แถลงการณ์กำแพงเพชร/โลกทรรศน์ อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

โลกทรรศน์

อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

 

แถลงการณ์กำแพงเพชร

 

คราวที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อติดตามการดำเนินงานต่างๆ และเยี่ยมเยียนประชาชน สื่อมวลชนหลายแขนงได้รายงานแถลงการณ์ของท่าน อย่างย่อดังนี้

“…แถลงการณ์ ‘ประยุทธ์’ ชวนคนไทยร่วมมือสู้ความยากจน กางกลยุทธ์ 3 แกนสร้างอนาคต ทำโครงสร้างพื้นฐาน-ผลักดันยานยนต์ไฟฟ้า-ปลดล็อกคนตัวเล็กเข้าถึงแหล่งเงินกู้ โวอีกไม่เกิน 2 ปี เห็นการผลิดอกออกผล ขอบคุณคนไทยที่ใจเย็น ยอมรับแสดงออกไม่เก่ง แต่ตั้งใจทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ…”

เรามาดูรายละเอียดของกลยุทธ์ 3 แกนสร้างอนาคตกันนิดหนึ่ง

 

แถลงการณ์กำแพงเพชร1

โครงสร้างพื้นฐานสะพานเชื่อมความมั่งคั่ง

แกนที่ 1 คือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศที่ใหญ่ที่สุด และบูรณาการมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ประเทศไทย โครงการสร้างทางรถไฟ ถนน สนามบิน หรือท่าเรือ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับความรุ่งเรืองมั่งคั่งของทุกคน โครงการที่ต้องใช้เวลาก่อสร้างยาวนานหลายปี และตอนนี้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นสิบๆ ปีที่ผ่านมา รัฐมักจะวางแผนโครงการที่สวยหรูมากมาย แต่สุดท้ายถูกเก็บขึ้นหิ้งจนฝุ่นเกาะ และไม่เคยถูกทำให้เกิดขึ้นจริง กลายเป็นว่า ประชาชนหลายสิบล้านคนยังคงต้องใช้ชีวิตกันต่อไป โดยไม่ได้รับประโยชน์

ความมุ่งมั่นหลักของตนคือ ทำอย่างไรให้โครงการนับร้อยๆ เหล่านั้น เกิดขึ้นจริงให้ได้ และเป็นไปอย่างบูรณาการ เพราะจะเป็นเหมือนสะพานเชื่อม

เป็นเครื่องมือให้ทุกคนเข้าถึงโอกาสที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองและประเทศ

 

ผลักดันภาคอุตสาหกรรม

ตั้งเป้าศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้า

แกนที่ 2 คือ แกนที่เกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด

ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องเชื่อมโยงต่างๆ เป็นภาคอุตสาหกรรมที่หล่อเลี้ยงเชื่อมต่อไปถึงธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจขนาดเล็กอีกมากมาย ตลอดจนดึงเงินมหาศาลให้ไหลเข้าประเทศไทย ผ่านการส่งออกต่างๆ เป็นตัวขับเคลื่อนความมั่งคั่งรุ่งเรืองของไทยที่สำคัญในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา

แต่วันนี้ อุตสาหกรรมนี้กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงครั้งใหญ่ เพราะการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า

 

หาช่องปลดล็อกคนตัวเล็กเข้าถึงแหล่งเงินกู้

แกนที่ 3 คือ ภาคการธนาคาร เพื่อสร้างพื้นฐานที่แข็งแรงให้กับประเทศ เพื่อที่จะช่วยทุกคนให้สามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองได้อย่างยั่งยืน ไทยมีประชาชนมากกว่า 30 ล้านคนที่ไม่สามารถกู้เงินได้

“ถ้าเราสามารถหาหนทางที่จะทำให้ประชาชน 30 ล้านคนเหล่านั้น เข้าถึงระบบธนาคาร สามารถขอเงินกู้ และใช้บริการต่างๆ จากธนาคารได้ เราก็จะสามารถกระตุ้นความมั่งคั่งรุ่งเรืองให้กับประเทศเราได้ด้วย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ถึงเวลาแล้วที่ธนาคารจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับลูกค้าที่เป็นคนตัวเล็กๆ และทำมาค้าขายเลี้ยงตัวเอง ให้มากยิ่งขึ้น

คนกลุ่มนี้จะเป็นพลังที่สำคัญมากต่อความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของประเทศ

 

ทั้งหมดนี้ ผู้รู้มากมายอธิบายว่า ไม่ใช่ของใหม่ ไม่รู้จริง

สำหรับผม เรียกว่า แถลงการณ์กำแพงเพชร เพราะเห็นว่าแถลงการณ์ทางการเมืองนี้มีความสำคัญยิ่ง ไม่เพียงแต่แสดงเป้าหมายทางการเมืองของท่านนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินงานการเมืองของตนเองต่อไป ส่วนจะเป็นรูปแบบไหนคงต้องติดตามและวิเคราะห์กันดู เพราะการเมืองไทยตอนนี้และในวันข้างหน้า ไม่มีใครกำหนด บังคับ กุมระบบต่างๆ ได้ ทุกฝ่ายการเมือง พลังการเมืองทั้งในและนอกรัฐสภา ต่างมีส่วนผลักดันและก่อผลอย่างใดอย่างหนึ่งต่อการเมืองไทยได้มากน้อยทั้งสิ้น

พร้อมกันนั้น แถลงการณ์ของท่านนายกรัฐมนตรีเอง ท่าทีและท่วงทำนองเช่นนี้ เป็นมากกว่าการปรับภาพลักษณ์จากเดิมที่ทีมงานการเมืองของท่านเห็นว่าไม่สอดคล้องความต้องการและบริบททางการเมืองในขณะนี้และในอนาคตอันใกล้

อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองชั้นยอด ต่างให้น้ำหนักกับสูตรการคำนวณ ส.ส. ทั้งแบบหารด้วย 100 หรือ 500 ซึ่งผมเองเห็นด้วยว่า สูตรการคำนวณ ส.ส.ดังว่า ย่อมส่งผลได้เสียทางการเมืองเหมือนกัน

แต่ผมอยากชี้ให้เห็น การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่กว่าคณิตศาสตร์การเมือง ซึ่งนักการเมืองและคนไทยต่างเผชิญหน้ากันด้วย

 

พลวัตไทยในบริบทโลก

ไม่มีใครปฏิเสธว่า โรคระบาดโควิด-19 ที่ยาวนานมากกว่า 3 ปีทั่วโลกและทั่วไทย ได้ก่อผลและสร้างความเสียหายทั้งทางเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ สุขภาพอนามัย ความยากจน กระหน่ำต่อผู้คนทั่วหน้า โรคระบาดโควิด-19 สร้างความลำบากยากแค้นให้กับผู้คนจำนวนมาก แล้วรัฐบาลไหนๆ ทั่วโลก ต่างเผชิญปัญหาความไม่พอใจจากประชาชนทั้งสิ้น

แต่สำหรับไทย นี่เป็นที่มาของความสั่นคลอน ต่อสถาบันประเพณีนิยมทุกชนิด สะเทือนต่อประยุทธ์นิยมอีกด้วย

แต่ว่าสะเทือนถึงประยุทธ์นิยม หาใช่การแบ่งขั้วแตกตัวทางสังคมและการเมืองอย่างที่ฝรั่งใช้คำว่า polarization คล้ายๆ ขวา-ซ้าย สงครามแห่งสีเหลือง แดง ฟ้า เอาประยุทธ์ ไม่เอาประยุทธ์ ฯ

เช่นกัน ด้วยพลังแพร่กระจายของไวรัสร้าย อันกระทบซัพพลายเชน สินค้าและบริการทั่วโลกด้วยนั้น โดยที่ไม่มีใคร วิทยาการ เทคโนโลยีไหนต่อกรได้ง่ายเลย พลันก็เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน สงครามก่อผลต่อซัพพลายเชนด้านพืชอาหารของประชากรโลก ปุ๋ย ฯ

ที่สำคัญคือ ส่งผลต่อราคาพลังงานทั่วโลก แต่ที่สำคัญคือการลุกฮือของพลังต่อต้านสถาบันประเพณีนิยมทั้งหลายทั่วโลก

แล้วบางส่วนนำไปสู่ขบวนการทางสังคม (Social movement) ที่ฮ่องกง การต่อต้านปักกิ่งของคนรุ่นใหม่ เกิด Milk Tea alliance จากฮ่องกง แคนาดา ออสเตรเลีย เมียนมา รวมทั้งไทย

การต่อต้านทัดมาดอ (ทหาร) เมียนมาที่ทำรัฐประหารเกิดขึ้นในเมียนมาและกระจายเครือข่ายทั่วโลก กลุ่มคนข้ามเพศ คนไร้บ้าน ศิลปินทวนกระแส แรงงานและสหภาพแรงงานเคลื่อนไหวทั่วโลก ที่ศรีลังกายิ่งชัดเจนกว่าที่ใดๆ การยึดทำเนียบรัฐบาล เผาบ้านนายกรัฐมนตรี ผู้คนเรือนแสนเดินขบวนประท้วงทั่วประเทศ ไม่พอใจการบริหารประเทศ การปกครองศรีลังกาด้วยตระกูลเดียวนาน 70 ปี ภาระหนี้สิน การทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่มีอาหารและเชื้อเพลิง

นี่คืออะไรหรือ การต่อต้านสถาบันประเพณีนิยม หรือระเบียบการเมืองเดิมนั่นเอง

 

พลวัตไทย

พลวัตไทย ก่อนก่อนกาล ไปไกลกว่าที่อื่นๆ มากนัก นักเรียนเกรียนประท้วงการแต่งกาย ทรงผม องค์กรนักศึกษามหาวิทยาลัยหลายแห่งยกเลิกเพลงประจำมหาวิทยาลัยเดิม แล้วเปลี่ยนเป็นเพลงของผู้ประศาสน์การ ยกเลิกกีฬาประเพณีเกือบทุกชนิด ดาวมหาวิทยาลัย เชียร์ลีดเดอร์ พวกเขาล้มล้างระบบโซตัส การเปลี่ยนแปลงที่ก่อเกิดจากเยาวชน ด้วยพวกเขาไม่พอใจ ระเบียบการเมืองเดิม

ที่สำคัญ พลังของพวกเขาทำได้ เปลี่ยนแปลงได้

ว่าไปแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ก็เป็นส่วนหนึ่งของระเบียบการเมืองเดิม สถาบันประเพณีนิยม ทั้งโรงเรียนด้านการทหาร ตำแหน่งทางทหาร รวมทั้งการทำรัฐประหาร

แน่นอน พล.อ.ประยุทธ์กำลังเผชิญหน้ากับการสูญเสีย ส.ส.และที่นั่งในรัฐสภาทั้งส่วนกลางและต่างจังหวัด ความสูญเสียนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่พลังต่อต้านสถาบันประเพณีนิยม ก้าวมาสู่การต่อต้านประยุทธ์นิยมด้วย

ที่ไทย พลังต่อต้านระเบียบอำนาจเดิมยังดำเนินไปไม่หยุด ร้อนแรง

1 “ประยุทธ์กาง 3 กลยุทธ์สร้างอนาคต…” สำนักข่าวอิศรา 8 กรกฎาคม 2565