เปลี่ยนผ่าน

ทีมข่าวการเมือง มติชนทีวี

 

เปิดใจ ‘เท่าพิภพ สุราก้าวหน้า’

ถ้าไม่ผลักดัน กม.

จะเป็น ส.ส.กันทำไม?

 

รายการ “เอ็กซ์-อ๊อก talk ทุกเรื่อง” ทางช่องยูทูบมติชนทีวี เพิ่งสนทนากับ “เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร” ส.ส.กทม. เขต 22 (ธนบุรี คลองสาน บางกอกใหญ่) พรรคก้าวไกล ผู้ผลักดันร่างกฎหมาย “สุราก้าวหน้า” ภายหลังสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ในวาระแรก

และนี่คือเนื้อหาส่วนหนึ่งจากบทสัมภาษณ์ดังกล่าว

: คาดฝันไหมว่าร่างกฎหมายสุราก้าวหน้าจะผ่านวาระแรก?

ถ้าพูดว่าไม่หวัง มันก็โกหก แต่ต้องพูดตรงๆ ว่า (ถ้า) มันตก มันเป็น default มันเป็นค่าปกติ (ร่างกฎหมาย) ของฝ่ายค้านมันต้องตกอยู่แล้วแหละ แต่ผ่านมาก็เป็นกำไร เราก็ทำเต็มที่ เราคิดว่าเราต้องสร้างปาฏิหาริย์อยู่แล้ว ซึ่งเราก็สร้างปาฏิหาริย์ได้จริงๆ ก็ขอบคุณทุกคน มันก็ใช้การพูดคุย การเมืองในสภาทำให้เราได้ปรับความเข้าใจกับหลายๆ คน

มีคน (ส.ส.) หลายคนที่ลงมติไม่เห็นด้วยตามมติพรรค (ต้นสังกัด) เขามาขอโทษผม บอกว่าจริงๆ ทุกคนในสภาเห็นเหมือน “เท่า” หมดแหละ แต่มันเป็นเรื่องการเมือง เป็นเรื่องหน้าตาของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คือเขาก็เสียหายเยอะ

เอาจริงๆ ผมก็พูดกันตรงๆ ร่างกฎหมายนี้มันอาจจะทำให้รัฐบาลสั่นคลอนได้มากกว่าอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยซ้ำ เพราะมันทำให้เขาเสียงแตก บางทีมันก็น่าสนใจ น่าจะเป็นกรณีศึกษาได้เลยว่า เมื่อกฎหมายมันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรมาก เป็นเรื่องที่ประชาชนได้ (ประโยชน์) มันอาจจะผ่าน

เพราะผมปิดช่อง (โหว่) ทุกอย่างที่เขาจะมาบอกโหวตไม่ผ่าน คือถ้าเขาโหวตไม่ผ่าน เขาเสียเยอะกว่า นึกออกไหมครับ?

: มีกลยุทธ์ในการดึงดูดใจเพื่อน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลอย่างไร ให้เขาร่วมโหวตเห็นชอบ?

คือผมว่า การเมืองบางทีเราต้องแยกระหว่างการที่เราเป็น “นักกิจกรรม” กับ “นักการเมือง” นักกิจกรรมมันคือการต่อสู้ พอเรามาสวมบทนักการเมือง เราก็ต้องมีวาทศิลป์ หนักเอาเบาสู้ บางอย่างเรายอมได้ก็ยอม บางอย่างเรายอมไม่ได้ เราก็ต้องยืนยันแล้วหาเหตุผล

ผมว่าทุกคนโตๆ กันหมดแล้วครับ ในสภาพูดคุยกันรู้เรื่อง มีเหตุผลเสียส่วนใหญ่ ถึง (มีคน) ไม่มีเหตุผล บางทีก็ไม่จำเป็นต้องคุยกับคนนั้น มันมี 500 คน ตอนนี้สถานการณ์เราขอแค่ 20-30 คน มาอยู่ฝั่งเรา เราก็ชนะแล้ว

เทคนิคของผมคือต้องเข้าใจก่อนว่าเราทำอะไรอยู่? กฎของเกมนี้คืออะไร? การเมืองมันเหมือนบอร์ดเกมที่ไม่มีกฎกติกา คือทุกคนจะทำอะไรก็ได้ แต่สุดท้ายเราต้องรู้ว่าอะไรคือจุดที่เราจะชนะเกม (จุดนั้น) ของทุกคนไม่เหมือนกัน บางคนอยากได้เงิน บางคนต้องการความเปลี่ยนแปลง บางคนแค่อยากให้ตัวเองเป็น ส.ส. (เมื่อรู้แล้ว) เราถึงจะเดินไปสู่เป้าหมายได้ถูก

แล้วผมก็โชคดีที่ผมอาจจะเป็นคนทำบาร์มาก่อน เป็นไกด์ทัวร์มาก่อน ผมก็เลยเข้ากับคนได้ง่าย หน้าตาผมก็อาจจะดูไม่ค่อยมีพิษมีภัย ตลกฮาๆ ผมก็ไม่ได้หล่อมีเสน่ห์เหมือนพี่ทิม (พิธา ลิ้มเจริญรัตน์) แต่ผมว่าผม loveable นะ คือใครรู้จักผมแล้วเกลียดผมยาก

: กังวลไหมว่ากฎหมายจะถูกคว่ำในวาระ 2-3?

ก็ต้องต่อสู้ครับ มาอย่างนี้เขาก็ยิ่งจับตา เขาก็คิดว่าเขาฆ่าเราได้ แต่เราก็ไม่ต้องยอมให้เขาฆ่า เราต้องทำต่อไป

อย่างเช่นเรื่องประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิตฯ) ตอนนี้ (9 มิถุนายน) มีหลายกระแสว่าท่านอนุชา นาคาศัย (รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ) จะนั่ง ซึ่งถ้านั่งก็ดึงแน่นอน คือดึงแบบดอง เพราะมันไม่มีกำหนดระยะเวลา ไม่เรียกประชุมอะไรก็เป็นไปได้

ท่านวีระกร (คำประกอบ – ส.ส.นครสวรรค์ 1 ใน 2 สมาชิกพรรคพลังประชารัฐที่โหวตสนับสนุนร่างกฎหมาย) ก็บอกว่าถ้าอยากผ่าน ก็ให้พี่เป็นประธานหรือเปล่าล่ะ?

คือผมก็ยืนยัน ณ จุดเดิม สุดท้ายผมว่าตรรกะผมแน่นที่สุด ว่าใครเป็นเจ้าของร่าง ก็ควรเป็นประธานสิ ใช่ไหมครับ? อธิบายทุกคน ทุกคนก็น่าจะเข้าใจ ทำไมไม่ให้ผมเป็นประธาน? ผมก็งงเหมือนกันว่าอันนี้มันควรเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ผมเป็นคนทำร่างมา แล้วผมเป็นคนมีเจตจำนงทางการเมืองที่ทำให้มันผ่าน…

คือผมไม่ได้อยากได้ตำแหน่งนะ แต่ถ้าให้คนอื่นมันก็เฟล

: กม.สุราก้าวหน้าคือผลงานชิ้นเอกที่จะทำให้ “เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร” ได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาในสภาเป็นสมัยที่สองหรือไม่?

(หัวเราะ) ไม่เคยมั่นใจเลย (ก้าวไกล) เพิ่งแพ้ ส.ก.ไปทั้งสามเขต (ธนบุรี คลองสาน บางกอกใหญ่) ด้วย คือผมไม่มั่นใจอะไรแล้ว ตั้งแต่ผลเลือกตั้ง ส.ก.ออกมา เพราะก็รู้สึกว่าเราทำงานหนัก ลงพื้นที่สามวันต่อสัปดาห์ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ถ้าไม่มีงานสภา มันก็ทำให้ผมเสียใจมากเหมือนกัน

คือเรียนรู้ว่าอะไรวางได้ก็วาง มันแล้วแต่ประชาชนจะเลือกเราแล้วแหละ มันคงไม่เพราะอันนี้ (กม.สุราก้าวหน้า) หรอก

ต่อไป มันควรจะเป็นเรื่องธรรมดา ที่ ส.ส.ผลักดันกฎหมายผ่าน หรือมีกฎหมายเป็นของตัวเอง ไม่งั้นจะเป็น ส.ส.กันทำไม? ผมก็ได้ทำหน้าที่ทุกอย่าง ทั้งในงานสภา การอภิปราย การเสนอกฎหมาย การถามกระทู้ การร้องเรียนปัญหาภายในเขต การช่วยคนในช่วงโควิด ทำงานพื้นที่ ผมว่าผมทำทุกอย่างแล้วครับ อันนี้ก็แล้วแต่ประชาชนชาวคลองสาน ธนบุรี บางกอกใหญ่

ครั้งหน้า ไม่ให้ผมเป็น (ส.ส.) ก็ไม่เป็นไร ผมก็ทำเต็มที่ในทุกครั้ง แล้วผมไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งอะไร… สมัยสองมันยากเสมอ มันเหมือนประชาชนเขาตรวจการบ้านเรา

จริงๆ ในฐานะ ส.ส.เขต ผมยังเสนอร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับอีไอเอ (ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติฯ) ไป คนไม่ค่อยรู้ คือบางคนก็ด่าผมทำแต่เรื่องเหล้า อย่างร่าง พ.ร.บ.อีไอเอ เกี่ยวกับการสร้างตึกสูง ซึ่งเสนอให้โครงการที่ทำอีไอเอต้องมีหลักประกันในการเป็นกองทุนชดใช้ให้กับชาวบ้าน (ที่ได้รับผลกระทบ)

เพราะผมไปเจอในเขตผม นายทุนเข้ามากว้านซื้อที่แล้วก็สร้างคอนโดฯ ล่าสุดก็มีเหล็กตกลงไปบ้านประชาชน ทะลุหลังคาไปใส่บนเตียง ดีนะลูกเขาไม่อยู่พอดี แล้วเขตก็บอกให้หยุด (ก่อสร้าง) สามวัน แต่เมื่อวาน ตกอีกแล้ว ถ้าทีมงานคุณชัชชาติดูอยู่ก็ช่วยหน่อยนะ คือผมก็จนปัญญาแล้วครับ

ผมอยากทำเรื่องอีไอเอจริงๆ มันเป็นปัญหาคล้ายๆ เรื่องสุราก้าวหน้าเลย คือแบบทุนใหญ่ได้เปรียบประชาชนมาก สุดท้าย บ้านชาวบ้านร้าว ชาวบ้านต้องไปจ้างทนายมาฟ้องบริษัทคอนโดฯ คือแล้วกว่าจะได้ (ค่าเสียหาย) บ้านเขาถล่ม อาม่าเขาจะเสียชีวิต คุณไม่ได้สนใจอะไรเลย ผมว่าอันนี้คือความไม่ยุติธรรมจริงๆ ที่ทั้งคนคลองสานหรือคนจะนะก็เจอเหมือนกันหมด

เราพอได้ไหมไอ้เรื่องพวกนี้? เราทำให้มันแฟร์ขึ้นได้ไหม? ไม่ได้ว่าบอกว่าคอนโดฯ หรือโครงการใหญ่ห้ามสร้าง แต่คุณมีหลักประกันให้เขาไหม? ไม่ใช่แค่ลมปากมาพูดในที่ประชุมอีไอเอให้มันผ่านๆ ไป ผมไปงานอีไอเอมากกว่างานศพอีก ผมไปฟังทุกครั้ง ตามเรื่องนี้ตลอด

: เหนื่อยไหมกับงานการเมือง?

คำถามนี้ตอบง่ายมากเลย เหนื่อยสุดๆ ผมกำลังจะบอกว่าถ้ารอบหน้าไม่ได้ (เป็น ส.ส.) ก็ไม่เป็นไร (หัวเราะ)

เหนื่อยหลายอย่าง เวลาเราก็น้อย บางทีผมก็คิดว่าเราเต็มที่กับมันเกินไปหรือเปล่า? แต่เราก็คิดเสมอว่าทำให้ดีที่สุด เพราะมันมีเวลา 4 ปี ครั้งหน้ามันอาจจะไม่ได้เป็นเรา พ.ร.บ.ไหนร่างมาแล้ว ไม่ผ่านไม่เข้าก็ไม่เป็นไร เราถือว่าเราได้ฝากไว้ให้เพื่อน ส.ส.รุ่นหน้าได้ขับเคลื่อนได้ช่วยเราต่อ

ผมอาจจะจบไปในเส้นทางการเมือง แต่ความคิดหรือสิ่งที่ผมอยากจะเปลี่ยนแปลงมันไม่จบไปกับผม พรรคก้าวไกลจะโดนยุบไม่โดนยุบ ไม่รู้หรอกครับ แต่ผมว่าสิ่งนี้ เจตนารมณ์อนาคตใหม่ที่ส่งมอบมาก้าวไกล มันก็ยังอยู่ต่อไปเรื่อยๆ