บทเรียน ‘คนขับรถ’ / ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ : หนุ่มเมืองจันท์

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ

หนุ่มเมืองจันท์

www.facebook.com/boycitychanFC

 

บทเรียน ‘คนขับรถ’

 

วันก่อน “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไปให้โอวาทกับผู้สอบแข่งขันได้บรรจุใหม่

เขาเล่าเรื่อง “ภูเขาแห่งความโง่”

ตามปกติคนเราเมื่อเริ่มทำงาน ความมั่นใจจะน้อยมาก อยู่ในระดับ 0

แต่พอมีประสบการณ์มากขึ้น ความมั่นใจจะสูงขึ้น

สูงขึ้นเรื่อยๆ จนมั่นใจมาก

มากจนหยุดเรียนรู้ เพราะคิดว่าเก่งแล้ว

จุดสูงสุดนั้น เขาเรียกว่า ภูเขาแห่งความโง่ (Mount Stupid)

“อย่างผมอยู่ตรงนี้เอง ยอมรับว่าโง่ในหลายเรื่อง ต้องถามเขา ต้องถามให้มากที่สุด อย่าไปค้างอยู่บนภูเขาแห่งความโง่ คือรู้น้อยแต่มั่นใจเยอะ ต้องถาม ต้องพัฒนาตัวเองตลอด แล้วสุดท้ายเราจะรู้จริง”

แนวคิดของ “ชัชชาติ” คือ ตอนที่เริ่มทำงานใหม่ๆ ถ้าเราอ่อนน้อมถ่อมตน ยอมรับว่าตัวเองไม่รู้

เราจะหา “ความรู้” จาก “ผู้ใหญ่” ได้ตลอดเวลา

แค่อยากรู้อยากเห็น และถาม

ครับ บางที “อายุน้อย” หรือการเป็นเด็กใหม่ก็มีประโยชน์ เพราะผู้ใหญ่จะเมตตาและให้โอกาส

“ให้ถ่อมตนต่อสิ่งที่มี และยำเกรงต่อสิ่งที่ไม่รู้”

มีเรื่องหนึ่งที่ผมชอบมาก

“ชัชชาติ” เล่าว่าตอนที่หาเสียงเลือกตั้งใหญ่ปี 2562 เขาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย

ตอนแรกๆ ของการหาเสียง เขาไม่มีคนขับรถ ต้องขับรถเอง

จนวันหนึ่ง พรรคเพื่อไทยเตรียมรถมาให้คันหนึ่ง พร้อมคนขับรถ

เป็นธรรมดาของคนที่เคยขับรถเอง เขาจะมีความคาดหวังกับคนขับ เหมือนกับตอนที่ขับเอง

“บางทีก็ไปช้า ไปผิดที่ เราก็โมโห ผมก็ดุเขาบ้าง บางทีผมก็อารมณ์ร้ายเหมือนกัน บางทีก็ดุเหมือนกัน”

ผ่านไป 1 เดือน น้องคนขับมาส่ง “ชัชชาติ” ที่บ้านตอน 3 ทุ่ม

เขาไปปราศรัยมาหลายที่ เหนื่อยมาก

ก่อนลงจากรถ น้องคนขับหันมาบอกคนที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี

“อาจารย์จะเป็นคนดีมากกว่านี้เยอะนะ ถ้าอาจารย์จะลดความดุ ความฉุนเฉียวลง”

เหมือนโดนหมัดกระแทกเข้าปลายคาง

แวบแรก “ชัชชาติ” โกรธ เพราะอดคิดไม่ได้ว่าเขาเป็นถึงระดับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

คนขับรถ เป็นแค่เด็กอายุ 30 กว่า

ทำไมถึงกล้าพูดกับเขาแบบนี้

แต่เมื่อดึง “สติ” กลับมา เขารู้สึกขอบคุณน้องคนนั้นมากที่กล้าพูด กล้าเตือนสติทำให้เขาได้คิดใหม่และปรับปรุงตัว

“ต้องดีใจถ้ามีคนบอกข้อเสีย ข้อด้อย อยากให้คุณปรับปรุงตัวยังไง ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง ก็ยิ่งดี ไม่ต้องไปกังวล ถ้าเรื่องจริง ก็ปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น”

เพื่อที่จะเดินลงจาก “ภูเขาแห่งความโง่”

 

เรื่อง “เจ้านาย” อารมณ์ร้อนกับ “คนขับรถ” ถือเป็นเรื่องคลาสสิค

มีเรื่องเล่ามากมายหลายมุม

เรื่องแรกเป็นเรื่องของพี่สุจินต์ จันทร์นวล อดีตสุดยอดผู้บริหารมืออาชีพที่ล่วงลับไปแล้ว

พี่สุจินต์เป็นเจ้าของผลงานหนังสือ “เขาว่าผมคือมืออาชีพ” ที่เคยโด่งดังและขายดีมาก

ออกมาตั้ง 3-4 ภาค

พี่สุจินต์เป็นผู้บริหารมาตั้งแต่ยังหนุ่ม

มีคนขับรถหลายคน

พี่สุจินต์เป็นคนปากร้ายแต่ใจดี แม้จะขี้บ่นบ้าง แต่เวลาใจดีก็ใจดีมาก

คนขับรถเวลาโดนบ่นก็จะเพียงแค่โกรธบ้าง

แต่ไม่เกลียด

ครั้งหนึ่ง เขาก็บ่นโวยวายคนขับรถตามปกติ

บ่นไปสอนไปว่าควรขับรถแบบนี้

การเลือกเส้นทางต้องดูให้ดีว่าช่วงไหนถนนเส้นไหนรถติด ทางไหนว่างกว่า

สอน-สอน-สอน

บ่น-บ่น-บ่น

พักหนึ่ง คนขับรถก็หันมาบอกพี่สุจินต์ด้วยเสียงเรียบๆ

“นายครับ ถ้าผมฉลาดเหมือนนาย ผมก็คงนั่งเบาะหลังแล้วครับ ไม่ต้องมาขับรถแบบนี้”

พี่สุจินต์อึ้งไปเลย

ไม่บ่น ไม่ด่า

และไม่ไล่คนขับรถออกด้วย

แต่กลับรู้สึกขอบคุณ “คนขับรถ” คนนี้มาก

เพราะได้สอนหลักการบริหารสำคัญเรื่องหนึ่ง

เรื่อง “ความคาดหวัง”

เราทุกคนมีศักยภาพไม่เท่ากัน

อย่าคาดหวังลูกน้องให้ทำงานได้เหมือนกับเรา

เพราะถ้าลูกน้องเก่งเท่ากับเรา

เราก็ไม่ควรเป็นหัวหน้าของเขา

ทุกคนมีข้อจำกัดในตัวเอง

อย่าคาดหวังมากเกินจริง

 

อีกเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องของผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่ง

เขาเป็นคนขี้โมโห ทำให้คนขับรถอยู่ไม่นานก็ลาออก

วันหนึ่ง ได้คนขับรถใหม่ คนนี้ดูท่าทางจะมีความอดทนสูง

ผู้บริหารคนนี้ก็เหมือนเดิม

โวยวาย ด่าคนขับรถเป็นประจำ

ขับช้าก็บ่น

ขับเร็วก็โวย

ผ่านไปประมาณ 3 เดือน สถานการณ์ก็เป็นปกติ

ผู้บริหารคนนี้ด่าคนขับทุกวัน

และเริ่มใช้คำรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

คนขับก็อดทนไม่บ่นอะไร

จนวันหนึ่งเขาไปคุยงานกับลูกค้าจนดึก ขึ้นรถมาเริ่มบ่นคนขับรถที่มารับช้า

ขับเร็วไปหน่อยก็ด่า

ถึงขั้นหลุดสารพัดสัตว์ออกมา

คนขับรถก็นิ่งฟังไปเรื่อยๆ จนเมื่อรถลงจากทางด่วน เขาค่อยๆ ชะลอรถจอดแอบริมทาง

ดับเครื่อง ดึงกุญแจออก โยนไว้ที่เบาะ

เปิดประตูรถ พับแขนเสื้อ

“กูลาออกแล้ว” เขาตะโกนด้วยเสียงที่โกรธสุดขีด

“ตอนนี้มึงกับกูเท่ากัน มึงมาชกกับกูตัวต่อตัวเลย…ไอ้สัส”

เขากวักมือเรียกผู้บริหารคนนั้นให้ลงมา

ตะโกนด่าอีกหลายชุด

ผู้บริหารคนนั้นตะลึงไปพักใหญ่ พอได้สติก็รีบเคลื่อนตัวจากเบาะหลังไปเบาะหน้าปิดประตูรถ

แล้วขับรถออกไปแบบหงิมๆ

เขาเล่าว่าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาไม่เคยด่าคนขับรถอีกเลย

คนขับรถคนนั้นได้ให้บทเรียนยิ่งใหญ่เรื่องความเป็นคน

คนทุกคนเท่าเทียมกัน

“ตำแหน่ง” เป็นแค่หัวโขน

แต่ความเป็น “มนุษย์”

ทุกคนเท่ากัน •