เปิดหู | เพลงเกี่ยวกับบ้านที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา

อัษฎา อาทรไผท

เพลงเกี่ยวกับบ้านที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา

ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน “บ้าน” นับเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่ถูกมานำมาเขียนเป็นเพลงอยู่เรื่อยๆ ในทุกชาติทุกภาษา และในบทเพลงนั้นๆ ล้วนแอบบันทึกเรื่องราวความเป็นไปในยุคสมัยต่างๆ ของเพลงเอาไว้ ให้ผู้ฟังได้สัมผัสกับบรรยากาศบ้านในมุมมองที่แตกต่างกันไปตามกาลเวลาและสถานที่

สำหรับธีมเพลงบ้านที่เราคุ้นเคยกันส่วนมากจะเกี่ยวกับความคะนึงหาบ้านที่จากมาไกล เช่นเพลง “เดือนเพ็ญ” ของคาราวาน ที่บรรยายเรื่องราวคิดถึงบ้าน ความห่างไกลท้องนาบ้านเรือนที่เคยเนา โดยเพลงนี้เนื้อหาจะมีฉากหลังเป็นธรรมชาติ มีความยากลำบาก ที่หนาวเหน็บจนต้องหาความอบอุ่นจากกองไฟสุมควายตามคอก สะท้อนชีวิตของหลายท่าน ที่ต้องเปลี่ยนไปตามเหตุผลทางการเมืองของยุคสมัยนั้น

อีกธีมเกี่ยวกับบ้านที่พบน้อยกว่า คือการบรรยายความอบอุ่นของบ้านอย่างในเพลง “Home” ของ คุณบอยด์ โกสิยพงษ์ ที่หยิบเอาสิ่งมีชีวิต วัตถุ สิ่งของเครื่องใช้ประจำวันต่างๆ เช่น ดอกไม้ ประตู แจกัน ดินทราย ต้นไม้ใหญ่ในบ้าน มาเรียงร้อยเป็นเพลงบ้านได้อย่างน่ารักน่าฟัง ผมยกให้เป็นเพลงบ้านที่เขียนขึ้นมาอย่างชาญฉลาด และเพราะที่สุดเพลงหนึ่งเลยทีเดียว

เพลงสากลก็มีเพลงเกี่ยวกับบ้านมากมาย แต่ที่ตราตรึงอยู่ในใจผม ออกจะเป็นเพลงเก่าสักหน่อย (แต่สำหรับบางท่านอาจจะไม่รู้สึกว่าเก่า ผมเองก็เช่นกัน) นั่นคือเพลง “When We Make A Home” ของ Sadao Watanabe มือแซ็กชาวญี่ปุ่นที่โด่งดังระดับโลก ที่ปกติจะบรรเลงแซ็กโซโฟนเป็นหลัก แต่เพลงนี้เขาชวนเพื่อนมาเขียนเนื้อภาษาอังกฤษ และได้นักร้องมาขับร้องให้อย่างไพเราะ กับเนื้อหาของการร่วมกัน สร้างบ้าน สร้างชีวิต สร้างครอบครัวอันอบอุ่นด้วยกัน

ตัวผมเองก็เป็นคนเขียนเพลงเช่นกัน และเคยแต่งเพลงเกี่ยวกับบ้านมาแล้ว แถมยังได้มีโอกาสเขียนเพลงในธีมนี้ถึงสองครั้งด้วยกัน ซึ่งเมื่อมาสังเกตุดูแล้ว แม้จะเป็นเพลงที่เขียนขึ้นโดยผมเองทั้งคู่ แต่เนื้อหามันแตกต่างกันไปตามความเป็นไปในขณะที่แต่งเพลงขึ้นมาจริงๆ ถือเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ได้ดีทีเดียว

เพลงบ้านเพลงแรก ผมเขียนขึ้นในนาม Mola mola Sunshine! สำหรับใช้เป็นเพลงประกอบงาน บ้านและสวน ใช้ชื่อเพลงเป็นชื่อเดียวกับงานว่า “บ้านและสวน” มีผู้ขับร้องเป็น คุณสิงโต นำโชค ถ้าใครเคยไปเดินเล่นในงานน่าจะเคยผ่านหูกันมาบ้าง สำหรับเพลงนี้ได้เขียนขึ้นมาก่อนช่วงโควิด เนื้อหาจะเป็นไปตามเพลงเกี่ยวกับบ้านต่างๆ ที่เล่าถึงความคิดถึงบ้าน ความอบอุ่นที่เฝ้ารอจะได้ไปสัมผัส และความผูกพันธ์กับบ้าน

โดยมีเนื้อเพลงพอเป็นสังเขปเพลงว่า “จะมีที่ใดที่ใจฉัน อบอุ่นทุกพลันเมื่อคิดถึง มีอยู่ที่หนึ่ง มีอยู่ที่หนึ่ง เธอรู้ไหม?” “ที่นี่มีรักอยู่ ที่นี่มีเธออยู่ และมีความทรงจำดีๆ มากมาย อยู่ในทุกๆ อณู” “คืนวันจะพ้นผ่าน ใครๆ จะพ้นผ่าน แต่ในบ้านและสวนของฉัน ฉันมีเธอ”

ครั้นพอมาถึงยุคที่โควิดอยู่กับเรามาเกิน 2 ปี ผมเพิ่งได้รับมอบหมายให้เขียนเพลงบ้านขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้มุมมองเรื่องบ้านเปลี่ยนไป ทุกๆ คนอยู่บ้านกันมากขึ้นจนหายคิดถึง เรียนที่บ้าน work ก็ from home  ทานอะไรก็สั่งมาบ้าน ซื้อของก็ออนไลน์ ประชุมก็ Zoom เอา ดีไม่ดีไม่ได้ไปไหนกันด้วยซ้ำ และแน่นอนว่าอารมณ์แห่งห้วงเวลาประหลาดนี้ ก็ถูกบันทึกลงในเพลง “เช้า สาย เย็น ค่ำ” โดย Mola mola Sunshine! ขับร้องโดย Hers เป็นที่เรียบร้อย

เพลงเริ่มมาด้วยเนื้อร้องว่า “เช้านี้ไม่รีบตื่น ก็ไม่ได้จะไปไหน เพราะฉันมีอะไรอะไรให้ทำในบ้านของฉัน” ตามด้วย “สายแล้วก็ยังคงอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน เพราะฉันมีต้นไม้ดอกไม้ให้ดูแล” “หมาน้อยคอยยามเย็นจะได้มาเล่นด้วยกัน ทุกท่าทีของมันพาให้ฉันสบายใจ” จบด้วย “ค่ำแล้วก่อนเข้านอนขอผ่อนคลายในมุมโปรด พร้อมเครื่องดื่มถูกใจแล้วปล่อยใจให้ล่องลอย” จะเห็นว่าวันทั้งวันอยู่ในบ้านอย่างเดียว ไม่มีการคิดถึงคะนึงหาใดๆ เนื่องจากไม่ได้ไปไหน เพราะไปไหนกันไม่ได้ เปลี่ยนจากความคิดถึงบ้าน เป็นความรักในกิจกรรมในบ้านไป

บทเพลงบ้านเปลี่ยนไปตามเหตุการณ์ในเวลานั้นๆ แต่ที่กระทบทุกคนอย่างชัดเจนที่สุด เห็นจะเป็นช่วงเวลานี้ ที่ก่อนหน้าเราจะคิดถึงบ้านกันหนักหนา แต่เมื่อโควิดมาถึง บ้านคือที่ๆ แม้แต่นักเรียนนอก บางทียังกลับประเทศมานั่งเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน ถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าจดจำ และได้ถูกบันทึกไว้ในเพลงบ้านของปี 2022 เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ