รู้ชีวิต…ด้วยดวงดาว/ศ. ดุสิต/ดวงสามดาว

รู้ชีวิต…ด้วยดวงดาว/ศ. ดุสิต

อ่านอนาคตของคุณไม่ยากหรอก…แค่รู้จักดาว 10 ดวงเท่านั้น!

เรื่องลึกในโหราศาสตร์ไทยชุด “คลังโหร”

ดวงสามดาว

ก็เฉกเช่นเดียวกับดวงห้าดาวที่ได้ผ่านสายตาของคุณๆ มาแล้วในตอนก่อน ดวงสามดาวก็คือดวงที่มีดาวสามดาวสถิตร่วมอยู่ในราศีเดียวกัน โดยไม่มีดวงที่สี่เข้ามาปะปนด้วย

ดวงที่มีดาวสามดวงเข้ามาสถิตร่วมกันอยู่เช่นนี้ จัดว่าเป็นความ “พิเศษ” ของดวงชาตาอีกอย่างหนึ่ง

เป็นดวงพิเศษที่เมื่อคุณผูกดวงแล้วเห็นมีดวงลักษณะนี้ขึ้นมา คุณก็จะรู้ได้เลยว่า ดวงนี้ “พิเศษ” กว่าดวงอื่นที่ไม่ได้มีสามดาวอย่างที่ปรากฏในดวงที่ผูกขึ้นนี้

เป็นจุดพิเศษสำหรับให้พวกเราที่เป็นนักพยากรณ์ได้อาศัยเป็นเครื่องจับความพิเศษได้ แต่ถ้าเราไม่ได้ศึกษาหรือเรียนรู้มาก่อน เราก็จะผ่านมันไปโดยไม่รู้ถึงความหมายอันพิเศษนี้แต่อย่างใด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก

เอ้า-ทีนี้มาดูกันว่า ดวงสามดาวนั้นรูปร่างเป็นยังไง และมันพิเศษอย่างไร

สามดาวที่ว่าเป็นพิเศษนั้น ไม่ใช่ว่าจะเป็นดาวอะไรก็ได้นะครับ แต่จำกัดเฉพาะลงไปด้วยว่า สามดาวที่ว่านี้จะต้องเป็นดาว อาทิตย์-พุธ-ศุกร์ เท่านั้น

เพราะอาทิตย์พุธศุกร์นี้เป็นดาวที่มีคุณสมบัติกลมกลืนกันได้เป็นอย่างดี คืออาทิตย์กับศุกร์นั้นเป็นดาวคู่สมพล ศุกร์กับพุธนั้นเป็นดาวคู่ธาตุ และพุธกับอาทิตย์นั้นเป็นดาวคู่ “เด่นดัง” เมื่อทั้งสามคู่เข้ามารวมตัวกันอยู่ในราศีเดียวกัน อิทธิพลของคู่ทั้งสามคู่นี้ก็ย่อมทำให้ดวงชาตามีความพิเศษเกิดขึ้นทันที

พิเศษยังไง?

พิเศษที่ทำให้เจ้าชาตาที่มีดวงสามดาวนี้ จะเป็นผู้ที่ได้รับพรสวรรค์ให้มีความ “เด่น” เกิดขึ้นในตัวเองได้ในด้านใดด้านหนึ่งอย่างแน่นอน

เพื่อไม่ให้เสียเวลา ผมจะยกตัวอย่างมาให้คุณได้ดูกันเลยว่าดวงเป็นรูปยังไงถึงจะเด่นกันได้ ดูนะครับ

คุณเห็นไหมครับว่า ที่ราศีพิจิกอันเป็นที่ตั้งของลัคนานั้น ได้กุมดาวสามดวงอยู่ และเป็นดาวที่ถูกกำหนดให้เป็นดาวพิเศษอย่างที่ว่าไว้ด้วย ซึ่งคุณจะเห็นได้ว่าดาวอาทิตย์นั้นเป็นดาวเจ้าเรือนกัมมะ=อาชีพการงาน และดาวพุธนั้นเป็นดาวเจ้าเรือนลาภะ-มรณะ อาทิตย์กับพุธคือดาวคู่เด่นดัง

จึงส่งผลให้เจ้าชาตามีความโดดเด่นจากอาชีพที่ทำอยู่

ส่วนดาวศุกร์นั้นเป็นดาวศิลปะ เป็นเจ้าเรือนปัตนิ-วินาสน์ ก็ส่งผลให้ตามหน้าที่ของภพ คือให้ความลับห่อหุ้มความรักไว้ (ดาวศุกร์คือความรักและการเงิน) และได้รับความร่วมมือจากมวลชนเป็นอย่างดี (ปัตนิ) ในการปฏิบัติงานทุกครั้ง

อีกจุดหนึ่งที่น่าสังเกตในดวงของคุณเบิร์ดนี่ก็คือ ดาวพฤหัสฯ-จันทร์ ซึ่งเป็นเจ้าเรือนเงาของภพเกณฑ์ปัตนินั้น ในดวงนี้ได้สถิตกุมกันสนิทในภพวินาสน์

ดาวสองดวงนี้เป็นเจ้าเรือนเงาของการมีคู่ครอง เป็นตัวที่จะแสดงผลในด้านของครอบครัวหรือชีวิตคู่ว่ามีวิถีที่ใกล้ชิดหรือห่างกัน

ผู้ที่อ่านดาวคู่นี้เป็น เห็นดวงอย่างนี้ก็พอจะบอกได้ทันทีว่า ชีวิตด้านคู่ของดวงนี้จะมีความประหลาดอย่างหนึ่ง

คือเป็นผู้ที่มีผู้ให้ความรักความสัมพันธ์เชิงชู้สาวอยู่อย่างไม่ขาดแคลนด้วยซ้ำ แต่ชีวิตก็ถูกบังคับด้วยดาวคู่นี้ให้เก็บความรักที่เป็นส่วนสำคัญของชีวิตตนไว้เป็นความลับ หรือให้อยู่ในความเงียบที่ไม่เอิกเกริก

ชีวิตโด่งดังได้ แต่เรื่องรักต้องเงียบ!

จำได้ไหม ภพวินาสน์แปลว่า ลับๆ, แฝงเร้น, เงียบๆ เมื่อดาวแห่งการครองคู่มากอดกันอยู่ในภพนี้ ก็ต้องอ่านยังงี้แหละ

นี่ผมพูดถึงความสำคัญของดาวสามดวงที่เป็นจุดพยากรณ์นี้เท่านั้น ไม่ได้ต้องการมาดูดวงให้คุณฟังกันหรอก เพราะคุณก็ดูกันเป็นอยู่แล้ว ผมเอาตัวอย่างนี้มาให้ดูก็เพื่อให้เห็นความจริงของความ “พิเศษ” ที่ผมบอกไว้นั่นแหละ

เมื่อคุณได้เห็นดวงจริงๆ อย่างนี้จะได้เกิดความเข้าใจว่าจะใช้การดูดวงพิเศษนี้อย่างไร

1. ดูว่า “ความพิเศษ” นั้นสถิตอยู่ในราศีใดภพใด

2. สัมพันธ์กับดาวสำคัญในดวงอย่างไร

3. ดาวสามดวงนั้นทำหน้าที่อะไรในดวงชาตา

จุดสำคัญที่ต้องดูอีกอย่างหนึ่งก็คือ เรารู้ว่าดาวสามดวงนี้เป็นดาวพิเศษ เพราะฉะนั้น ดาวสามดวงนี้จะให้ผลแก่ชาตาได้ดีก็จะต้องไม่ไปตกอยู่ใน “ทุสถานภพ” เพราะถ้าตกทุสถานภพเสียแล้วก็เท่ากับการออกฤทธิ์ของดาวสามดวงนั้นไม่ได้ผล หรือได้ผลไปตามอิทธิพลของทุสถานภพนั้นๆ

เช่น ดาวสามดวงไปตกที่ภพอริ ชีวิตก็จะพบกับอุปสรรคต่างๆ ได้เสมอ หรือไม่ก็จะเด่นดังในทางนักเลงหรือในทางไม่ชอบ อะไรอย่างนี้แหละครับ

เอ้า-ดูอีกดวงหนึ่งดีกว่า จะได้เข้าใจยิ่งขึ้น

ดวงนี้เป็นดวงของนักร้องผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่ง แต่ก็มีข่าวที่ทำให้ชื่อเสียงต้องมัวหมองลงไปบ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นอุบัติการณ์ที่ต้องเกิดกับชีวิตของเธอตามดวงที่เป็นของเธอเอง

ในตัวอย่างนี้คุณจะเห็นว่า ดาวพิเศษสามดวงนั้นสถิตที่ภพอันลี้ลับคือภพวินาสน์ของลัคนา

แต่ภพวินาสน์นี้เราก็รู้กันอยู่แล้วว่าเป็น “ภพหนุน” ของดวงชาตาภพหนึ่ง เพราะดาวในภพนี้จะ “ดันหลัง” ลัคนาให้ขยับเคลื่อนไปข้างหน้า จะเรียกว่าเป็นดาวที่ทำหน้าที่ให้ชีวิตก้าวหน้าก็พอจะอ่านอย่างนั้นได้ ถ้ามีองค์ประกอบที่ดีในดวงนั้นด้วย

แล้วคุณดูหน้าที่ของดาวสามดวงนั้นซีครับ ดาว ๑ คือกดุมพะ ดาว ๔ คือสหัชชะ/วินาสน์ ดาว ๖ คือพันธุ/ลาภะ แต่เมื่อมาสถิตที่ภพวินาสน์เช่นนี้ ก็เท่ากับว่าดาวสามดวงนี้ต้องออกแรง “ดัน” ลัคนาอย่างแรงเพื่อให้สำเร็จผลตามหน้าที่ของดาวนั้น

และการ “ดัน” อย่างแรงนี้จะต้องดันไปทางไหนบ้าง ก็ขึ้นกับอุปนิสัยและจริตของเจ้าชาตาเองแหละครับ

ผมจะไม่พูดถึงเรื่องที่ทำให้เธอต้องมัวหมองหรอกครับ เพราะจะเสียมารยาท เชื่อว่าใครๆ ที่สนใจในเรื่องข่าวคราวของดาราในสังคมก็คงจะทราบเรื่องนี้ดีกว่าผมด้วยซ้ำ แต่ผมอยากจะให้คุณสังเกตดาวอีกสองดวงที่ผมเคยเอ่ยถึงมาก่อนแล้ว คือดาวสำคัญอีกคู่หนึ่งที่ทำหน้าที่ด้านคู่ครองหรือวิถีชีวิตคู่ ดาว พฤหัสฯ-จันทร์ นั่นไงครับ

คุณดูดาวสองดวงนี้ในดวงชาตาของเธอซี ตะกี้นี้เราดูดวงของคุณเบิร์ดซึ่งมีดาวคู่นี้กอดกันแนบสนิทอยู่ในภพวินาสน์ แต่ในดวงนี้ดาวคู่นี้กลับสถิตห่างกันสุดขอบฟ้า คือเล็งกันสนิทไปเลย และเล็งกันในภพเกณฑ์ซึ่งทำให้ดาวมีความเข้มแข็งเพิ่มขึ้นไปอีกเป็นทวีคูณเลย

นั่นคือ วิถีชีวิตคู่ของเธอ ดวงบอกว่าจะเป็นคู่ขนาน คือไปกันคนละเส้นเหมือนรางรถไฟ แต่สามารถให้รถไฟ (ความรัก/คู่ครอง) แล่นไปบนรางนั้นได้

ผมบอกแค่นี้แหละ คุณไปแปลกันเอาเองก็แล้วกัน เป็นการลับสมองลองความคิดที่จะทำให้คุณดูดวงเก่งขึ้นอีกไม่น้อยทีเดียวละ หัดคิดหัดทำครับ แล้วคุณจะเก่งขึ้นแน่

แค่นี้ก็คงพอแล้วในการศึกษา ขอจบดื้อๆ ตรงนี้แหละครับ