เมล็ดพันธุ์ / เอกภาพ : พิชัย แก้ววิชิต

เอกภาพ

พิชัย แก้ววิชิต

 

เมล็ดพันธุ์

 

มันเป็นช่วงบ่ายแก่ๆ ในวันที่รู้สีกอยากออกไปผ่อนคลายกับสวนสาธารณะที่อยู่ใกล้ๆ บ้าน

ที่ซึ่งผมกับธรรมชาติจะได้ใกล้ชิดกันเท่าที่พอจะเป็นไปได้

ในสวนสาธารณะ ผมชอบที่จะอยู่ใกล้ๆ ต้นไม้แล้วนั่งลงเพื่อที่จะทำให้เวลาของชีวิตไม่เดินเร็วจนเกินไป

ทุกๆ สิ่งในสถานที่นี้ไม่ได้นิ่งสนิท มันยังคงแคลื่อนไหวอย่างสมเหตุสมผล

ใบไม้ที่เหลืออยู่น้อยนิดบนกิ่งไม้แห้งดึงดูดสายตาให้เดินเข้าไปหา

เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็ได้พบกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ใบหน้าเรียบเฉยที่ไม่ได้ว่างเปล่าจากความรู้สึก และเธอก็ดูน่าค้นหา

ผมทักทายเธอด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ก่อนที่ยกกล้องขี้นเพื่อถ่ายใบหน้าของเธอไว้

มันเป็นความสุขเล็กๆ ของคนที่ชอบถ่ายภาพ เมื่อต้องตากับสิ่งที่ต้องใจ

และ ณ จุดนี้ จินตนาการคือความจริงที่เกิดขึ้น

ความจริงที่ผมเห็นได้มากว่าที่เคยมอง รู้สึกได้มากกว่าสิ่งที่ผมรู้

เมื่อผมและเธอเริ่มคุ้นเคยกันพอสมควร การพูดคุยกันก็เริ่มต้นขี้น

เธอบอกกับผมว่า อยากให้เดินเล่นไปทั่วทั้งสวน โดยไม่จำเป็นต้องใส่ใจไปกับชื่อของต้นไม้และดอกไม้ ให้สนุกตื่นตาตื่นใจไปกับการกระพือปีกของผีเสื้อ เฝ้ามองดูสายลมมาที่วิ่งวนไปมากระทบใบไม้ให้พลิ้วไหวราวกับหยอกล้อเล่น

ให้ฟังเสียงนกร้องในความหมายที่ไม่อาจรู้ได้ แต่ก็ไพเราะในท่วงทำนอง

และให้สนุกเพลิดเพลินไปกับความไร้เดียงสาของชีวิต

 

มันเป็นภาพกิ่งไม้และใบไม้เพียงไม่กี่ใบ ที่ผมมองดูคล้ายกับใบหน้าคนที่กำลังหันข้าง และกิ่งที่อยู่ด้านขวาก็ดูเหมาะที่จะเป็นเส้นผม

 

ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่น้อย

เธอเล่าต่อไปว่า เธอกับผมคือเมล็ดพันธุ์ของธรรมชาติ และเราทั้งสองต่างก็มีวิถีและบทบาทของมีชีวิตที่ไม่เหมือนกัน มันเป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติของชีวิต และไม่มีชีวิตใดด้อยค่าในความแตกต่างนี้

มันเป็นสมดุลที่จะต้องอาศัยประโยชน์จากความแตกต่าง

ไม่ต่างอะไรไปจากเมล็ดพันธุ์ในผืนป่า

ผืนป่าที่จะอุดมสมบูรณ์ได้ก็ต้องอาศัยความแตกต่างหลากหลายของพืชพันธุ์และสิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่ และโลกก็อยู่ได้ด้วยระบบธรรมชาติเช่นนี้มาช้านาน

หากไม่เข้าใจและไม่พยายามที่จะสืบค้นทำความเข้าใจกับความเป็นจริงของเมล็ดพันธุ์และไม่ยอมรับกับวิถีแห่งธรรมชาติ คุณค่าและความหมายขของชีวิตจะถูกเวลากลืนกินอย่างไร้ความปรานี

และเมื่อใดก็ตามที่การสืบค้นได้เกิดขึ้นจนเห็นความแตกต่างเป็นสิ่งสำคัญที่มีคุณค่า มีความหมาย เมื่อนั้นเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตจะงอกงามและสมบูรณ์ในแบบที่มันเป็น

ผมนิ่งเงียบ พยายามคิดตามไปกับสิ่งที่เธอพูด

ผมเริ่มรู้สึกเห็นอะไรบางอย่างจากสิ่งที่ไม่เคยมอง

ถ้าผมเป็นเมล็ดพันธุ์ผมจะเป็นเมล็ดพันธุ์สายพันธุ์ไหน และเป็นเมล็ดพันธุ์ที่เจริญเติบโตอยู่ในผืนป่าหรือในอยู่ในกระถางที่ใครเอามาปลูกไว้กันแน่

มันเป็นคำถามง่ายๆ แต่มันก็ยากพอที่จะทำให้ผมหาคำตอบได้ในตอนนี้

 

และถึงแม้ว่าผมจะยังตอบคำถามให้กับตัวเองไม่ได้ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า คือการได้รับรู้ถึงคุณค่าของชีวิตที่ไม่ต่างอะไรไปจากเมล็ดพันธุ์ ที่พร้อมจะงอกเงยหยั่งรากลึกและเติบใหญ่ไปกับสังคมที่ยอมรับ และเปิดกว้างไปกับความรู้ ความสามารถตามธรรมชาติที่แตกต่างของแต่ละชีวิต

เพื่อที่ทุกๆ ชีวิตจะได้ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ตามธรรมชาติ

เพื่อชีวิตที่สมบูรณ์และเพื่อสังคมที่สมดุล ที่จะนำมาสู่การยอมรับและให้เกียรติซึ่งกันและกัน

เคารพและให้ความสำคัญของผู้คนในทุกๆ หน้าที่ ไม่ว่าชีวิตนั้นจะเป็นใครในสังคม

แสงแดดที่สาดส่องต้นไม้ที่อยู่เบื้องหน้าบ่งบอกถึงเวลาที่คล้อยเย็น ถึงแม้ว่าเวลาจะเดินช้าแต่ก็เร็วทุกครั้งที่จะต้องกล่าวลา สมกับเวลาแล้วที่จะผมต้องกลับ

ผมบอกลาเด็กผู้หญิงตัวน้อยและขอบคุณจากใจจริง ที่แนะนำให้ผมได้สัมผัสความเพลิดเพลินจากความไร้เดียงสา และเรื่องราวของเมล็ดพันธุ์ จนเกิดเป็นคำถามให้กับตัวเองและคงถือได้ว่ามันเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านที่ยังคาใจ

เราร่ำลากันด้วยความรู้สึกอันดีเมื่อต้องจากลา

ผมหันหลังแล้วเดินมุ่งหน้าไปสู่ทางออกที่ผมเข้ามา

ขอบคุณมากมายครับ