‘สุรชาติ-เพชร’ 2 ความฝันเด็ดเดี่ยว 2 ชัยชนะของซีกประชาธิปไตย/เปลี่ยนผ่าน ทีมข่าวการเมือง มติชนทีวี

เปลี่ยนผ่าน

ทีมข่าวการเมือง มติชนทีวี

 

‘สุรชาติ-เพชร’

2 ความฝันเด็ดเดี่ยว

2 ชัยชนะของซีกประชาธิปไตย

 

สิ้นสุดลงไปแล้ว สำหรับผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 (จตุจักร-หลักสี่) ซึ่งชัยชนะตกเป็นของ “สุรชาติ เทียนทอง” ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย และอดีต ส.ส.เมื่อปี 2554 ตามความคาดหมายของสื่อหลายสำนัก นักวิเคราะห์ และ “โพลลับ” ที่ปล่อยออกมาตอนวันศุกร์ที่ 28 มกราคม ก่อนหน้าการเลือกตั้งเพียงสองวัน

ขณะที่ผู้ได้คะแนนเป็นอันดับสอง คือ “กรุณพล เทียนสุวรรณ” หรือ “เพชร” อดีตนักแสดงหนุ่มและผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล

ซึ่งถือเป็นผลลัพธ์ที่หักปากกาเซียนไม่น้อย เพราะในช่วงโค้งสุดท้าย หลายฝ่ายประเมินว่าคะแนนนิยมของเขาน่าจะตกเป็นรอง “อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี” ผู้สมัครพรรคกล้า ซึ่งมีดีกรีเป็นผู้แทนฯ เก่า รวมถึง “มาดามหลี-สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ” ผู้สมัครพลังประชารัฐ และภรรยาเจ้าของพื้นที่เดิม “สิระ เจนจาคะ”

ด้วยเหตุนี้ ผลคะแนนเลือกตั้งซ่อมที่จตุจักร-หลักสี่ จึงถูกมองเป็น “ชัยชนะ” ของพรรคการเมืองปีกประชาธิปไตย ที่มีเหนือขั้วการเมืองฝ่ายขวา (พลังประชารัฐ กล้า และไทยภักดี)

รวมทั้งบ่งบอกว่าในหลายพื้นที่การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยและก้าวไกลอาจมิได้ตัดคะแนนกันเองจนต้องประสบความพ่ายแพ้ ดังที่ผู้เรียกร้องให้เกิดการ “ลงคะแนนเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์” พากันวิตกกังวลล่วงหน้า

อย่างไรก็ตาม ก่อนวันเลือกตั้ง ต้องนับว่าการแข่งขันขับเคี่ยวระหว่างสองพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยนั้นดุเดือดไม่น้อย

หากพิจารณาจากคำปราศรัยของเพชร กรุณพล และสุรชาติ ที่ต่างยืนยันถึงแนวคิด-ความใฝ่ฝันอันเด็ดเดี่ยวของพวกตน บนเวทีการหาเสียงเมื่อค่ำวันที่ 28 มกราคม

เริ่มจากเพชรที่ยืนกรานถึงแนวทางการต่อสู้แบบ “ไม่ประนีประนอม” ของพรรคก้าวไกล

“วันนี้ พรรคก้าวไกลและผม เราตั้งใจจริงๆ ครับ เราตั้งใจที่อยากจะมาแก้ไขประเทศนี้ เราตั้งใจที่อยากทำการเมืองใหม่ การเมืองที่ไม่มีการเกี้ยเซียะ การเมืองที่ไม่มีการประนีประนอม ถูกคือถูก ผิดคือผิด หลายคนบอกว่า เฮ้ย! มันต้องมีสีเทาบ้าง มันต้องมีวิธีการที่คอยประนีประนอม คอยแต่ประนีประนอมแล้วเมื่อไหร่ปัญหามันจะหายไป?”

“แม้แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ หลายคนบอกว่าเราควรจะร่วมมือกันเพื่อชนะเผด็จการ เราควรจะร่วมมือกัน ไม่ใช่มาตัดคะแนนกัน ผมถามครับว่า เริ่มด้วยการเกี้ยเซียะ เริ่มด้วยการจับมือกันใต้โต๊ะ ชนะไปมันจะต้องมีผลประโยชน์ตอบแทนกันไหมครับ? ชนะไปมันเป็นความภูมิใจจริงๆ เหรอครับ? ที่คนหนึ่งต้องหลบให้”

“แล้วถ้าแบบนั้น พรรคก้าวไกลจะตั้งขึ้นมาทำไม? พรรคก้าวไกลคือพรรคการเมืองที่ต้องการผลักดันนโยบายและวิธีการปฏิบัติที่แตกต่างกับพรรคการเมืองอื่นๆ เพราะพรรคของเราไม่ประนีประนอม พรรคของเราพุ่งชนทุกปัญหา”

“วันนี้ครับ ผมเชื่อว่าหลายคนที่อยู่ตรงนี้มีความรู้สึกเหมือนผม เรามีความหวัง เรามีความหวังที่มีพรรคฝั่งประชาธิปไตยที่แท้จริงเกิดขึ้น มันเป็นความหวังที่เราจะส่งต่อชีวิตที่ดีกว่าให้ลูกหลาน ส่งต่อความยุติธรรมในประเทศนี้ ส่งต่อความเสมอภาคในสิทธิและเสียงของเรา”

“วันที่ 30 มกราคมนี้ครับ จงนำความหวังเข้าไปในคูหา แล้วทิ้งความกลัว ความกลัวที่จะแพ้เผด็จการ ความกลัวที่คิดว่าถ้าไม่เกี้ยเซียะกัน แล้วจะแพ้ จงนำความหวังเข้าไปในคูหาเลือกตั้ง และกาเบอร์ 6 เพชร กรุณพล ให้เป็นผู้แทนฯ ของท่านในเขตจตุจักร-หลักสี่ครับ”

ขณะที่สุรชาติก็ยืนหยัดถึงแนวทางการเป็น “ผู้แทนราษฎร” ในแบบของตน

“สภาผู้แทนราษฎรเป็นที่ใฝ่ฝันสำหรับผมตั้งแต่เด็ก แต่เชื่อไหมครับ ว่าตั้งแต่เด็กจนโต ผมไม่เคยไปเหยียบสภาผู้แทนราษฎรเลยสักครั้งเดียว ความใฝ่ฝันผมที่สุดแล้วเนี่ย ผมเคยบอกกับพี่บอย (สรวงศ์ เทียนทอง) ไว้ว่าผมจะไปเหยียบสภา ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น”

“และผมไปสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในฐานะผู้แทนราษฎรครับเมื่อปี 2554 จนถึงเมื่อการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา หลังจากวันที่ผมพ่ายแพ้ทางการเมือง ผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยให้กำลังใจผมเยอะมากครับ แล้วบอกผมว่าอ๊อฟไม่ต้องเสียใจนะ ยังไงก็แล้วแต่ ขอให้อ๊อฟเข้าไปช่วยงานที่พรรค แล้วมีตำแหน่งอีกมากมายในสภา”

“ผมกราบผู้ใหญ่ทุกคนครับ ผมบอกว่า ผมกราบขอบพระคุณครับ ผมยินดีและผมเต็มใจที่จะทำงานเพื่อพรรค ผมจะทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป แต่ผมขอเงื่อนไขเดียว ผมขอที่จะไม่ไปเหยียบสภาผู้แทนราษฎรไม่ว่ากรณีใดๆ ผมตั้งใจไว้ครับพี่ป้าน้าอา ผมตั้งใจไว้ว่าผมจะกลับไปเหยียบสภาในฐานะผู้แทนราษฎรเท่านั้น”

 

ทว่า ภายหลังผลการเลือกตั้งซ่อมที่จตุจักร-หลักสี่ ปรากฏออกมาในลักษณะ “วิน-วิน” สำหรับฝ่ายประชาธิปไตย ทั้งเพชรและสุรชาติต่างก็แสดงความปรารถนาดีต่อกัน ตามประสา “มิตรทางการเมือง”

โดยเพชรแถลงที่ร้านอาหารจิตประภัสสร ซึ่งเป็นวอร์รูมของพรรคก้าวไกล หลังทราบผลคะแนนว่า

“ก่อนอื่นก็ต้องขอแสดงความยินดีกับคุณอ๊อฟ สุรชาติ เทียนทอง ต้องแสดงความยินดีด้วยจริงๆ เพราะว่าคุณอ๊อฟเป็นคนที่ตั้งใจทำงานมากๆ เท่าที่ได้เจอกันในระหว่างหาเสียงแล้วก็ได้พูดคุยกัน คุณอ๊อฟเป็นคนที่ตั้งใจทำงานและเป็นคนที่ลงพื้นที่ตลอด ผมดีใจกับคนจตุจักร-หลักสี่มากๆ ที่ได้ผู้แทนฯ อย่างคุณอ๊อฟจริงๆ ครับ”

ทางด้านว่าที่ ส.ส.ใหม่ อย่างสุรชาติก็กล่าวถึงเพชร ระหว่างแถลงประกาศชัยชนะ ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ว่า

“การที่ได้เสนอตัวเป็นหนึ่งในตัวเลือกให้กับพี่น้องประชาชนท่ามกลางผู้สมัครที่มีคุณภาพจากทุกพรรคการเมือง ผมรู้สึกว่ามันเป็นเกียรติสำหรับผมมาก โดยเฉพาะพี่เพชร กรุณพล และพรรคก้าวไกล ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เรามีแต่น้ำใจไมตรีกันมาโดยตลอดนะครับ”

“แล้วก็ขอให้ชัยชนะของผมครั้งนี้ถือว่าเป็นชัยชนะที่เราชนะไปด้วยกัน”