นักค้ามายาภาพ (1) / เรื่องสั้น : นรเศรษฐ์ ทับทิมทอง

เรื่องสั้น

นรเศรษฐ์ ทับทิมทอง

 

นักค้ามายาภาพ (1)

 

หลังวางโทรศัพท์จากเก๋ รุ่นน้องสาวสวยที่บริษัท ผู้ซึ่งรับหน้าที่เป็นพิธีกรรายการออกแบบตกแต่งบ้านและสวนรายการหนึ่งแล้ว ผมจึงใช้เวลาเสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับดาราหนุ่มคนที่เก๋มาขอร้องให้ผมไปช่วยถ่ายทำรายการ และสัมภาษณ์ร่วมกับเธอแทนพี่อีกคนที่ติดงานเร่งด่วน โดยวันนัดถ่ายทำรายการคือวันพรุ่งนี้

ปกติหน้าที่รับผิดชอบของผมในช่องที่สังกัด คือเบื้องหลังเกี่ยวกับข่าวทางด้านธุรกิจ-การเงิน แต่ก็มีบางครั้ง ที่เจ้านายใช้ให้ไปทำหน้าที่แทนพนักงานรายอื่นซึ่งมีเหตุจำเป็น โดยส่วนตัว ผมไม่ชอบไปสนทนาพาทีกับใคร หน้าที่หลักๆ ของตัวเองคือการหาข้อมูลเพื่อนำมาเขียน บางครั้งอาจต้องไปนอกสถานที่บ้าง สำหรับในกรณีมีการสัมภาษณ์ ผมปล่อยให้รุ่นน้องอีกคนในทีมจัดการ แต่ครั้งนี้เห็นจะเลี่ยงไม่ได้ เพราะคนอื่นๆ ในบริษัทนั้นติดงานกันหมด และไอ้รุ่นน้องคนที่ว่า มันดันมากลับบ้านต่างจังหวัดเอาตอนนี้พอดี

เท่าที่พอรู้เกี่ยวกับมาร์ค นอกจากจะเป็นนักแสดงหนุ่มผู้ซึ่งมีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ในโลกบันเทิงของประเทศนี้แล้ว อีกภาพที่โดดเด่นของเขา คือความเป็นนักนิยมธรรมชาติ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตัวยง ยิ่งในยุคที่เรื่องเหล่านี้กำลังเป็นกระแส ไม่ว่าสินค้าตัวไหน หรือองค์กรใดๆ หากต้องการสร้างคอนเทนต์ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของตัวเองเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะต้องมีมาร์คเข้าไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้แทบทุกงาน

คล้ายๆ เมื่อเรานึกถึงเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพ หรืออาหารชีวจิต เราก็จะนึกถึงใบหน้าของดาราสาวคนหนึ่ง หรือเมื่อเรานึกถึงพิธีกรปากกล้า อดีตนักแสดงตัวพ่อเรื่องเจ้าชู้ เราก็จะนึกถึงใบหน้าของดาราหนุ่มใหญ่อีกคนหนึ่ง

 

บ้านสไตล์นอร์ดิกสองชั้นภายในพื้นที่กว่าสองไร่กลางเมือง ถูกโอบล้อมด้วยสวนป่าแบบทรอปิคอล ร่มครึ้มไปด้วยพญาไม้ใหญ่นานาพรรณ เฟิร์นสายหลากชนิดห้อยแขวนระโยงระยางตามกิ่งก้านสาขา ไม้ใบ ทั้งสี และด่าง รวมถึงพรรณไม้แปลกตา ถูกปลูกประดับตกแต่งอย่างที่ได้รับการออกแบบมาโดยนักจัดสวนผู้มีความชำนาญ เสียงน้ำตกจำลองดังซู่ซ่าออกมาจากด้านใน

ที่จอดรถ มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดจอดอยู่สามคัน รถโฟว์วีลสัญชาติอเมริกันหนึ่งคัน รถสปอร์ตสีขาวสองคัน รถมอร์เตอร์ไซค์คลาสสิค และจักรยานสไตล์วินเทจ กะคร่าวๆ ด้วยสายตา ไม่ต่ำกว่าสิบคัน จากส่วนนี้เอง เจ้าของบ้านจงใจให้แขกผู้มาเยือนเดินผ่านสวนป่าก่อนเข้าถึงตัวบ้าน คล้ายเป็นการเปิดเผยรสนิยมของตน ทางเดินแผ่นหินภูเขาขนาดใหญ่เต็มไปด้วยตะไคร่เขียวฟูนุ่มเท้า แทรกแซมด้วยเม็ดกรวดมันวาวคละขนาด ขณะเดินผ่าน เป็นจังหวะเดียวกับที่ระบบรดน้ำอัตโนมัติทำงาน ปล่อยพ่นละอองหมอกสู่สุมทุมพุ่มชั้น เกิดบรรยากาศเหมือนเดินอยู่ในป่าแถบชื้นสักแห่ง อากาศเย็นสบายขึ้นทันทีแม้จะเป็นช่วงสายที่อุณหภูมิร้อนแรง ต้นไม้หลายต้นมีขนาดใหญ่ถึงสองคนโอบ

จากที่ผมพอรู้มา นี่น่าจะเป็นต้นไม้ซึ่งขุดล้อมเอามาจากแหล่งธรรมชาติดิบเดิม หรือไม่ก็พวกค้าต้นไม้ไปขอซื้อต้นไม้ที่เติบโตอยู่ตามที่ดินของชาวบ้าน ด้วยราคาถูกจนน่าใจหาย แต่กลับนำมาเพิ่มมูลค่าด้วยราคาหลักหมื่นหลักแสน มากกว่าจะเป็นต้นไม้ปลูกไว้ขายเอง ผมสังเกตเห็นคนสวนสองคน คอยช่วยกันเก็บกวาด ตัดแต่ง และเช็ดถูใบไม้ อย่างกับต้องการจะให้สะอาดเอี่ยมอยู่ตลอดเวลา

เมื่อถึงตัวบ้าน มาร์คออกมาต้อนรับทีมงานเรา ด้วยชุดผ้าฝ้ายเนื้อดีโทนสีน้ำตาลอ่อนดูสบายตา แวบแรกที่เห็น ผมนึกไปถึงนักสร้างบ้านดินผู้โด่งดัง ผิดกันแต่ว่าผิวพรรณของมาร์คนั้น ดูสะอาดสะอ้านกว่ามาก

ทันทีที่มาร์คเปิดประตูเชื้อเชิญทีมงาน ผมได้กลิ่นของความเป็นมินิมอล แสดงตัวออกมาอย่างหนักหน่วง ทั้งเฟอร์นิเจอร์ และข้าวของเครื่องใช้ ซึ่งถูกจัดวางอย่างมีรสนิยม แม้ดูเรียบง่าย แต่ก็บรรจุไปด้วยรายละเอียดของเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก งานประติมากรรมแอ็บสแตรกต์ เผยเนื้อแท้ของวัสดุ ด้วยเศษเหล็กสนิมจับ ผสมผสานกับไม้แผ่นใหญ่ และไฟเบอร์กลาสรูปทรงสูงชะลูดดูลงตัว ถูกจัดวางอยู่กลางโถงแบบโอเพ่น ขับเน้นด้วยพื้นกรวดดำขลับ ผนังด้านหนึ่งปลูกต้นไผ่เรียงเป็นทิวแถวตลอดแนวเสริมแบ็กกราวด์ แสงธรรมชาติจากด้านบน และผนังกระจกบานเปลือยขนาดใหญ่ทั้งสามด้าน ดูสงบงามอย่างทะนงตน หากไม่ผิดจากการรับรู้ นี่น่าจะเป็นผลงานของศิลปินระดับต้นๆ ในประเทศ ซึ่งมูลค่างานบางชิ้นของเขา สามารถซื้อบ้านหลังขนาดย่อมๆ ได้เลยทีเดียว

มาร์คเห็นผมหยุดมองด้วยความสนใจ เขาอธิบายคอนเซ็ปต์ให้ฟังคร่าวๆ ว่าศิลปินได้แรงบันดาลใจมาจากคำว่า “ราก” ราก คือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต ตั้งแต่ไม้ แทนการก่อเกิด เหล็กกล้า แทนการดำรงอยู่ และไฟเบอร์กลาส แทนการล่มสลาย ทั้งหมดคือการค้ำประคองผ่องถ่ายของสรรพสิ่ง คือความเรียบง่ายแต่ยิ่งใหญ่ คือความสมถะถ่อมเจียม มนุษย์ทุกผู้นามล้วนถูกผูกโยงไว้ด้วยราก ขณะอธิบาย สีหน้าเขาช่างสุขุมลุ่มลึก และเต็มเปี่ยมด้วยความสงบ

ผมใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวด เพื่อเค้นหาคำว่า “ราก” ในผลงานของศิลปินที่เขาภาคภูมิใจ ซึ่งโดยส่วนตัวผม ผลงานชิ้นนี้ มันให้ความรู้สึกของคำว่า “ยอด” มากกว่า

 

จําได้ว่าเพื่อนนักจัดสวนคนหนึ่ง เคยคุยว่ามันได้งานใหญ่ ไปทำให้บ้านดารา ตอนนั้นผมไม่ใส่ใจนัก ว่าเป็นใคร อะไร ยังไง จนเมื่อวานที่เก๋โทร.มาเรื่องงาน เกิดนึกถึงมัน เลยโทร.ไปคุยเล่นตามประสาเพื่อน เหมือนจุดไต้ตำตอ เป็นมันนั่นเองที่ไปรับออกแบบจัดสวนให้บ้านของมาร์ค เมื่อรู้ว่าผมจะไปถ่ายทำรายการ มันบอกออกมาด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะในลำคอ เป็นทีเล่นทีจริง

“มึงระวังนะโว้ย! สิ่งที่เห็นกับความเป็นจริงมักแตกต่างกัน”
เปิดประเด็นมาอย่างนี้ กลับยิ่งกระตุ้นความอยากรู้ของผมให้เพิ่มมากขึ้น
เพื่อนค่อยๆ เล่า…

 

พื้นที่แรกซึ่งมาร์คพาทีมงานถ่ายทำชม คือส่วนห้องรับแขก จากสายตา แม้การตกแต่งภายในบ้านจะดูเรียบง่าย ทว่าในความเรียบง่ายนั้น ผมกลับได้กลิ่นของความหรูหราฟุ้งเฟ้อ ชุดโซฟาสีครีมพร้อมอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตซึ่งรับส่งสัญญาณบลูทูธได้ในตัว วางคู่กับโต๊ะข้างที่ซ่อนลำโพง และเครื่องเสียงไว้อย่างเนียนตา อุปกรณ์ไฟฟ้า ดวงโคมบางจุดเป็นแบบทัชสกรีน สวิตช์ไฟใช้ระบบสั่งการปิด-เปิดด้วยเสียง ที่ว่างส่วนหนึ่งบนเคาน์เตอร์บาร์ ติดแผ่นสมาร์ตมิลเลอร์ขนาดใหญ่ สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนได้ทันที มาร์คบอกเอาไว้เปิดดูอะไรต่ออะไรเพลินๆ ขณะเตรียมอาหาร หรืออาจเปิดดูสูตรอาหารในอินเทอร์เน็ตก็สะดวกดี เครื่องชงกาแฟ ตู้เย็น เตาอบ ฯลฯ ถูกฝังซ่อนไว้ในผนังอย่างเรียบกริบ อุปกรณ์เครื่องใช้ทุกชนิดล้วนไฮเทคโนโลยี และแน่นอน ของตกแต่งทุกชิ้นล้วนเป็นของนำเข้า

ระหว่างก้าวล่วงเข้าสู่ฟังก์ชั่นอื่นของตัวบ้าน สังเกตฝ้าเพดานติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยอย่างดี ทั้งกริ่งสัญญาณกันขโมย และสัญญาณจับควันป้องกันเพลิงไหม้ มาร์คแวะพาเราชมห้องน้ำ เขาอวดอย่างภูมิใจว่าเพิ่งเปลี่ยนอ่างล้างมือรุ่นใหม่ล่าสุด เพียงเอามือแตะที่ปุ่มเบาๆ บนผนังด้านหนึ่ง ก๊อกและอ่างล้างบางกริบก็โผล่จากผนัง ยื่นมือผ่านเซ็นเซอร์ กระแสน้ำฝอยละเอียดยิบไหลมาเบาๆ แยกระบบน้ำอุ่น น้ำเย็นในตัว แตะที่ปุ่มอีกครั้ง ทุกอย่างหดกลับเข้าไปในผนังอย่างเดิม…ผมไม่กล้าถามราคา

ลึกเข้าไปด้านข้างของตัวบ้าน เป็นอาคารทรงกลมสองชั้น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณสิบเมตร มีแนวต้นหมากสูงชะลูดโอบล้อมเป็นรูปครึ่งวงกลม สเปซด้านหน้าซึ่งอยู่ติดกับสระว่ายน้ำเปิดเป็นลานเอาต์ดอร์ มาร์คบอกเขาสร้างไว้สำหรับเป็นพื้นที่สังสรรค์ริมสระ กึ่งๆ สปอร์ตคลับ ภายในตกแต่งอย่างดี ชุดโต๊ะกลมขนาดใหญ่บุหนังแท้สีน้ำตาลเข้มประดับเม็ดกระดุมทองเหลือง (ผมไพล่คิดไปถึงโต๊ะกลมของเหล่าอัศวิน ที่สร้างขึ้นเพื่อสื่อถึงความเท่าเทียมกันในบรรดาสมาชิก นัยว่าไม่มีตำแหน่งใดบนโต๊ะที่เป็นด้านหัวหรือด้านท้าย พวกเขาอาศัยโต๊ะตัวนี้เองหารือกัน ถึงเรื่องราวของทวยเทพ และมนุษย์ปุถุชน ภายในราชสำนักของกษัตริย์อาร์เธอร์ จุดนี้ผมมองว่ามันไม่เข้ากันกับคอนเซ็ปต์หลักภายในบ้าน) ด้านหลังเป็นจอทีวีขนาดใหญ่ยักษ์ เคาน์เตอร์บาร์ห้อยแก้วไว้หลายสิบใบ ผนังบิวต์อินออกแบบให้ฝังซ่อนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน แถบหนึ่งของผนังบรรจุไปด้วยเครื่องดื่มนานาชนิด

ชั้นบนทำเป็นส่วนฟิตเนส โดยมีผนังกระจกใสทั้งแผงเป็นแนวโค้งตามตัวอาคาร สิ่งที่ทำให้ผมถึงกับอึ้งในความเรียบง่ายของเขานั่นคือ ลิฟต์ขนาดกะทัดรัดที่ใช้โดยสารขึ้นไปแค่ชั้นสอง ใช่ ! ขึ้นไปถึงแค่ชั้นสอง ซึ่งเป็นพื้นที่ของการออกกำลังกาย ผมพยายามกวาดสายตาหาบันได แต่กลับไม่พบมัน

เขาอธิบายคอนเซ็ปต์หลักๆ ของบ้านหลังนี้ ว่าให้สถาปนิกชาวญี่ปุ่นออกแบบ โดยเน้นหลัก Eco Home หรือบ้านประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสิ่งสำคัญคือต้องแฝงไว้ด้วยความเรียบง่าย

หันไปทางยายเก๋ รายนั้นพยักหน้างึกงัก แววตาปลื้มปริ่ม ออกอาการชื่นชมยินดีอย่างเก็บไว้ไม่มิด

ถึงตรงนี้ ผมคิดในใจ หรือนิยามความเรียบง่ายของคนมีฐานะ มันคนละความหมายกันกับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ นึกถึงรถหรูหลายคันที่จอดเรียงกันอยู่ในโรงจอด ทั้งข้าวของเครื่องใช้เกินจำเป็น เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เรียบง่ายแต่ราคาแสนแพง

ใช่ว่าผมจะมีปัญหากับรสนิยมของคนรวย รู้ว่าคนเรานั้นทำงานหาเงิน ก็เพื่อซื้อความสุขสบายให้ตัวเอง ซึ่งมันเป็นสิทธิส่วนบุคคลอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ว่ากัน แต่ที่แปลกใจก็คือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่บรรจุอยู่ในอาณาจักรของเขานี่สิ มันช่างขัดแย้งกับภาพลักษณ์ความเป็น มินิมอลลิสต์ และความเป็นนักแสดงผู้พอเพียง ที่เขาแสดงออกมาให้ใครต่อใครได้เห็น

ผมพยายามตั้งคำถามในใจอย่างตัดอคติ กับสิ่งของ กับนวัตกรรมต่างๆ ที่เขาเน้นย้ำ ว่าล้วนคือการลงทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมในอนาคตอย่างคุ้มค่านั้น มันสมเหตุสมผลแล้วจริงหรือ หรือมันเป็นเพียงแค่กลลวงของนักค้ามายาภาพเท่านั้น

เสร็จจากในบ้าน มาร์คพาเรามายังพื้นที่ด้านนอก ลำธารจำลองไหลคดเคี้ยวมาจากน้ำตกกลางสวน พรรณไม้เขียวขจีร่มครึ้มเย็นสบาย เราอาศัยนั่งตรงลานหินใต้ต้นกระบกป่าขนาดใหญ่ ซึ่งวางชุดสนามไว้ข้างน้ำตกนี่เอง

เซ็ตกล้องเซ็ตไมค์เสร็จ จึงเริ่มสัมภาษณ์ต่อในเรื่องของการจัดสวน

บางจังหวะผมลองแกล้งถามถึงชื่อต้นไม้ที่อยู่รอบๆ ถามถึงการดูแลรักษา และถามถึงธรรมชาติของสายพันธุ์แต่ละชนิด เขาตอบอย่างอ้อมแอ้ม เลี่ยงหลบไปทางนั้นทีทางนี้ที ไม่มีความมั่นใจ บางครั้งต้องลุกไปดูป้ายบอกชื่อบอกชนิด ที่ติดไว้ตามลำต้น นึกถึงที่เพื่อนเล่าให้ฟัง ว่าตอนมันเข้ามาทำงานนั้น มาร์คไม่เคยเข้ามาดู หรือกำชับเรื่องการคัดเลือกพรรณไม้ใดๆ เลย เขามีหน้าที่จ่ายเงินเพียงอย่างเดียว

นั่นอาจเป็นเพราะบริษัทของเพื่อนผมได้รับความเชื่อถือในเรื่องมาตรฐานและฝีมือระดับหนึ่งแล้วก็เป็นได้ มาร์คจึงให้ความไว้วางใจ เพียงแค่เสนอแบบ เสนอราคา ในครั้งแรก เขาก็อนุมัติให้ลงมือทำได้ทันที

 

“มึงว่าแปลกมั้ย? กับคนที่ออกตัวว่าเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผู้รักในธรรมชาติเป็นชีวิตจิตใจ แต่สวนในบ้านของตัวเองแท้ๆ กลับไม่รู้อะไรเลย แถมไม่ดูแลเอาใจใส่ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนสวนจัดการ เรื่องที่กูว่าแปลกอีกเรื่อง มาร์คแยกไม่ออกระหว่างต้นมะม่วง กับต้นขนุนว่ะ ไม่เชื่อตอนมึงไปสัมภาษณ์ ลองดูที่ต้นไม้สิ เขาให้กูทำป้ายกำกับ บอกชนิด บอกสายพันธุ์ไว้ทุกต้น”

“เอาเข้าจริง ๆ กูว่าบางทีเขาอาจแยกไม่ออกเลยก็ได้ ระหว่างต้นหญ้ากับไม้ใหญ่ยืนต้น”
เพื่อนหยอดเย้าด้วยมุขตลกร้าย

มีอีกหลายเรื่องที่เพื่อนเล่าให้ฟัง

มันบอกลูกน้องมันเจอมากับตัว ถึงขนาดออกปากว่าเมื่อไรงานบ้านหลังนี้จะเสร็จ พวกเขาเอือมกับพฤติกรรมของมาร์คที่แสดงออกถึงการดูถูกเหยียดหยาม หงุดหงิดเจ้าอารมณ์ ซึ่งต่างจากภาพลักษณ์ที่ปรากฏต่อสายตาสาธารณชน

มีครั้งหนึ่ง ช่วงสายใกล้เที่ยง หัวหน้าคนงานสั่งรถทรายมาเพื่อเตรียมเกลี่ยปรับสนาม โดยปกติต้องเปิดพื้นที่ให้รถเข้า-ออกได้ แต่บังเอิญวันนั้นมีกองวัสดุของผู้รับเหมารายอื่นวางขวางอยู่ เขาสั่งให้รถดั๊มพ์ทรายบริเวณประตูทางเข้า กะว่าหลังคนงานพักเสร็จจะให้รีบขนย้ายในช่วงบ่าย จังหวะเดียวกับที่มาร์คเข้ามาดูงานในช่วงเวลานั้นพอดี เสียงแตรรถดังสนั่น พวกคนงานตกใจรีบผละจากวงข้าวออกมาดู มาร์คเปิดประตูรถ ยืนมองด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ตะโกนเรียกหาหัวหน้าคนงานอยู่โหวกเหวก (แน่นอน เขาไม่เคยสนทนาพาทีอะไรกับบรรดาคนงาน แม้สักครั้งเดียวก็ไม่เคย)

ไม่รู้มาร์คไปหัวเสียมาจากไหน หรือนี่คือตัวตนที่แท้จริงของเขา โดยสามัญสำนึก เมื่อเกิดปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้น คนเราสามารถพูดคุยกันได้ด้วยเหตุผลความจำเป็น หรืออย่างน้อยก็ด้วยภาษาสื่อสารที่มนุษย์ใช้กับมนุษย์ แต่มาร์คไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น เขาด่าด้วยคำพูดที่เกรี้ยวกราด หยาบคาย ออกคำสั่งกับหัวหน้าคนงาน ให้รีบจัดการเรียกคนงานมาขนย้ายทรายเพื่อเปิดทางเข้า ทั้งที่พวกเขากำลังกินข้าวกันอยู่ และทั้งที่บริเวณหน้าบ้านก็ยังมีที่ว่างพอให้จอดได้อย่างสบายๆ ก่อนที่มาร์คจะเข้าไปนั่งรอในรถ ข้างแฟนสาว ซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ในมือ โดยไม่สนใจต่อสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น

“นี่ไม่ใช่ครั้งเดียวนะมึง ลูกน้องกูบอกเป็นอย่างนี้หลายครั้ง บางทีขนต้นไม้อยู่ กิ่งไปละเอากับผนังเป็นรอยเข้า มาร์คมาเห็นภายหลัง ถามหาคนทำ โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ไล่ด่าไปทั่ว ไม่เฉพาะกับลูกน้องกู พวกสร้างบ้านก็เอือม ลูกพี่ไม่เคยเจอหรอก เขามักแสดงพฤติกรรมแบบนี้เฉพาะกับพวกคนงาน”

 

เราสัมภาษณ์เสร็จราวบ่ายแก่ๆ ระยะเวลาหลายชั่วโมงที่ได้สัมผัสพูดคุยกับมาร์ค นอกเหนือจากที่เขาไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับต้นไม้อย่างที่เพื่อนบอกไว้ ผมยังไม่เห็นเค้าลางของนิสัยอย่างหลังในตัวเขา หรือนี่คือการซ่อนอำพรางอย่างแนบสนิท จนกลายเป็นเนื้อเดียวกับวิถีชีวิต และตัวตนไปแล้ว

เมื่อใดที่เขาตกอยู่ในวงล้อมของผู้คนซึ่งเอื้อผลประโยชน์ต่อภาพลักษณ์ ต่อหน้าที่การงาน ต่อการยกยอปอปั้น เขาจะสามารถสร้าง “รูปทรงอีกชนิด” ขึ้นสวมครอบไว้ แต่เมื่อใดก็ตามที่เขากลายไปเป็นศูนย์กลางจักรวาลของผู้คนซึ่งต่ำต้อยกว่า หรือผู้คนที่ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ต่อตัวเขา “รูปทรงอีกชนิด” ก็จะแสดงตัวตนของมันออกมา

ที่ใช้คำว่า “รูปทรงอีกชนิด” นั่นเพราะพฤติกรรมต่อสองกรณีดังกล่าว มันอาจถูกหล่อหลอมขึ้นโดยธรรมชาติอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเขาเองอาจไม่รู้ตัวก็เป็นได้

ผมไม่รู้หรอกว่าเรื่องที่เพื่อนเล่าให้ฟัง เป็นจริงมากน้อยแค่ไหน จะไปสนทำไม ในเมื่อผู้คนในสังคมต่างหยิบยื่นภาพชนิดหนึ่งให้กับตัวเขาไปแล้ว นั่นแหละคือสิ่งน่าสนใจ นั่นแหละคือความจริง

ผมมีหน้าที่เพียงทำงานของผมให้ดีที่สุด ถ่ายทอดเรื่องราวให้สอดคล้องกับเนื้อหารายการ นำเสนอสิ่งที่คิดว่าเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ชม แต่อีกทางก็จำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์ของแขกรับเชิญไว้ด้วย เพียงเท่านี้หน้าที่ระหว่างเราก็เสร็จสิ้น (ต่างเอื้ออำนวยผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน)

 

ผ่านไปราวสามสัปดาห์ เมื่อรายการออนแอร์ ผมได้รับคำชมจากเจ้านาย ว่าทำบทสัมภาษณ์ได้ดี เปิดมุมมองใหม่ๆ ในเรื่องของรายการตกแต่งบ้านและสวน สามารถเชื่อมโยงบริบทระหว่างแขกรับเชิญกับเนื้อหารายการได้ลงตัว ทั้งยังรวบรายละเอียดยิบย่อยต่างๆ ในเรื่องการออกแบบตกแต่งบ้านได้อย่างกระชับ มุมภาพสวยแปลกตา ผมกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ และชักจะชอบการทำรายการประเภทนี้ขึ้นมาบ้างแล้ว งานไม่เครียด ได้เห็นความงดงามอันเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ ได้เห็นนิสัยใจคอของผู้คน อย่างในครั้งนี้ ผมได้มองเห็นความย้อนแย้งในตัวเจ้าของบ้าน ได้เห็นแววตาอันโอ่อวดที่ซ่อนอยู่บนใบหน้าเป็นมิตร และสงบเย็น หากมีโอกาสในครั้งหน้า ผมอยากขอตามยายเก๋ไปถ่ายทำด้วยอีก ดีไม่ดีอาจลองขอเจ้านายเปลี่ยนมาทำงานในด้านนี้บ้าง

ว่ากันตามจริง อาชีพอย่างผมก็นักสร้างภาพดีๆ นี่เอง ใครจะรู้ว่าไอ้สิ่งที่ถูกนำเสนอผ่านรายการทีวี หลายต่อหลายครั้ง มันถูกแต่ง ตัด และลดทอนความจริงอันอัปลักษณ์ออกไป เหลือไว้เพียงความจริงอีกชุดที่ต้องการนำเสนอ ซ้ำร้ายในบางครั้ง ยังสอดแทรกความจริงชุดใหม่ขึ้นทดแทน ตบแต่งรูปร่างหน้าตาให้อ่องเอี่ยมเรี่ยมเร้ แล้วนำเสนอแต่ในสิ่งที่สังคมต้องการรับรู้

ถึงตรงนี้ ผมเริ่มตระหนักแล้วว่า ตนเองก็ไม่ต่างจากนักสร้างกลลวง ผู้ค้ามายาภาพ แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือผมสามารถเล่นแร่แปรธาตุความลวงทุกประเภท ให้กลายเป็นความจริงขึ้นมาได้นี่สิ…ผมชักเริ่มสนุก… •