วางบิล เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์/หน้าที่สื่อมวลชน-หนังสือพิมพ์

วางบิล/เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์

หน้าที่สื่อมวลชน-หนังสือพิมพ์

ความเป็นสื่อมวลชนของหนังสือพิมพ์ประชาชาติ นอกจากจะต้องรายงานข่าวรอบด้านแล้วยังต้องปิดข่าวจนนาทีสุดท้าย เพื่อให้ท่านผู้อ่านในวันรุ่งขึ้น ได้อ่าน “ข่าวล่าสุด” นาทีต่อนาที และเหตุการณ์ยังไม่จบ

การรายงานข่าวรอบด้าน ประชาชาตินำความเคลื่อนไหวทั้งด้านรัฐบาล การสัมภาษณ์รัฐมนตรีที่สำคัญ นำความเห็นของผู้นำนักศึกษามาเสนอ เช่น นายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เรียกร้องให้รัฐบาลควรดำเนินการเด็ดขาดในกรณีพระถนอม ไม่ใช่ปล่อยให้ยืดเยื้อ หรือให้คนตายเพิ่ม

“ผมอยากพูดไปถึงพระถนอมว่า จะปล่อยให้เลือดท่วมท้องช้างก่อนหรืออย่างไรจึงจะพิจารณาในเรื่องพระถนอม จะแสดงความเห็นแก่ตัวไปถึงไหน เพราะการปล้นชาติปล้นประชาชนก็กระทำมานานแล้ว ยังจะก่อความวุ่นวายจนไม่รู้จักจบสิ้นอีกหรือ?” นายพิเชียรกล่าว

วันพุธที่ 6 ตุลาคม 2519 ประชาชาติฉบับหลังรายงานว่า พลอากาศเอกกมล เดชะตุงคะ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า ทหารพร้อมเสมอที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล ทั้งนี้ เรื่องการปฏิวัติเป็นเรื่องหมดสมัยเสียแล้ว “เพื่อความไม่ประมาท จะต้องสอดส่องอย่างใกล้ชิดเพื่อระวังมือที่สาม”

พาดหัวข่าวฉบับเดียวกัน “สภาแรงงานยื่นคำขาด / สั่งสอบ “แขวนคอ” ลานโพธิ์ / ระบุภาพหมิ่นองค์รัชทายาท” และ “ข่าวล่า” หน้า 12 เป็นตัวพิมพ์ดีด ใช้ตัวอักษรเรียงพิมพ์ไม่ทันก่อนขึ้นแท่นพิมพ์

ดังนี้

“เมื่อ 23 น. พันโทอุทาร สนิทวงศ์ ประกาศผ่านสถานีวิทยุยานเกราะว่า ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าจับกุมเหล่าร้ายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต่อมาไม่นานนักผู้เข้าร่วมอภิปรายกับพันโทอุทารก็ออกมาแก้ข่าวว่าข่าวนั้นคลาดเคลื่อนไม่เป็นความจริง จากนั้น นายส่งสุข ภัคเกษม ส.ส.เชียงใหม่อภิปรายออกอากาศว่าจะเสนอญัตติด่วน เรื่องภาพแขวนคอต่อสภาวันพฤหัสบดี หากใครขัดขวางจะถือว่านักการเมืองผู้นั้นอยู่ในองค์กรขายชาติ

“ต่อมา 00.15 น. วันนี้ (6 ตุลาคม) พันโทอุทารออกอากาศว่า พลตรีประมาณ อดิเรกสาร หัวหน้าพรรคชาติไทยได้โทรศัพท์ยื่นคำขาดต่อหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ให้รัฐบาลดำเนินการตามกฎหมายต่อศูนย์นิสิตฯ ที่หมิ่นพระบรมราชานุภาพอย่างเด็ดขาด หากปรากฏว่ามีรัฐมนตรีหรือนักการเมืองคนใดเกี่ยวข้องก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที

“นอกจากนี้ สถานีวิทยุยานเกราะยังเรียกร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลหรือนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ส่งตำรวจไปชี้แจงให้ประชาชนทราบว่าเหตุใดตำรวจจึงไม่เข้าปฏิบัติการจับกุมกลุ่มบุคคลในธรรมศาสตร์ พร้อมกันนั้นก็เรียกร้องให้ลูกเสือชาวบ้าน หน่วยพยาบาล ไปรายงานตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ทางกลุ่มนวพลก็สั่งการให้สมาชิกเตรียมพร้อม (กลุ่มนวพล มี นายวัฒนา เขียววิมล เป็นผู้นำ)

(หลังจากนั้น เป็นรายงานความเคลื่อนไหวในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดย นายมหินทร์ ตันบุญเพิ่ม นายกรามคำแหงให้ญาติวีรชนที่อดอาหารประท้วงยุติ เพราะไม่มีประโยชน์อันใด)

“สถานีวิทยุยานเกราะได้ออกอากาศอีกครั้งเมื่อ 1 น.เศษว่า ศูนย์ปฏิบัติการลูกเสือชาวบ้านประกาศถึงลูกเสือชาวบ้านผู้ร่วมอุดมการณ์ ในวันที่ 6 นี้ ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนตำบลใดหรือกำลังทำการสิ่งใดอยู่ จงเตรียมพร้อมในชุดของลูกเสือชาวบ้านโดยมีบัตรประจำตัวติดไว้ทุกคน ให้คอยรับข่าวจากชมรมวิทยุเสรีและศูนย์ปฏิบัติการลูกเสือชาวบ้าน

“พันโทอุทารออกอากาศเมื่อ 01.30 น. ว่า รัฐบาลได้แจ้งให้ตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มที่กระทำการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่ตำรวจยังไม่กระทำหรือมาชี้แจงให้ประชาชนทราบ โดยเฉพาะอธิบดีกรมตำรวจคนปัจจุบัน จากนั้นก็เปิดเพลงสรรเสริญ แล้วเปิดซ้ำอีก 2 ครั้ง จากนั้นประกาศอีกว่า หากตำรวจไม่ดำเนินการจะทำให้แผ่นดินไทยต้องนองเลือด

“รายงานข่าวด้านลูกเสือชาวบ้าน วิทยุตำรวจได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจสอบรถที่นำลูกเสือชาวบ้านเข้ามากรุงเทพฯ สอบถามว่ามาจากจังหวัดใด แล้วรายงานให้ “พหลโยธิน” (กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการลูกเสือชาวบ้าน) ทราบ

“ด้านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อเวลา 01.30 น. มีกลุ่มคนไม่ทราบจำนวนได้บุกเข้ามาด้านหน้ามหาวิทยาลัยทางสนามหลวงแล้วเผาป้ายของมหาวิทยาลัย ซึ่งที่ชุมนุมได้ประกาศให้หน่วยปฏิบัติการเตรียมกำลังป้องกันเหตุร้าย

“เมื่อเวลา 02.05 น. วันนี้เกิดเสียงปืนดังขึ้นที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยด้านนอก โดยมีบุคคลกลุ่มหนึ่งพยายามที่จะก่อกวนยิงปืนเข้าไป 4-5 นัด

“ที่ชุมนุมประกาศให้ผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบ และประกาศให้หน่วยปฏิบัติการออกไปดูเหตุการณ์

“เมื่อเวลา 02.35 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชนะสงครามที่รักษาการณ์บริเวณมหาวิทยาลัยด้านสนามหลวงจับกุม ร้อยโทมณฑล ปรีดากุล อดีตทหารเสือพรานนอกประจำการซึ่งพยายามจะปืนรั้วเข้าไปในมหาวิทยาลัยเป็นคนแรก เมื่อถูกจับกุม ร้อยโทมณฑลอ้างว่า ถูกยิงจากข้างในออกมา 3 นัด

“อนึ่ง มีรายงานข่าวว่า เมื่อเวลา 01.00 น. หม่อมราชวงศ์เสนีย์เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษเป็นการด่วนที่บ้านพักถนนเอกมัย แต่ไม่ทราบผลการประชุม”

เป็นอันจบรายงานข่าวล่าตัวอักษรพิมพ์ดีดที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์ประชาชาติเช้าวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เป็นรายงานข่าวล่าสุดเมื่อเวลา 02.35 น. ที่ผู้อ่านได้อ่านเช้าวันนั้น เพื่อต่อเนื่องข่าวจากนั้นในหนังสือพิมพ์ประชาชาติฉบับแรก วันที่ 7 ตุลาคม 2519 ซึ่งออกวางจำหน่ายช่วงก่อนบ่ายวันที่ 6 ตุลาคม

หนังสือพิมพ์ (รวม) ประชาชาติ ลงประกาศในหน้าหนังสือพิมพ์สองสามวันขณะนั้น มีข้อความว่า

“ซ้าย หรือ ขวา” (มีภาพประกอบเป็นการ์ตูนหนูจุกถือป้ายเครื่องหมายเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาข้างละมือ)

ข้อความต่อจากนั้นคือ

“ถามถึงจุดยืนของ (รวม) ประชาชาติหรือฮะ / ขอโทษ เราไม่มีจุดยืนหรอก เพราะเราไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่เหมือนคนอื่น / เรามีแต่แนวทางเดินที่มั่นคงมุ่งตรงไปสู่ความถูกต้อง / (รวม) ประชาชาติ คิดถึงความจริง ตั้งใจจริงที่จะพูดความจริง รายงานความจริง และทำความจริงให้ปรากฏ / ทางเดินของเราคือความถูกต้อง / ไม่สนใจซ้ายหรือขวา / ถ้าความถูกต้องของข่าวที่เราเสนอ ความเห็นที่เรากลั่นกรอง จะถูกกล่าวหาว่าเป็นซ้ายหรือขวา หน้าหรือหลัง เราก็พร้อมที่จะเป็น / ไม่ว่าจะเรียกจุดยืน หรืออุดมการณ์ หรืออะไร

“ความถูกต้องคือเป้าหมายของ (รวม) ประชาชาติ”