คุยกับทูต : โอเล็กซานเดรอ ไลซัค อุปทูตยูเครนประจำไทย สงครามที่บั่นทอนเสถียรภาพของโลก

รายงานพิเศษ

ชนัดดา ชินะโยธิน

[email protected]

 

คุยกับทูต :  โอเล็กซานเดรอ ไลซัค

อุปทูตยูเครนประจำไทย

สงครามที่บั่นทอนเสถียรภาพของโลก

 

อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตยูเครนประจำประเทศไทย นายโอเล็กซานเดรอ ไลซัค (Oleksandr Lysak) กับความคิดเห็นต่อการเข้าสู่เดือนที่ 2 ของสงครามรัสเซียกับยูเครน

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สหพันธรัฐรัสเซียทำสงครามเต็มรูปแบบกับยูเครน กระทำการรุกราน โจมตีอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนยูเครน ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรสหประชาชาติ

มีคำถามว่า แล้วทำไมรัสเซียถึงบุกยูเครน

คำตอบที่ชัดเจนก็คือ การทำให้ประเทศของเราต้องยอมทำตามภายใต้การปกครอง ที่เหมือนตกเป็นอาณานิคม

คำถามต่อมา : เพราะอะไร

ก็เพราะชาวยูเครนได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า เต็มใจที่จะสร้างอนาคตในหมู่ชนชาติยุโรปที่มีอารยธรรม โดยยืนหยัดที่จะไม่ตกอยู่ในวิสัยทัศน์ และอนาคตอันมืดมิดหลังสหภาพโซเวียตล่มสลายอย่างรัสเซียที่เรียกว่า “อยู่ในโลกของรัสเซีย”

การเข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปจึงเป็นตัวเลือกที่ชัดเจนอย่างแท้จริง สำหรับประชาชนชาวยูเครนทุกคน ซึ่งได้รับการยืนยันในทุกช่วงสมัยของการเลือกตั้ง นับตั้งแต่ได้รับเอกราชในปี 1991

นายโอเล็กซานเดรอ ไลซัค อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตยูเครนประจำประเทศไทย

อุปทูตยูเครนบอกอีกว่า ด้วยตระหนักถึงกำลังใจและเจตจำนงอันแน่วแน่ของเราชาวยูเครน เป็นเหตุผลที่ทำให้รัสเซียเลือกตัดสินใจ “ลงโทษ” พวกเรา อย่างที่ท่านทราบ พวกเขาไม่พบวิธีที่ดีไปกว่านี้นอกจากการเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ และทำลายโครงสร้างพื้นฐานของประชาชนพลเรือน ปฏิบัติการเช่นนี้จึงเป็นอาชญากรรมทางการทหาร

รัสเซียพยายามอ้างเหตุผลหลายประการเพื่อทำสงครามรุกรานยูเครนด้วยการสร้างข้อกล่าวหาต่อยูเครนต่างๆ นานา เช่น ยูเครนละเลยข้อตกลงมินสค์ (Minsk Agreements), ยูเครนต่อต้านภาษารัสเซีย, ยูเครนบุกโจมตีภูมิภาคดอนบาส (Donbass), ยูเครนไม่ได้มอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ที่อาศัยในดอนบาส, การพยายามเข้าร่วมกลุ่มนาโต (NATO) และอื่นๆ

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เมื่อรัสเซียเข้าบุกแหลมไครเมีย ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และยังสร้าง “สาธารณรัฐประชาชน” ปลอมๆ ขึ้นในพื้นที่โดเนตสค์ (Donetsk) – ลูฮานสค์ (Luhansk) ในยูเครน ทำให้เราชาวยูเครนต้องออกมาปกป้องดินแดนของเราที่รัสเซียอ้างว่า “สิ้นสุดการครอบครอง” ถือเป็นความอัปยศอดสูของพฤติกรรมดังกล่าว

รัสเซียดูถูกประชาชนโดยเรียกสงครามว่าเป็นเพียง “วิกฤต” หรือ “ปฏิบัติการ” ซึ่งในความเป็นจริงนี่คือสงครามแห่งการทำลายล้าง การบาดเจ็บล้มตายของพลเรือน มีผู้ลี้ภัย และผู้พลัดถิ่นเป็นจำนวนมากมาย

สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ หรือ UNGA ลงคะแนนท่วมท้นให้กับมติประณามการบุกรุกยูเครนของรัสเซีย และเรียกร้องให้รัสเซียถอนกองกำลังออกจากยูเครนทั้งหมด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากราชอาณาจักรไทยเช่นกัน

ชาวยูเครนสละชีวิตเพื่ออิสรภาพของยูเครนและยุโรป เป้าหมายของยูเครนคือการเข้าร่วมกับประเทศในยุโรปทั้งหมด เรามุ่งมั่นเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) อย่างเต็มที่ และด้วยความคาดหวังต่อขั้นตอนของการดำเนินการให้เป็นไปโดยเร็วที่สุด และจากการสำรวจล่าสุด พลเมืองยูเครนส่วนใหญ่ (86%) สนับสนุนการเข้าร่วมสหภาพยุโรป และพลเมืองสหภาพยุโรปส่วนใหญ่ (เกือบ 71%) ก็สนับสนุนยูเครนในการเข้าเป็นสมาชิกเช่นกัน โดยประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelenskyy) แห่งยูเครน ลงนามสมัครเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปเมื่อวันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมเผยว่า “นี่คือช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์”

โลกตะวันตกกำลังใช้มาตรการคว่ำบาตรลงโทษรัสเซีย เรียกกันว่า สงครามเศรษฐกิจ โดยมีเป้าหมายในการโดดเดี่ยวรัสเซีย ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง สกุลเงินรัสเซียจึงอ่อนค่าลงอย่างมาก บริษัทรัสเซียล้มละลาย บริษัทรัสเซีย 27% เลิกจ้างพนักงาน การทำธุรกิจกับรัสเซีย กลายเป็นเรื่องเป็นพิษต่อเศรษฐกิจ บริษัทมากกว่า 500 แห่งได้ปฏิเสธที่จะทำงานในรัสเซียหรือร่วมมือกับรัสเซียและกับประชาชนคนรัสเซีย

อุปทูตยูเครนย้ำอีกครั้งว่า เราขอเรียกร้องนานาประเทศ ได้โปรดเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อผู้รุกรานอย่างรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกเลิกการเชื่อมต่อกับธนาคารรัสเซียทั้งหมดจากระบบ SWIFT การสั่งห้ามการค้าในรัสเซีย รวมถึงในภาคน้ำมันและก๊าซ ตลอดจนการขายทองคำและแร่ธาตุ การปิดท่าเรือเพื่อเรือรัสเซีย ยกเลิกการหนุนธุรกิจส่วนตัว ขายสินทรัพย์และสกุลเงินของรัสเซีย จนถึงขณะนี้ เราขอร้องให้ชาวโลกโปรดหยุดซื้อสินค้าโภคภัณฑ์รัสเซีย ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนให้รัสเซียทำสงครามกับยูเครน

เมื่อรัสเซียยังคงเดินหน้าบุกโจมตียูเครนต่อไป เป็นการยืนยันว่าการคว่ำบาตรจะต้องมีความรุนแรงและขยายออกไปอีก เพื่อให้รัสเซียยุติการรุกราน

ตั้งแต่รัสเซียได้เปิดสงครามกับยูเครน ชีวิตของชาวยูเครนทุกคนตกอยู่ในฝันร้าย ไม่มีใครรู้สึกปลอดภัยในส่วนใดส่วนหนึ่งของประเทศ โดยเฉพาะคนที่อยู่ใกล้หรืออยู่แนวหน้า ผู้คนได้ยินเสียงสัญญาณไซเรนเตือนภัยดังทุกวัน

หากคุณถามพลเมืองยูเครนตอนนี้ว่า เป็นวันที่เท่าใดในสัปดาห์ เรานับวันด้วยการนับแต่วันเริ่มสงครามจากการบุกเข้าไปในยูเครนของกองทัพรัสเซีย คือนับตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 จนถึงวันที่ปัจจุบัน ซึ่งชาวยูเครนกล่าวคำขอบคุณทุกๆ วัน เพราะเขาหรือเธอยังมีชีวิตอยู่ นี่คือความจริง นี่คือสงครามทำลายล้างในใจกลางยุโรป และในศตวรรษที่ 21

แสดงให้โลกเห็นโฉมหน้าอันชั่วร้าย ดังที่เรียกว่า “Russian World”

สําหรับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรม อุปทูตยูเครนบอกว่า ที่เลวร้ายที่สุด ยังคงอยู่ที่เมืองมาริอูปอล ซึ่งขณะนี้สภาพเมืองถูกทำลาย พลเรือนราว 160,000 คนยังคงถูกปิดล้อมโดยที่ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า และไร้การสื่อสารใดๆ พลเรือนที่เสียชีวิตคาดว่าจะสูงถึง 5,000 คน รวมถึงเด็กอีกประมาณ 210 คน

รัสเซียทิ้งระเบิดลงที่โรงละคร ทำให้ผู้คนที่เข้าไปอาศัยหลบภัยเสียชีวิตมากถึง 1,300 คน ที่โรงเรียนศิลปะประมาณ 400 คน กองทัพรัสเซียยึดโรงพยาบาลที่มีพลเรือน 400 คนเพื่อใช้เป็นโล่มนุษย์ (ภาพความสูญเสียที่เมือง Kharkiv, Kyiv, Mariupol: https://fex.net/ru/s/pvvz1xy; https://drive.google.com/drive/folders/105xCDdqeUeeyavEKO351yJZ9ThiRZky_)

มีหลักฐานว่าพลเรือนถูกบังคับให้เดินทางไปยังดินแดนของรัสเซียและเบลารุส คาดว่าจะสูงถึง 40,000 คน และจากเมืองมาริอูปอลเพียงแห่งเดียว ประมาณ 20,000-30,000 คน (ตามประมาณการของทางการมาริอูปอล)

สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN OHCHR) บันทึกรายงานผู้เสียชีวิต 3,167 รายในยูเครน โดยมีผู้เสียชีวิต 1,232 ราย และบาดเจ็บ 1,935 ราย (ณ เที่ยงคืนวันที่ 30 มีนาคม) โดย UN OHCHR เชื่อว่าตัวเลขที่แท้จริงนั้นสูงกว่ามาก

ท่านลองนึกภาพจำนวนพลเรือนที่ถูกสังหารโดยกองทัพรัสเซียนั้น มีมากกว่าการสูญเสียทางทหาร

การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการรุกรานของรัสเซียต่อยูเครน สอดคล้องกับเป้าหมายของรัสเซีย เพื่อให้เกิดความเสียหายที่เป็นไปได้ต่อโครงสร้างพื้นฐานที่สูงสุด และเพื่อกระจายวิกฤตด้านมนุษยธรรมไปทั่วทั้งดินแดนของยูเครน

เราได้วิงวอนร้องขอความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน พร้อมกันนี้เรารู้สึกซาบซึ้งใจและขอขอบคุณรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยที่ได้ให้ความช่วยเหลือแก่เรา

ในขณะเดียวกัน เราเรียกร้องให้รัฐบาล องค์กรระหว่างประเทศ กองทุนการกุศล บริษัทต่างๆ พิจารณาส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพิ่มเติมไปยังยูเครน ซึ่งจะได้รับการยกย่องเป็นเกียรติอย่างสูง

 

อุปทูตยูเครนบอกว่า การยุติสงครามซึ่งเริ่มโดยรัสเซีย ยังคงเป็นเป้าหมายหลักของยูเครน การเจรจาระหว่างยูเครน-รัสเซีย 6 รอบมีขึ้นเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์, 3 มีนาคม, 7 มีนาคม, 14-16 มีนาคม, 21 มีนาคม และ 29 มีนาคม

จากการเจรจารอบสุดท้ายเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ฝ่ายยูเครนได้นำเสนอข้อตกลงอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการรับประกันความปลอดภัยสำหรับยูเครน ซึ่งรวมถึงการลงนามในสนธิสัญญาระหว่างประเทศโดยรัฐผู้ค้ำประกันทั้งหมด โดยมีกลไกในการปรึกษาหารือและข้อผูกพันทางกฎหมายที่มีผลผูกพันในการให้ความช่วยเหลือทางทหารในกรณีที่มีการโจมตียูเครน การสนับสนุนให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป การเจรจาเกี่ยวกับสถานะของแหลมไครเมียที่ถูกยึดครองชั่วคราว และพื้นที่ของภูมิภาคโดเนตสค์ และลูฮานสค์ ซึ่งข้อตกลงนี้จะต้องผ่านการทำประชามติของชาวยูเครน

ทั้งนี้ จะมีการปรึกษาหารือเพื่อเตรียมความพร้อมและการตกลงในบทบัญญัติของข้อตกลงว่าด้วยการค้ำประกันความมั่นคงของประเทศยูเครน ขั้นตอนในการหยุดยิง การถอนกำลังทหาร การเปิดทางเดินเพื่อมนุษยธรรมอย่างถาวรและรับรองการปฏิบัติงานอย่างปลอดภัยต่อไป •