ทั้งๆที่หลังสถานการณ์เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม “ความเงียบ”น่าจะเป็น “กระบวนการ”ที่ดีที่สุด

แล้วทำไม นายทักษิณ ชินวัตร จึง “โผล่”

“ไม่มีความเลวร้ายใดที่จะยิ่งไปกว่าความเลวร้ายที่ได้กระทำโดยอาศัยตามกฎหมาย หรือในนามของกระบวนการยุติธรรม”

อ้างคำเท่จาก “มองแต็สกิเยอ”

แม้ไม่มี “คำอธิบาย” หรือ “คำชี้แจง” มาจากดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

แต่ “ทวิตเตอร์” เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม เด่นชัด

1 ต้องการแสดงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปลอดภัยแล้ว และ 1 ต้องการแสดงเหตุผลของการหายตัวไป

เหมือนจะ “พูด” แทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

 

ถามว่าเหตุใดการตอบโต้ต่อ “ทวิตเตอร์” จึงเน้นไปยังมองแต็สกิเยอและ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นหลัก

ไม่ว่าจะมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ไม่ว่าจะมาจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่าจะมาจาก นายวิษณุ เครืองาม

ไม่มีการกล่าวถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

เพราะเนื้อความของมองแต็สกิเยออันปรากฏผ่านทวิตเตอร์พุ่งเป้าเข้าใส่

กฎหมาย และ กระบวนการยุติธรรม

เป็นกระบวนการยุติธรรมอันเนื่องแต่โครงการรับจำนำข้าวและการดำเนินคดีต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ขณะเดียวกัน ต่อประเด็นอันเกี่ยวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หายตัวไปก็เป็นเรื่องที่รับรู้กันโดยพื้นฐานแล้วว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคือใคร

รู้เหมือนกับที่พรรคเพื่อไทยรู้ รู้เหมือนกับที่นปช.รู้

 

หลังสถานการณ์ในวันที่ 25 สิงหาคม แม้ในทางคดีความ น.ส.ยิ่ง ลักษณ์ ชินวัตร จะยังอยู่ในฐานะ “จำเลย”

แต่ในทาง “สังคม” ได้เกิดการแปรเปลี่ยน นับวันคสช.และรัฐบาลจะถูกมองด้วยความแคลงคลาง กังขา มากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ

“จำเลย” ในทางสังคมกลับเป็นคสช.กลับเป็นรัฐบาล

“ความเงียบ” จาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงยังมีบทบาทและความหมาย