ซีเกมส์ 2021 / เครื่องเคียงข้างจอ : วัชระ แวววุฒินันท์

วัชระ แวววุฒินันท์

เครื่องเคียงข้างจอ

วัชระ แวววุฒินันท์

 

ซีเกมส์ 2021

 

ชื่อการแข่งขันกัฬา “ซีเกมส์ 2021” ทั้งที่จัดขึ้นในปี 2022 ก็เนื่องมาจากพิษโควิดนั่นเอง ที่เดิมทีประเทศเวียดนามเจ้าภาพ จะต้องจัดการแข่งขันขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว

แต่ด้วยสถานการณ์อันหนักหน่วงของการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ก็จำต้องทำการเลื่อน ที่ตอนแรกบอกว่าจะยกเลิกเสียด้วยซ้ำ แต่คงทนต่อเสียงคัดค้านของชาติสมาชิกไม่ไหว จึงต้องจัดแต่เลื่อนมาจัดขึ้นในปี 2022 แทน

ซึ่งแม้โควิดจะยังเพ่นพ่านอยู่ แต่ชาวโลกก็เรียนรู้ที่จะอยู่คู่กันไป เหมือนสถานการณ์ของการจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เริ่มอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม และจะจบลงในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ ก็มิได้มีข่าวว่าโควิดจะใจร้ายจนทำให้การจัดการแข่งขันต้องหยุดชะงักลงแต่อย่างใด

ซึ่งก็นับว่าโชคดี

 

กีฬาซีเกมส์ มักจะมีเสียงค่อนขอดว่าเป็น “ซีโกง” อยู่ครามครัน เพราะประเทศเจ้าภาพมักหาหนทางที่จะทำให้ประเทศของตนได้เปรียบเสมอ ไม่ว่าจะในเกมการแข่งขันและนอกสนามก็ตาม จึงมักมีเสียงบ่น ก่น ด่า ประจาน ของประเทศสมาชิกถึงการจัดการและกลโกงต่างๆ ของประเทศเจ้าภาพอยู่เสมอทุกปี

ไม่เว้นแม้แต่เมื่อไทยเราเป็นเจ้าภาพก็ตาม เพียงแต่ว่าจะมากหรือน้อย พอรับได้หรือรับไม่ได้ มากกว่า

ถึงกระนั้นในการแข่งขันในปี 2015 ที่ประเทศสิงคโปร์เป็นเจ้าภาพ ก็ได้รับการชื่นชมถึงความ “ไม่เอาเปรียบ” ของสิงคโปร์ ดังที่ไม่ค่อยปรากฏเป็นข่าวให้ได้ยินนัก อาจด้วยวิสัยของคนสิงคโปร์ที่จะตรงไปตรงมา ไม่ขี้โกง เหมือนที่ประเทศของเขาได้รับการจัดอันดับเรื่องความโปร่งใส ไร้คอร์รัปชั่น ในตัวเลขที่สวยงามทีเดียว

แต่อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่ากีฬา “ซีเกมส์” เป็นอีเวนต์กีฬาที่สร้างความสุขให้กับประชาชนของประเทศสมาชิกได้ไม่น้อยเลย เพราะเป็นการจัดในกลุ่มประเทศ 10 ชาติสมาชิกของอาเซียน ซึ่งมีฝีมือทางการกีฬาพอฟัดพอเหวี่ยงกัน ไม่ทิ้งห่างกันมากเกินไป ทำให้การแข่งขันในแต่ละชนิดกีฬามีได้ลุ้น ได้เชียร์ ได้หวัง และได้มีความสุขเมื่อนักกีฬาของชาติตนคว้าเหรียญรางวัลมาได้

เราจึงเชียร์กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ได้ไม่สนุกเท่าซีเกมส์ อย่าหมายถึงโอลิมปิกเลยที่ต้องยอมรับว่ามาตรฐานกีฬาของเรายังห่างไกลจากประเทศผู้นำทางการกีฬาของโลกอยู่มาก มีเพียงบางชนิดกีฬาเท่านั้นที่พอไหว เช่น มวยสากลสมัครเล่น เทควันโด เป็นต้น

 

สําหรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์นั้น ข้อดีอย่างยิ่งคือการสร้างนักกีฬาสายเลือดใหม่ของแต่ละชนิดกีฬา เพราะโอกาสอำนวย พื้นที่อำนวย คู่แข่งพอไหว หลายสมาคมจึงมีการใช้นักกีฬารุ่นใหม่เข้าต่อกร ทั้งนี้ ไม่นับกับบางชนิดกีฬาที่มีการกำหนดอายุผู้เล่นเป็นข้อบังคับอยู่แล้ว เช่น กีฬาฟุตบอลชาย ที่กำหนดให้ไม่เกิน 23 ปี โดยสามารถมีผู้เล่นอายุเกินได้ 3 คนเท่านั้น

เราจึงได้เห็นนักฟุตบอลหน้าใหม่ หรือไม่ใหม่นัก แต่ยังไม่มีโอกาสลงแข่งขันในนามทีมชาติ ก็ได้ลงเล่น ทำผลงาน จนเป็นที่รู้จักและชื่นชมจากแฟนกีฬาชาวไทยไม่น้อย อย่างโจนาธาร เข็มดี, เบนจามิน เดวิส, ชนภัช บัวพันธ์ และนาคิน วิเศษชาติ เป็นต้น

แฟนบอลทีมชาติไทยต่างเอาใจช่วยเอาใจเชียร์ให้แข้งรุ่นเล็กนี้ทำผลงานดีๆ ได้เติบโตขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมชาติชุดใหญ่แทนรุ่นพี่ๆ ได้ในอนาคต

สำหรับกีฬา “กรีฑา” แล้ว ไทยเราได้แจ้งเกิดสำเร็จอย่างงดงามกับผลงานอันเอกอุของ “บิว-ภูริพล บุญสอน” ที่สามารถคว้าเหรียญทองมาครองและทำลายสถิติซีเกมส์ลงได้หลายรายการ ด้วยการลงแข่งขันระดับซีเกมส์เป็นครั้งแรก ด้วยวัยเพียง 16 ปีเท่านั้น

จึงนับเป็นเจ้าหนูมหัศจรรย์ของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ของไทยอย่างแท้จริง

 

สําหรับกีฬามหาชนอย่าง “วอลเลย์บอล” ก็มีความท้าทายต่อการใช้สายเลือดใหม่ในการแข่งขันครั้งนี้ โดยเฉพาะกับวอลเลย์บอลหญิง ที่ไม่มี 6 เซียนที่เป็นตำนานของกีฬาวอลเลย์บอลของไทยลงแข่งขันด้วย

แต่รุ่นใหม่ที่ไม่ใหม่ด้วยฝีมือก็ไม่ได้ทำให้แฟนผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็น ชัชชุอร โกศรี, อัจฉราพร คงยศ, พิมพิชยา ก๊กรัมย์, พรพรรณ เกิดปราชญ์, หัทยา บำรุงสุข ที่ล้วนเคยลงสนามร่วมกับพี่ๆ มาอย่างโชกโชนแล้ว

และได้เปิดพื้นที่สำหรับหน้าใหม่ที่ค่อยๆ สร้างตามกันขึ้นมาอีกด้วย

ส่วนวอลเลย์บอลชาย ก็เป็นการรวมฝีมือของนักตีลูกยางรุ่นใหม่ที่ฝากผลงานมาจากวอลเลย์บอลลีกแล้ว อย่างมาวิน มณีวงศ์, อมรเทพ คนหาญ, ภูสิทธิ โพธิ์นรินทร์ เป็นต้น หากทีมชายของไทยคว้าอย่างน้อยเหรียญเงินมาได้ ก็ถือว่าสอบผ่าน เพราะซีเกมส์คราวที่แล้วเราทำได้ดีที่สุดที่เหรียญทองแดง

แฟนๆ ต้องเอาใจช่วยกัน ให้ทีมหญิงคว้าเหรียญทองเท่านั้น และทีมชายคว้าเหรียญเงินเป็นอย่างต่ำ

ในขณะที่เราได้เห็นนักกีฬาวัยละอ่อนลงทำการแข่งขันในหลายๆ ชนิดกีฬา แต่ในบางชนิด ไทยก็จำเป็นต้องอาศัยฝีมือจากนักกีฬาวัยเก๋าเหมือนกัน เช่น กีฬาสนุ้กเกอร์ ที่มีต๋อง ศิษย์ฉ่อย อายุ 53 ปี และรมย์ สุรินทร์ อายุ 60 ปีลงแข่งขัน เรียกว่าใช้ความเก๋าสร้างบารมีให้คู่แข่งเกรงขามไว้ก่อน

 

การแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ ไทยเราตั้งเป้าเหรียญทองรวมไว้ที่ 116 เหรียญทอง โดยวางเป้าหมายการเป็นเจ้าเหรียญทองของกีฬาสากล ที่ 72 เหรียญทอง ก็ต้องมาดูว่าปิดท้ายแล้ว เราจะทำได้ตามเป้าหรือไม่

สุดท้ายแม้จะคลาดเคลื่อนไปบ้าง แต่ส่วนสำคัญที่ต้องให้น้ำหนักอย่างชัดเจนคือ การสร้างนักกีฬาและทีมงานสายเลือดใหม่ขึ้นมาในวงการกีฬาบ้านเรา เพราะความสำเร็จของการแข่งขันกีฬา ไม่ได้เกิดจากเฉพาะตัวนักกีฬาเท่านั้น แต่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือทีมงานก็มีส่วนอย่างมากในการสนับสนุน วางแผน กำหนดวิธี ควบคุม แก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้นักกีฬามีความพร้อมในการลงสนามให้ได้มากที่สุด

จึงอยากเห็นนักวิทยาศาสตร์การกีฬาหน้าใหม่เกิดขึ้นมาช่วยกันนำความรู้มาพัฒนานักกีฬาไทย อยากเห็นคนหน้าใหม่จากแวดวงนักโภชนาการที่เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย และนักจิตวิทยาที่ช่วยสร้างจิตใจที่แข็งแรงไปพร้อมๆ กัน

รวมทั้งทีมงานส่วนอื่นๆ ด้วย ที่ร่วมใจกันทำให้แวดวงกีฬาของไทยประสบผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง

 

สําหรับตัวผมเองนั้น มีประสบการณ์ตรงที่เกี่ยวข้องกับกีฬาซีเกมส์มาแล้วสองครั้ง

ครั้งแรกเมื่อประเทศไทยเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 18 เมื่อปี 2538 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ผมและพรรคพวกที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลพากันจับรถตู้ขึ้นไปถึงเชียงใหม่ เพื่อจะร่วมบรรยากาศในรอบชิงชนะเลิศระหว่างไทยและเวียดนาม

หลังจากต่อแถวเพื่อรอซื้อบัตรเข้าชมท่ามกลางแดดที่ร้อนเป็นระยะเวลากว่าชั่วโมงก็พบว่าตั๋วหมดเกลี้ยงแล้ว ต้องแบกเอาความผิดหวังไปพร้อมกับการหาอะไรกินเป็นมื้อปลอบใจกันตอนเย็น ในขณะเดียวกันก็คอยเงี่ยหูฟังข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ เผื่อว่าจะมีโอกาสได้เข้าชม

แล้วจู่ๆ สายก็บอกว่า รีบมาสนามกีฬา 700 ปีเลย เขาจะเปิดให้คนดูเข้าชมได้แล้วเพราะกลัวสนามแตก เรารีบทิ้งช้อนส้อมบึ่งรถตู้ไปสนามทันที นัดหมายว่าให้จับกันเป็นคู่แยกย้ายหาทางเข้ากันเอง บอลเลิกแล้วมาเจอกัน

ตอนที่เข้าไปได้เป็นตอนจะเริ่มครึ่งหลังแล้ว เรามุดประตูเบียดคนเข้าไปดูถึงขอบสนามจนได้ จำได้แม่นยำถึงบรรยากาศของกองเชียร์ที่ดังกระหึ่มอย่างฮึกเหิม ยิ่งไทยขึ้นนำการเชียร์ก็ยิ่งออกรส สุดท้ายก็จบลงด้วยความประทับใจกับผลการแข่งขันที่ไทยเอาชนะไปได้ 4 ประตูต่อ 0

แต่ที่ประทับใจมากๆ คือ บรรยากาศการเชียร์กีฬาทีมชาติไทยที่สนุก เร้าใจมากๆ

 

และก็ได้มีประสบการณ์อย่างนี้อีกครั้งกับซีเกมส์ครั้งที่ 20 ที่ประเทศบรูไนดารุสซาลาม เป็นเจ้าภาพ ผมไปปักหลักอยู่ที่บรูไนนับเดือน เพราะเจ เอส แอล ได้รับเกียรติให้ทำหน้าที่จัดการแปรอักษรในพิธีเปิดและปิด จึงมีบัตรเจ้าหน้าที่สามารถเข้าชมการแข่งขันได้ทุกสนาม

ยามว่างจึงตระเวนไปชมและเชียร์การแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ เสมอ และฝีมือของนักกีฬาไทยนั้นค่อนข้างนำหน้าประเทศอื่นๆ เมื่อเชียร์แล้วเรานำ แล้วเราชนะ จึงยิ่งสนุกขึ้นไปอีก

จำได้ว่าไปชมการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น และเราได้เหรียญทองมาครองทุกรุ่นเลย โอ้โฮ บรรยากาศในสนามสุดยอดมากๆ

รวมทั้งในสนามตะกร้อที่ไทยเข่นเอาชนะมาเลเซียคู่ปรับลงได้ สร้างให้เลือดไทยแลนด์พุ่งกระฉูดขึ้นจริงๆ

และปิดท้ายด้วยกีฬาฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศ ระหว่างไทยกับเวียดนาม ที่ไทยในตอนนั้นมีซิโก้ เกียรติศักดิ์ เป็นศูนย์หน้า ก็เอาชนะทีมเวียดนามไปได้ 2-0 นักกีฬาก็มีความสุข คนดูในสนามก็มีความสุข และเชื่อว่าคนดูทางหน้าจอโทรทัศน์ก็คงมีความสุขเช่นกัน

 

นี่คือเสน่ห์ของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่รวมเอาหัวจิตหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ ร่วมกับนักกีฬาและทีมงานเบื้องหลัง ช่วยกันสร้างความสุขครั้งใหญ่ให้แก่กัน

อีกไม่กี่วันซีเกมส์ครั้งที่ 31 ก็จะปิดฉากลง ขอขอบคุณนักกีฬาทุกคนที่เสียสละฝึกซ้อม อดทนต่อความเหนื่อยยาก ไม่ว่าผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร เราก็ขอชื่นชมทุกคนจากใจจริง

พบกันใหม่ในซีเกมส์ครั้งที่ 32 ในปีหน้า ที่ประเทศกัมพูชากันครับ •