การโพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ “อุ๊งอิ๊ง”

ให้ความรู้สึก “แปลก”

“คนเราอย่าตัดสินกันตอนที่มีความสุข ตอนที่เราทุกข์คนที่เลือกจะยืนเคียงข้างเรา คือ คนที่รักเราจริง

“ขอบคุณความโชคร้ายในชีวิตท่ำให้รู้ว่า เราโชคดีแค่ไหนที่มี ครอบครัวที่รักกัน มีเพื่อนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้าง มีประชาชนที่ไม่เคยลืมและเข้าใจ”

เป็นการโพสต์ในวันที่ 2 กันยายน

สัมพันธ์กับกรณีการหายตัวไปของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในวันที่ 25 สิงหาคมอย่างแน่นอน

ทำไมจึงออกมา “ขอบคุณ”

 

กรณีการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร หากมองในฐานะ “คดี” ก็ต้องถือว่าแปลกอยู่แล้ว

แปลกอย่างยิ่ง แปลกอย่างน่าพิศวง

เพราะเป็น “คดี” ที่ไม่มีการแจ้งความจาก “เจ้าทุกข์” โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก “สามี”

ความรู้สึก”ร่วม”จากญาติสนิท มิตรสหาย

กลับเป็นความรู้สึกในลักษณะ “โล่งอก” และ “ดีใจ” ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หายตัวไป

ข้อความที่โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ของ “พี่ชาย”

กลับยก “ถ้อยคำ” ของนักปราชญ์ในทางการเมืองพาดพิงไปถึง “กฎหมาย” และ “ความยุติธรรม”

ข้อความที่โพสต์ผ่านอินสตาแกรมของ”หลาน”

กลับแสดงความขอบคุณ และแสดงความดีใจต่อ”สถานการณ์”อันเกิดขึ้น

เหมือนกับเป็น “โชคดี” มากกว่า “โชคร้าย”

 

หลังสถานการณ์วันที่ 25 สิงหาคม จึงเกิดภาพ 2 ภาพในทางสังคม

1 เป็นภาพแห่ง “ความเงียบ”

ขณะเดียวกัน 1 เป็นภาพแห่งการเคลื่อนไหวเพื่อค้นหาความเป็นจริงเพื่อนำมาตอบ ความคลางแคลง กังขาของสังคมว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หายตัวไปได้อย่างไร

อีกนานแค่ไหนจึงจะมี “คำตอบ”