว) ผู้ที่มีบทบาทตรงนี้มาช่วย และการเชิญคนภายนอกมาที่มีชื่อเสียงในเรื่องนี้และเขาตอบรับสะท้อนว่า เขามั่นใจในตัวเรา เราทำจริงจัง ไม่ใช่เรื่องปาหี่”

“ถ้ามองอย่างใจกว้าง ปัญหาคนมีตำแหน่งใหญ่โต แล้วใช้หาผลประโยชน์ทางเพศ ไม่ใช่เกิดขึ้นเฉพาะกับประชาธิปัตย์เท่านั้น มีทุกระดับ อยากให้หยิบประเด็นนี้เป็นประเด็นสังคม การละเมิด คุกคามทางเพศ เกิดขึ้นได้ทุกองค์กร อย่าให้เรื่องที่เกิดขึ้นกับพรรคครั้งนี้ เป็นเพียงแค่เรื่องกระแสสังคมเท่านั้น เราต้องลุกขึ้นมาช่วยกันแก้ไข”

ปรากฏการณ์ “ไลน์หลุด” สาวไส้กันเองของ ส.ส.หญิงประชาธิปัตย์ ที่ออกมาสู่สาธารณะ ผสมโรงกับ “ปริญญ์เอฟเฟ็กต์” เปิดแผลสดที่ยังไม่หายดีให้กลับมากำเริบ

“สิ่งที่เกิดขึ้นกระทบต่อพรรคและ ส.ส.หญิงทุกคนไม่พอใจอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเราถูกมองเหมือนว่า เรามีความเกี่ยวข้องกับสิ่งๆ นั้น แต่จะให้เราทำอย่างไรได้ เพราะไม่เป็นความจริง เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด คนที่เป็น ส.ส.ลงพื้นที่ไป คนที่เป็น กก.บห.ขับเคลื่อนดูแลพรรค เราไม่สามารถไปจมปลักกับสิ่งที่คนอื่นวิจารณ์เรา เรามีหน้าที่ต้องทำตัวเราเองให้ดีที่สุด และสิ่งที่ดีที่สุดตรงนั้นมันจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงออกมา”

“เราโกรธมาก เพราะมีความรู้สึกว่า ฉันก็อยู่ของฉันดีๆ แล้วพอมันมีโพสต์ในไลน์นี้ออกมา เราก็เดาได้เลยว่า คนก็จะตั้งคำถามว่า ใคร คนไม่มาถามหรอกว่า ใครเอาออกไปนอกไลน์กลุ่ม แต่คนสนใจว่า ใครที่ถูกพูดถึง คนก็ต้องสงสัยผู้หญิงทุกคนในพรรค และเราก็คือ 1 ในนั้น แล้วก็เห็นใจเพื่อนๆ ทุกคน เพราะว่าแต่ละคนคงจะเป็นผู้ถูกสงสัยในระดับที่แตกต่างกัน เรารู้ถึงความรู้สึกเขาได้”

“มันเหมือนทำให้พรรคช้ำขึ้นอีก แต่เราก็ต้องอยู่กับความเป็นจริง ว่า เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ถ้ามันไม่ใช่ ถ้ามันเกิดขึ้นแล้ว มันหลุดออกไปแล้ว คนตั้งคำถามไปแล้ว คนวิจารณ์ไปแล้ว”

“เราเป็นนักการเมือง มันต้องอยู่ให้ได้กับทุกสถานการณ์ แล้วเมื่อเป็นนักการเมืองผู้หญิง ไม่เจอด้วยเหตุอันนี้ เดี๋ยวมันก็ต้องมีอะไรสักอย่างให้โดนอยู่ดี เพราะฉะนั้น สิ่งที่จะทำให้เรามุ่งมั่น ไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่ไม่เป็นความจริงอย่างนี้ อย่าให้มันมาบั่นทอนเรา ให้นึกถึงโอกาสที่ดีที่จะได้ทำให้กับพี่น้องประชาชน”

“สิ่งที่วิพากษ์วิจารณ์ เสียงนินทา เสียงลือเสียงเล่าอ้าง มันไม่ได้มีความหมายอะไร เพราะมันไม่ได้ทำให้ตัวเราด้อยค่าลงนะ อย่าทำให้เราท้อใจ เรามีหน้าที่ที่ต้องดูแลประชาชน ทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น ตรงนั้นมีคุณค่ามาก จะไปเสียเวลากับไอ้เรื่องตรงนี้ทำไม หงุดหงิดได้ เซ็งได้ แต่ 2 วันก็ต้องผ่านไป ไปทำอย่างอื่นเหอะ แล้วคนที่เขาเป็น ส.ส.เขต เหนื่อยจะตาย สู้กับพรรคโน้น พรรคนี้ แล้วให้มาหงุดหงิดกับเรื่องนี้อีก ไม่ไหวหรอก”

 

“รัชดา” คือ 1 ใน 7 ส.ส.หญิงที่ออกมาแสดงความรับผิดชอบ-ตั้งโต๊ะแถลงขอโทษแทนผู้ชายสามศอกในพรรคประชาธิปัตย์ เธอเล่าย้อนกลับไปวินาทีที่พูดไม่ออก-อะไรที่อยู่ในใจ

“เราก็ไม่รู้ว่า คนที่เราทำงานด้วยความคุ้นเคยจะถูกกล่าวหาในกรณีเช่นนี้มันคาดไม่ถึง และมีคนออกมากล่าวหาเยอะขนาดนี้ และในความเป็นผู้หญิงเราเห็นใจผู้เสียหายทุกคน เรารับไม่ได้ แต่จะให้พูดอะไร เราก็เสียใจ เราก็รู้สึกว่า เขาเป็นอย่างนั้นเหรอ ทำได้ยังไง เราก็อยากจะด่า”

“เขาก็เคยเป็นเพื่อนร่วมงานที่มีความสามารถ แต่เรื่องนี้ เฮ้ย ทำได้ขนาดนี้เชียวเหรอ ก็ไม่รู้จะพูดอะไร พูดไม่ออกจริงๆ สะเทือนใจนะ เหมือนเพื่อนเรา พี่เราไปทำอย่างนี้กับคนอื่น จะพูดยังไง ปกป้องก็ไม่ได้ สมควรถูกด่า”

“เห็นใจ ส.ส.หญิงที่ต้องลงพื้นที่ในเขตมาก เพราะลำพังงานปกติก็เหนื่อยมาก แล้วต้องแข่งกับคู่แข่งที่ทรัพยากรสูง แล้วมาเจอปัญหาของปริญญ์ แล้วมาเจออันนี้อีก มันสองเท่า แล้วเรามองในระยะยาว เดี๋ยวช่วงหาเสียงตรงนี้ก็จะกลับมาอีก แล้วก็จะกระทบเวลาเราพูดถึงนโยบายผู้หญิง แล้วตัวบุคคลที่ลงแข่ง อาจจะถูกหยิบมาเป็นประเด็น Attack อีก แต่ก็ต้องมูฟออน วันนี้เราต้องทำให้ดีที่สุด”

“ปัญหาคุกคาม ในฐานะที่ทำงานในเรื่องผู้หญิงมา เห็นในทุกองค์กร ทุกสังคม และทุกสังคมของชนชั้น ผู้หญิงโดยมากจะเป็นผู้เสียหาย UN Women บอกว่า หนึ่งใน 3 ของผู้หญิ่งทั่วโลก เคยอยู่ในสถานการณ์ถูกคุกคามทางเพศ เป็นปัญหาสังคมแล้ว แต่ถ้าถามว่า คนจะมาจับจ้องกับพรรคประชาธิปัตย์ก็ถือว่าเป็นเรื่องของสังคมที่เขาจะวิพากษ์วิจารณ์”

“แต่ในส่วนที่เราทำงานอยู่ตรงนี้มา 10 กว่าปี เราก็ได้รับการดูแล เทกแคร์ที่ดีจากพี่ๆ ในพรรค แล้วก็ไม่ได้เคยมีปัญหาตรงนั้น ส่วนเรื่องจุดยืนของพรรคในการต่อต้านการคุกคามทางเพศ ซึ่งเราทำมานานแล้ว เราก็ต้องทำต่อไป เพื่อแสดงให้เห็นว่า พรรคเรามีจุดยืนในเรื่องนี้ แล้วก็จะทำให้มากขึ้น เพราะอยู่ในแนวปฏิบัติในเรื่องการคุกคามทางเพศที่เขียนขึ้นมาและจะบรรจุไว้ในข้อบังคับพรรค”

“ทุกคนก็มูฟออน เพราะว่าเรามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น เราจะมาจมอยู่กับตรงนี้ไม่ได้”

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่คนเมืองให้ความใส่ใจ ได้รับกระแสความนิยมจากคนเมืองเสมอ พอเกิดปรากฏการณ์ในช่วงที่ผ่านมา มันทำให้กระแสของคนเมืองลบกับพรรคมากขึ้น อะไรที่จะมากอบกู้ชื่อเสียงของพรรคให้กลับมา

“ทุกเสียงสะท้อนเราได้ยินและเรารับทราบถึงความรู้สึกดีและในความเป็นสถาบันเก่าแก่ บางคนอาจจะรู้สึก เก่า เราก็ต้องปรับภาพลักษณ์ตรงนั้น เพราะเรามีคนรุ่นใหม่อยู่เยอะ มีคนที่จะมาสานต่อเจตนารมณ์ และผลักดันสิ่งใหม่”

“เรื่องตัวบุคคลเราไม่ใช่พรรคที่เก่า เราอาจจะมีคนที่ออกไป แต่เราก็มีคนที่เข้ามาใหม่เสมอ เพียงแต่ว่า ภาพของคนใหม่ ที่เข้ามาหรือคนรุ่นกลางๆ ที่อยู่และทำงานมานาน อาจจะยังไม่ถูกฉายออกไปสู่สังคมได้มากนักเท่าที่ควรจะเป็น เป็นเรื่องของการสื่อสาร คงเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ ให้สังคมเข้าใจ และเราก็ต้องปรับตัว”

เธอคิดว่า “หัวใจของปัญหา” ในการสร้างกระแสความนิยมครั้งใหม่ ประกอบด้วยหลายองค์ประกอบ คือ นโยบาย-บุคลากรของพรรค

“ถ้ามองระยะยาวไปสู่การเลือกตั้งครั้งหน้า นโยบายเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เป็นช่วง Post covid คนอยากจะรู้ว่า ประเทศไทยจะขับเคลื่อนไปในทิศทางไหน การค้าและการลงทุน เรื่องการศึกษา เรื่องนโยบายจะเป็นจุดขาย เราทำอยู่ เพียงแต่จังหวะนี้ยังไม่ใช่จังหวะที่จะมาแคมเปญการเมือง ในจังหวะที่เหมาะสมจะทำให้ประชาชนได้รับทราบ ส่วนตัวบุคคล แน่นอนอยู่แล้ว เราก็มีการสรรหาคนใหม่เข้ามา เราก็ต้องทำให้ (กระแสความนิยม) มันเด้ง ส่วนจะเด้งขึ้นหรือยัง ต้องให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน”

รัชดาทิ้งท้าย