แมลงวันในไร่ส้ม/ฮือฮา ครม.บุกโคราช ทำเนียบแจ้ง “ทีวี” เกาะติด รมต.รายช่อง

แมลงวันในไร่ส้ม

ฮือฮา ครม.บุกโคราช ทำเนียบแจ้ง “ทีวี” เกาะติด รมต.รายช่อง

รัฐบาลยกขบวนไปประชุม ครม.สัญจรที่นครราชสีมา เมื่อวันที่ 21-22 สิงหาคม พร้อมกับตารางตรวจงานถี่ยิบ

ก่อนเดินทาง ปรากฏว่ามีข่าวเกรียวกราว เมื่อมีการเปิดเผยว่า กรมประชาสัมพันธ์ได้ส่งถึงบรรณาธิการสื่อมวลชนทุกแขนง เชิญประชุมเตรียมการจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ เพื่อให้การรายงานข้อมูลข่าวสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเข้าถึงประชาชน ในวันพุธที่ 16 สิงหาคม ณ ห้องประชุม 1 อาคารหอประชุม กรมประชาสัมพันธ์

และในการประชุม พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ได้ขอความร่วมมือว่า ทรัพยากรของกรมประชาสัมพันธ์มีจำกัด ขณะที่ ครม. ลงพื้นที่พรืดทั้ง 20 กระทรวง ถ้าสื่อตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปหมด นายกฯ จะกลายเป็นวันแมนโชว์ รัฐมนตรีทำอะไรแก้ไขปัญหาอะไรในพื้นที่ จะไม่เกิดข้อมูลข่าวสาร จึงอยากให้แต่ละช่องเลือกเป้าหมายของตัวเองว่าต้องการเกาะกับรัฐมนตรีคนไหน ในพื้นที่ตรงไหน

จากนั้น NBT จะจัดทำรายการพิเศษ ในวันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม ช่วงบ่าย หรืออาจจะเป็นวันอื่นสุดแล้วแต่ ซึ่งจะไปตกลงกันในรายละเอียด ให้แต่ละช่องที่ไปเกาะติดรัฐมนตรี รายงานพิเศษกลับมายังช่อง NBT โดยใช้ไมโครโฟนของแต่ละช่อง จะเป็นตราสัญลักษณ์ช่องไหนก็ได้ เพื่อเปิดศักราชใหม่ของความเป็นสื่อ

และมีการเผยแพร่ตารางการทำข่าว อาทิ Nation TV ทำข่าว นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ที่จะลงไปติดตามดูโครงการนำร่องเพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบสำหรับผู้มีรายได้น้อย ที่ จ.นครราชสีมา

ช่อง 3 ติดตาม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่จะลงไปติดตามดูโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูบึงสระจระเข้ และการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ภัยแล้ง ที่ จ.นครราชสีมา และ จ.บุรีรัมย์

ช่อง 7 ติดตาม นางอรรชกา ศรีบุญเรือง รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่จะลงไปติดตามโครงการการบริหารจัดการน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ ที่ จ.ขอนแก่น, ช่อง MONO29 ทำข่าวการลงพื้นที่ของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่จะลงไปตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของวิสาหกิจชุมชน ที่ จ.ร้อยเอ็ด ฯลฯ

ผลจากการกำหนดดังกล่าว ทำให้สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออกแถลงการณ์หัวข้อ “สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ยืนยันหน้าที่สื่อเพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่ใช่ประชาสัมพันธ์รัฐบาล” ระบุว่า

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เห็นว่าเรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นการแทรกแซงการทำงานของสื่อมวลชน และเป็นการไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง ที่สื่อมวลชนจะต้องปฏิบัติหน้าที่ภายใต้คำสั่งและการควบคุมของรัฐบาล เพราะสื่อมวลชนไม่ได้มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์ผลงานให้รัฐบาลหรือคณะรัฐมนตรีท่านใดทั้งสิ้น แต่หน้าที่ของสื่อมวลชนคือนำเสนอข้อมูลข่าวสารเพื่อประโยชน์ของสาธารณะ

สมาคมขอแสดงความกังวลต่อการกระทำดังกล่าวของอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ว่าอาจเป็นการคุกคามและแทรกแซงสื่อ และไม่เห็นด้วยกับการขอความร่วมมือให้สื่อมวลชนลงพื้นที่ปฏิบัติติดตามนำเสนอข่าวและผลิตสกู๊ปพิเศษให้กับรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่แต่ละท่าน ตามที่ทางอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือมา

คอมเมนต์จากอดีตโฆษกรัฐบาล อาทิ น.ต.ศิธา ทิวารี ระบุว่า สื่อมีหน้าที่นำเสนอข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนอยู่แล้ว และแต่ละสำนักข่าวจะพิจารณาว่าเมื่อเสนอข่าวไปแล้ว ประชาชนจะสนใจบริโภคข่าวสารนั้นหรือไม่ ถ้าเป็นข่าวที่น่าสนใจ ไม่ต้องเอาเงินมาจ้างหรือบีบบังคับ ลงข่าวให้เต็มที่อยู่แล้ว การที่รัฐบาลตำหนิไม่ค่อยเสนอข่าวผลงานรัฐบาล น่าจะกลับไปดูเนื้อของผลงานเป็นที่น่าพอใจของประชาชนหรือเปล่า

การที่นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ระบุสื่อไม่มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้รัฐบาล แต่มีหน้าที่ทำประโยชน์สาธารณะนั้น ถือว่าถูกต้องแล้ว พูดตรงๆ สื่อไม่ได้กินเงินเดือนรัฐบาลในการมาทำหน้าที่พีอาร์ตรงนี้ ถ้าเกิดข่าวมีข้อมูลที่น่าสนใจ สื่อก็ไปทำข่าวโดยธรรมชาติอยู่แล้ว

“ถ้ารัฐบาลมี ครม. ที่มีความสามารถ มีนายกฯ ที่นำการบริหารประเทศนี้ นำกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ผลักดันเนื้องานให้กับประชาชน ทุกคนจะเฝ้าคอยติดตามว่าเมื่อไหร่กิจกรรมจะคืบหน้า จะสำเร็จ รอด้วยใจจดใจจ่อ ตรงนั้นไม่จำเป็นเพิ่มงบฯ หรือทำอะไรเลย ถ้าเกิดเรารู้สึกว่าพี่น้องสื่อมวลชนไม่สนใจทำข่าว เราต้องย้อนกลับมาดูผลงานของเราเอง” อดีตโฆษกรัฐบาล กล่าว

อีกคนคือ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯ และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ปกติเวลาที่นายกฯ หรือรัฐมนตรีจะไปงานที่ไหน กองงานโฆษกจะส่งกำหนดการไปยังสื่อ ขณะที่สื่อต้องการเจาะลึกเรื่องไหนก็จะเพิ่มทีมงานไปเจาะลึก ทำข่าวอะไรต่างๆ ออกมาสม่ำเสมอ แต่ตรงนี้ตนไม่รู้ว่า พล.ท.สรรเสริญทำอย่างไร จริงๆ สื่ออยากได้ข่าวจะตายไป ไม่ต้องไปบังคับเขาก็ไปอยู่แล้ว

สำหรับผลงานรัฐบาลตลอด 3 ปี ต้องยอมรับว่ามี แต่เวลาประชาสัมพันธ์ ต้องมีการนำเสนอที่ดี รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งพยายามทำให้คนรับรู้การทำงาน เพราะเกี่ยวพันผลการเลือกตั้งต่อไปในอนาคต ส่วนรัฐบาลนี้อาจถือว่ายังไงมาเป็นรัฐบาล เขาจะพูดอยู่เรื่อยว่าเขาไม่ใช่นักการเมือง ไม่ต้องหาเสียง เลยทำให้งานขาดความสนใจ และกระบวนการติดตามการทำงานของสื่อไม่มี ในการได้ข้อมูลเชิงลึก

“ดูได้อย่างแต่ละกระทรวง บางคนใครเป็นรัฐมนตรียังไม่รู้จักชื่อเลย บางกระทรวงไม่เคยเห็นหน้าเลย ต่างกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่แย่งกันออกมาเป็นข่าว มีอะไรนิดก็นำเสนอ มันก็ต่างตรงนี้แหละ” นายสมศักดิ์กล่าว

เมื่อถามว่าช่วงที่นับถอยหลังเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง มีข้อสังเกตว่า รัฐบาลเร่งประชาสัมพันธ์ผลงานหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า 3 ปีที่ผ่านมารัฐบาลพยายามบอกจะคืนความสุข จะทำโน่นทำนี้ แล้วคนไม่เห็น จึงเกรงว่าเมื่อพ้นอำนาจไปจะถูกวิจารณ์ว่า 3-4 ปีที่เข้ามาบริหารไม่เสียของทางการเมือง แต่เสียของในเชิงการบริหารประเทศ ทำให้ประชาชนเสียโอกาส อันนี้เขาเรียกว่าเสียของ

การที่รัฐบาล คสช. มีรายการที่นำเสนออยู่ทุกวันก็จริง แต่การนำเสนอต่างกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เหมือนงานรูทีน ที่พอเปิดเจอนายกฯ เปลี่ยนช่องแล้ว แต่คงไม่กล้าบอกว่าล้มเหลวเรื่องการประชาสัมพันธ์

ครม.สัญจรครั้งนี้ประสบความสำเร็จแค่ไหนต้องรอวัดผล ที่แน่ๆ การขอความร่วมมือจากทีวีรายช่อง กลายเป็นข่าวใหญ่ไปแล้ว