พยากรณ์ดวงชะตาโลก และดวงประเทศไทย พ.ศ.2565/บทความพิเศษ ภัณธิภร วงษ์จันทร์เพ็ญ(ฉบับประจำวันที่ 31 ธ.ค.-6 ม.ค. 2565 ฉบับที่ 2159)

บทความพิเศษ

ภัณธิภร วงษ์จันทร์เพ็ญ

email : [email protected]

Facebook : Classical and Uranian Astrology Thailand

วรเชษฐ์ ตียเกษม ที่ปรึกษา

 

พยากรณ์ดวงชะตาโลก

และดวงประเทศไทย พ.ศ.2565

 

พยากรณ์ดวงชะตาโลกและดวงประเทศไทยโดยภาพรวม พ.ศ.2565 ดวงวันเหมายัน (Winter Solstice) ตรงกับวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2564 เวลา 22:59:08 น. ตามเวลามาตรฐานประเทศไทย 105 องศาตะวันออก ดวงอาทิตย์สถิตราศีมกร 00 องศา 00 ลิปดา 00 ฟิลิปดา (ภาพจากโปรแกรม Solar Fire)

ตลอดปี 2564 โลกเผชิญกับภาวะวิกฤตโควิด-19 การต่อสู้กับโรคระบาดในครั้งใหญ่นี้สร้างความแตกต่างและเกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างประเทศที่ร่ำรวยและยากจนอย่างเห็นได้ชัดเจน

ประเทศมหาอำนาจจะครอบครองประเทศด้อยพัฒนา ราวกับปลาใหญ่กินปลาเล็ก เกิดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเพื่อนำมาแก้ปัญหาโรคระบาดทั่วโลก

แต่ในด้านดีชะตาโลกกำลังจะเกิดการจัดระเบียบและปรับเปลี่ยนไปในทิศทางใหม่เพื่อความอยู่รอดในรูปแบบวิถีชีวิตใหม่และเกิดความระมัดระวังในวิกฤตอื่นๆ ที่จะเป็นผลพวงของวิกฤตโควิด-19 ที่จะตามมาในปีหน้า

ดวงชะตาโลก

ปี2565 ชะตาโลกนำไปสู่การจัดระเบียบใหม่ การสร้างกฎเกณฑ์และมาตรฐานในการดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เกิดภาวะการแก่งแย่ง ขณะเดียวกันเกิดความร่วมมือภายใต้การหาผลประโยชน์ทุกรูปแบบ

แต่ละประเทศจะเกิดการรวมกลุ่มย่อยๆ เพื่อพึ่งพากันในด้านผลประโยชน์ต่างตอบแทน

รูปแบบการใช้ชีวิตของคนทั่วโลกจะเปลี่ยนไป ที่จะเห็นได้ชัดเจนคือ การเดินทาง การท่องเที่ยว การทำงาน และระบบการเงิน โดยนำไอทีและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วย

นับจากนี้ไปทั่วโลกจะเห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในหน้าประวัติศาสตร์ใดๆ

เหตุการณ์ต่างๆ ทั่วโลกกำลังจะเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ประเทศจีนจะเป็นมหาอำนาจที่มีศักยภาพโดดเด่นทั้งด้านความมั่งคั่ง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและเทคโนโลยี ด้วยแนวความคิดที่ลึกล้ำและความเข้มแข็งของผู้นำและคนในชาติ

จีนกำลังสร้างเครือข่ายที่เข็มแข็งและมั่นคงด้วยการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ต่างตอบแทน

ทั้งสหรัฐและจีนจะขับเคี่ยวความเป็นประเทศมหาอำนาจ ผลักดันนโยบายตลาดเสรีต่างๆ มากมายเพื่อให้แก่คนรวย

ความเป็นไปหลังเกิดวิกฤตโควิด-19 นี้ สะท้อนความไม่เท่าเทียมและนโยบายสาธารณะอันเอื้อประโยชน์ต่อคนรวยจำนวนน้อยนิดในหลายๆ ประเทศทั่วโลกเป็นอย่างดี

ระวังภัยพิบัติธรรมชาติ ภาวะโลกร้อนจะเริ่มรุนแรงส่งผลต่อความแปรปรวน เกิดไฟไหม้ป่า น้ำท่วม ดินถล่ม พายุคลื่นลมร้อน ความวิปริตของสภาพอากาศในรูปแบบต่างๆ การเกิดสงคราม การรัฐประหาร การโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย

การล่มสลายของตลาดเงินและตลาดทุนแบบเดิมๆ โดยเงินดิจิตอลจะเข้ามามีบทบาทต่อภาคเศรษฐกิจ มีการตักตวงผลประโยชน์สาธารณะจนไร้ทิศทางความยุติธรรม หลังจากทั่วโลกเผชิญกับวิกฤกตโควิด-19 อย่างสาหัสที่เป็นผลมาจากความเหลื่อมล้ำและขาดแคลนเงินทุนและทรัพยากรในการดำเนินชีวิต

ปีหน้าจะเริ่มมียาและเวชภัณฑ์ต่างๆ ที่ออกมาต้านโควิด-19 ที่ได้ผลกับเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่เกิดการกลายพันธุ์ใหม่ๆ เทคโนโลยีด้านการแพทย์โดยเฉพาะการควบคุมไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่จะกลายพันธุ์โดยเฉพาะโอไมครอน จะถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วและนำมาฉีดให้คน

บทเรียนวิกฤตโควิด-19 คราวนี้จะนำไปสู่ความก้าวหน้าและเทคโนโลยีทางการแพทย์อย่างลึกล้ำ

วิกฤตการเงินโลกปี 2565 เกิดขึ้นเป็นผลกระทบต่อเนื่องจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้บริษัทต่างๆ กอบกู้ธุรกิจด้วยการควบรวมผนึกความแข็งแกร่ง เงินดิจิตอลจะมาแรง มีการโฆษณาชวนเชื่อมากขึ้น คนโลภต้องระวังตกหลุมพราง เงินสกุลนี้ เริ่มมีการใช้ในหลายประเทศทั่วโลก สร้างกระแสความเปลี่ยนแปลงในการใช้จ่าย ช้อปปิ้ง โดยเน้นไปที่การสร้างความน่าลงทุนเพื่อเกิดการสร้างมูลค่าในอนาคต แต่จะเกิดผลสำเร็จเพียงแค่บางธุรกิจที่มีความมั่นคงเท่านั้น

ปัญหาใหญ่ของโลกในรอบปีหน้า คือการรับมือกับโควิด-19 ระงับการกลายพันธุ์และการจัดการให้กลายเป็นโรคประจำถิ่น เพื่อบริหารการจัดการภายในประเทศและการเตรียมพร้อมเพื่อเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การหาแหล่งเงินทุนและทรัพยากรธรรมชาติที่จะสร้างมูลค่าเป็นความโชคดีของบางประเทศเท่านั้น

ตลอดทั้งปี 2565 เป็นการที่ทั่วโลกจะพยายามระงับและควบคุมวิกฤตโควิด-19 ให้ได้และกลับมาใช้ชีวิตใหม่แบบกติโดยเร็วที่สุด

 

ดวงชะตาไทย

ดวงชะตาประเทศไทยรอบปี 2565 วิกฤตโควิด-19 ยังเป็นปัญหาใหญ่ที่สำคัญต้องเร่งแก้ไขด่วน รัฐต้องจัดการแก้ไขปัญหาให้ได้ผลจริง ไทยยังได้รับผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การเดินทางอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลควรปิดประเทศงดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจนกว่าจะควบคุมปัญหาโควิด-19 ในประเทศให้ได้ พร้อมกับการฉีดวัคซีนวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้มากที่สุด จนเกิดความมั่นใจที่คนในประเทศสามารถดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพได้ตามปกติ

โควิด-19 ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจไทยนำไปสู่วิกฤตการณ์การเงินของคนจำนวนมากทั่วประเทศ คนจนจะมากขึ้น ช่องว่างความแตกต่างระหว่างคนจนคนรวยเห็นได้ชัดเจน

มีคนและกลุ่มธุรกิจเพียงเล็กน้อย สามารถสร้างรายได้ต่อยอดการลงทุนมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เกิดการต่อยอดและแตกไลน์การเกิดธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ สร้างความมั่นคงต่อเสถียรภาพทางธุรกิจ

ช่วงครึ่งปีแรกไทยจะคุมเข้มในการแก้ไขวิกฤตโควิด-19 เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัว ธุรกิจใหญ่ที่แข็งแกร่งจะเกิดการบิ๊กดีลควบรวมกิจการมากยิ่งขึ้น เกิดการผูกขาดทำให้รัฐต้องเร่งเข้ามาจัดการสร้างกฎระเบียบและจัดทำเป็นข้อกฎหมายให้ครอบคลุมเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างการเอาเปรียบและตักตวงผลประโยชน์

ครึ่งปีหลังรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เดินหน้าเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะเริ่มควบคุมได้เป็นผลจากการฉีดวัคซีนกระตุ้นและเริ่มใช้ยารักษาโควิด-19

แนวโน้มปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวมาจากการลงทุนภาคเอกชนและรัฐ การส่งออก

ส่วนธุรกิจขนาดเล็กที่เคยปิดตัวไปก็จะเกิดธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ ส่งผลต่อการขาดแคลนแรงงานไทยที่มีทักษะและเชี่ยวชาญ แรงงานต่างด้าวจะเข้ามาทดแทนปัญหาด้านแรงงานก็จะเกิดผลเสียเป็นลูกโซ่เช่นเดิม

ธุรกิจโรงแรมจะเป็นกิจการที่มีการฟื้นตัวหลังจากโควิด-19 เปลี่ยนรูปแบบการท่องเที่ยวเน้นอนุรักษ์ ส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวชุมชนในไทยมากขึ้น

แรงงานไทยคนจำนวนมากตกงานเป็นผลมาจากธุรกิจขนาดเล็ก และกลาง รวมถึงธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องปิดกิจการลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงวิกฤตโควิด-19 คนไทยเลือกงานและต้องการรายได้ที่ดี เกิดการขาดแคลนแรงงาน นายจ้าง ผู้ประกอบการต้องพึ่งพาแรงงานข้ามชาติจากประเทศเพื่อนบ้านค่าแรงถูกกว่า มีทั้งถูกกฎหมายและแรงงานเถื่อน

ปัญหาหนี้ครัวเรือน หนี้บุคคล หนี้ธุรกิจ ภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยอย่างหนักจนไม่สามารถทนกับมาตรการที่เข้มงวดต่อไปได้

ในมุมหนี้สินของประเทศ รัฐบาลกู้ยืมมาเพราะงบประมาณรายจ่ายเกินกว่ารายรับที่เก็บได้ มาตรการการป้องกันการระบาดที่มีมาตรการจำกัดการใช้ชีวิตของผู้คนมากเท่าไร โอกาสที่ต้องกู้เงินมาเยียวยายิ่งมาก เพราะคนทำมาหากินได้ไม่ปกติ จึงเป็นความสมดุลที่ท้าทาย

รัฐบาลถึงขีดสุดที่จะต้องยอมเสี่ยงเพื่อฟื้นฟูการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพรัฐบาลด้วยการแจกเงินเพื่อเยียวยา ในที่สุดประเทศจะเป็นหนี้มากขึ้น

 

ด้านการเมืองจะเห็นความแตกแยก ระส่ำระสายชัดเจนขึ้น การแบ่งขั้วและการรวมตัวเพื่อเกิดขั้วการเมืองใหม่ๆ เพื่อเตรียมสู่สนามเลือกตั้งในระดับต่างๆ จะมีความเข้มข้นยิ่งขึ้น

มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำ ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลอันจะนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่

ทั้งนี้ ฝ่ายที่มีอำนาจจะพยายามยื้อเพื่อซื้อเวลาให้นานที่สุดแต่ความคลอนแคลนและรอยร้าวก็จะสร้างความแตกแยก อันจะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงในไม่ช้า

ฝ่ายค้านเตรียมวางกลยุทธ์ การบริหารงานที่ผิดพลาดของฝ่ายรัฐบาลจนทำให้เศรษฐกิจเสียหาย การแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน การลิดรอนสิทธิเสรีภาพ

แต่รัฐบาลยังอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ต่อให้ฝ่ายค้านจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อตรวจสอบฟักฟอกอย่างเข้มข้น ก็คงเอาไม่ลงเพราะจำนวนเสียงของฝ่ายรัฐบาลเหนือกว่า

ดังนั้น ความเปลี่ยนแปลงต่างๆ จะมาจากภายในของฝ่ายที่มีอำนาจเอง เพราะภายในพรรคมีปัญหาความไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

มีการเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ ยิ่งฝ่ายผู้มีอำนาจแสดงความไม่ชอบธรรม รุนแรง ขัดต่อหลักการ ไร้เหตุผล ปัญหายิ่งจะวิกฤตเกิดการชุมนุมประท้วงจากกลุ่มคนที่คิดต่าง สุ่มเสี่ยง รัฐสภาควรผ่อนคลายแรงเสียดทาน อย่าขัดต่อข้อเรียกร้องของประชาชน การปฏิเสธความเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย จะนำมาซึ่งความต่อต้าน

ระบบปัญหาใหญ่วงการการศึกษาไทย มีนักเรียนหลุดออกจากระบบจำนวนมาก ในปีหน้ายิ่งจะเพิ่มขึ้น การติดตามค้นหาให้กลับเข้าสู่ระบบยังไม่สามารถทำได้มากนัก เพราะพิษเศรษฐกิจและหนี้ครัวเรือนของประชาชนที่ยากจน ปีหน้าเด็กนักเรียนยิ่งจะหลุดออกจากระบบการเรียนแบบออนไลน์มากขึ้น

ด้านวงการสงฆ์ก่อให้เกิดวิกฤตศรัทธาและสังคมเกิดข้อถกเถียงถึงความเหมาะสม ระวังสถานการณ์สงฆ์เพียงน้อยนิดแต่ส่งผลต่อวิกฤตศรัทธาในภาพรวม

ในรอบปีหน้าจะยังมีปัญหาน้ำท่วมและความแปรปรวนสภาพอากาศเกิดขึ้น บริเวณที่เคยเกิดปัญหาแล้วต้องเร่งจัดการแก้ไข

ภาคเกษตรไทยยังประสบปัญหาราคาพืชผลและรูปแบบการจัดจำหน่ายเพื่อให้เกิดการเพิ่มมูลค่า ควรหาเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาควบคุมและใช้ในภาคการเกษตรไทย

 

วิกฤตต้องระวังในปี 2565

ภาคการท่องเที่ยวและการบริการ และการลงทุน ใน 2 ปีที่ผ่านมาช่วงวิกฤตโควิด-19 เศรษฐกิจล้มลุกคลุกคลาน นักลงทุนต่างชาติไม่สามารถเข้ามาทำการค้าได้อย่างปกติ มีการเบนเข็มไปลงทุนและย้ายฐานการผลิตจากไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

รัฐต้องปรับวิธีพลิกฟื้นเศรษฐกิจในประเทศจากเดิมที่ไทยพึ่งพาภาคการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุนในไทย การลงทุนของภาครัฐเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง

ระวังเหตุไม่คาดคิด การควบคุมการระบาดโควิด-19 เศรษฐกิจตกต่ำ คนตกงาน ภาคการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้น ภาคธุรกิจอื่นๆ ต้องอยู่ในความเสี่ยงตามไปด้วย การลงทุนทำให้เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจภายในประเทศ เป็นการประคองการจ้างงานในหลายๆ อุตสาหกรรม

การพลิกฟื้นเศรษฐกิจต้องค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละน้อยๆ การอัดฉีดเงิน มาตรการการแจกเงินฟรีๆ ของภาครัฐเป็นมาตรการความช่วยเหลือได้ในระยะสั้นๆ เท่านั้น รัฐควรหาสิ่งที่จะรองรับในระยะยาว ประคองตัวอยู่ได้ทั้งธุรกิจและประชาชน แม้ว่าโควิด-19 ยังคงอยู่การแพร่ระบาดยังไม่หมดไป

ทั้งหมดนี้รัฐต้องลงมือแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ทำจริง ทำไว ก่อนที่ประชาชนจะทนพิษเชื้อโรคร้ายไม่ไหว เตือนภัย อย่าไว้ใจโควิด-19 แม้ว่าคนเริ่มเข้าใจสถานการณ์ มีเทศกาลวันหยุดยาว มีการเดินทางระวังการระบาดหนักกว่าเดิม

ต้องใช้เวลาในการต่อสู้กอบกู้เพื่อฟื้นตัวกลับสู่ปกติโดยเร็ว