ภาพยนตร์/THE DARK TOWER “โลกซ้อนโลก”

นพมาส แววหงส์

ภาพยนตร์/นพมาส แววหงส์

THE DARK TOWER “โลกซ้อนโลก”

กำกับการแสดง Nikolaj Arcel

นำแสดง Matthew McConaughey, Idris Elba, Tom Taylor, Dennis Haysbert

หอคอยดำทะมึนตั้งตระหง่านอยู่ ณ ศูนย์กลางจักรวาล ที่มีโลกหลายมิติซ้อนกันอยู่ หอคอยนี้คอยพิทักษ์ปกป้องทุกสิ่งทุกอย่าง จากอำนาจมืดอันชั่วร้ายที่ต้องการครอบครองจักรวาล

มีแต่พลังจิตของเด็กเท่านั้นที่มีอำนาจพอจะโค่นล้มหอคอยนี้ลงได้

และเมื่อนั้น ความมืดและไฟนรก ก็จะเข้าครอบครองเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

“ชายในชุดดำ” หรือ “ผู้วิเศษ” ในชื่อว่า วอลเตอร์ โอดิม บัญชาการให้เหล่าลูกน้องผู้ชั่วช้าหาตัวเด็กที่มีพลังจิตแกร่งกล้า มาพุ่งพลังไปทำลายหอคอยนั้นให้สิ้นซาก

และความพยายามทำลายหอคอยก็ดำเนินอยู่เรื่อยๆ

ฝ่ายอธรรมสืบเสาะค้นหาเด็กที่มีพลังจิตแก่กล้า ตามที่หนังเรียกว่า “ฌาน” (แปลอย่างเก๋ไก๋มาจากคำว่า shine จากนิยายดั้งเดิมของ สตีเฟ่น คิง เจ้าพ่อแห่งนิยายสยองขวัญ ซึ่งเป็นที่มาของหนังเรื่องนี้ เพื่อนำไปเข้าเครื่องสกัดพลังจิตส่งไปทำลายหอคอย)

ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่หยุดไม่หย่อน

ผลที่ตามมาก็คือเกิดแรงสั่นสะเทือนบนโลกมนุษย์ อย่างที่เราเรียกว่าแผ่นดินไหว รุนแรงมากขึ้นทุกทีๆ

เด็กชายผู้เป็นตัวเอกดำเนินเรื่อง ชื่อ เจค เชมเบอร์ส (ทอม เทย์เลอร์) สูญเสียพ่อไปในกองเพลิงจากการทำงานเป็นนักดับเพลิง และแฟนใหม่ของแม่คอยยุยงให้กำจัดเขาไปให้พ้นทางด้วยการส่งตัวไปรักษาตัวในโรงพยาบาลจิตเวช

เนื่องจากเจคแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวที่โรงเรียน อยู่บ้านก็เอาแต่หมกมุ่นกับการวาดภาพอันน่ากลัวต่างๆ ซ้ำๆ ซากๆ และมีทีท่าว่าจะเป็นเด็กมีปัญหา ที่ต้องการการรักษาเยียวยาอย่างจริงจังมากกว่าการบำบัดจิตจากการพบจิตแพทย์เท่าที่ทำอยู่

มิไยที่เจคจะทักท้วงคัดค้านว่าเขาไม่ได้เสียสติ แต่ภาพที่เขาวาดนั้นได้มาจากความฝันอันพิสดาร ณ ที่ซึ่งเขาหลุดเข้าไปอยู่ในโลกอีกโลก

โลกนั้นมีชายผู้โดดเดี่ยวชื่อ โรลันด์ (ไอดริส เอลบา) ฉายา “มือปืน” (Gunslinger) กับชายในชุดดำ ฉายา “ผู้วิเศษ” (แมตธิว แม็กคอนอเฮย์) ต่อกรฟาดฟันกัน ชายในชุดดำฆ่าพ่อของโรลันด์ตาย แต่ไม่สามารถใช้อำนาจวิเศษทำอะไรเขาได้ ทำให้โรลันด์เคียดแค้นและมุ่งมั่นตามล่าชายในชุดดำ

ปรากฏว่าโรลันด์ คือ “กันสลิงเกอร์” คนสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ใน “พิภพกลาง” เพื่อต่อกรกับอำนาจมืดของผู้วิเศษที่มุ่งร้ายหมายขวัญจะทำลายหอคอยเพื่อครอบครองจักรวาล

และเจคเป็นเด็กผู้มีพลังจิตหรือ “ฌาน” แกร่งกล้าที่สุดที่ผู้วิเศษกำลังตามหาตัวอยู่ ดังนั้น เรื่องราวของหนังจึงเป็นการไล่ล่า การหนีหัวซุกหัวซุนผ่านประตูมิติของโลกต่างๆ

โดยเฉพาะนิวยอร์กซึ่งเป็นบ้านของเจคบนโลกที่เราอยู่นี้ ซึ่งในหนังเรียกว่า Keystone Earth ซึ่งแปลว่าเป็นพิภพหลักที่ยึดทุกพิภพไว้ด้วยกัน

กับ “มิดเวิลด์” หรือโลกตรงกลาง ซึ่งเป็นที่มั่นของโรลันด์ มือปืนคนสุดท้าย ซึ่งติดตามจองล้างจองผลาญกับชายในชุดดำ

ลิ่วล้อของชายในชุดดำ คือพวกทาฮีน ซึ่งแปลงโฉมมาในร่างมนุษย์ แต่จะแยกความแตกต่างได้จากรอยตะเข็บบางๆ ที่ผิวหนัง เนื่องจากนี่ไม่ใช่รูปร่างหน้าตาที่แท้จริง แต่เป็นผิวหนังปลอมที่ใช้ห่อหุ้มร่างอันน่าเกลียดน่ากลัวข้างใน

ทั้งหมดนี้มาจากปลายปากกาของนักเขียนนิยายสยองขวัญ สตีเฟ่น คิง ผู้โด่งดัง ซึ่งเขียนนิยายชุดนี้ไว้ในช่วง ค.ศ.1982-2004 เป็นหนังสือแปดเล่ม

ซึ่งเริ่มจากการต่อสู้ของ โรลันด์ เดส์แชง กับ วอลเตอร์ โอดิม และความพยายามทำลายล้างหอคอยทะมึน อันเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล

หนังย่อเรื่องอันยืดยาวหลายพันหน้ากระดาษมาเป็นหนังความยาวไม่ถึงสองชั่วโมง และตัดองค์ประกอบรวมทั้งตัวละครหลายหลากลงเหลือเพียงตัวหลักๆ สามคน นอกนั้นโผล่หน้าเพียงว่อบแว่บ

ตลอดไปจนถึงที่สุดของที่สุด เมื่อคนทั้งสามนี้มาลงเอยในฉากเดียวกัน ซึ่งเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย

ผู้เขียนไม่ได้อ่านนิยายชุดนี้ของ สตีเฟ่น คิง ก็เลยบอกไม่ได้ว่าหนังสือสนุกกว่าหนังมากแค่ไหน แต่เชื่อว่าน่าจะสนุกมากจากการมีแฟนคลับไปทั่วโลกที่คอยติดตามอ่านและเฝ้านับวันรอดูหนัง ซึ่งก็คล้ายกับปฏิกิริยาของคนที่ติดใจอ่านหนังสือทั่วไป คือมักจะผิดหวังกับหนังที่ย่นย่อเรื่องราวให้สั้นจุนจู๋ และขาดรายละเอียดของภูมิหลังตัวละคร

แต่ดูจากหนังล้วนๆ ก็เป็นหนังที่ดูได้นะคะ

ไม่ว่าจะเป็นโปรดักชั่นดีไซน์ของโลกแฟนตาซีไซไฟแบบหนังเคาบอยตะวันตก ซึ่งฝ่ายพระเอกยังคงต่อสู้ด้วยการใช้ปืน

ความคิดเรื่องการใช้จิตควบคุมสรรพสิ่ง ตามคติพจน์ประจำใจที่มือปืนท่องอยู่เป็นประจำว่า

“ข้าไม่เล็งด้วยมือ คนที่เล็งด้วยมือนั้นลืมใบหน้าของพ่อไปแล้ว ข้าเล็งด้วยตา…

ข้าไม่ยิงด้วยมือ คนที่ยิงด้วยมือนั้นลืมใบหน้าของพ่อไปแล้ว ข้ายิงด้วยจิต…

ข้าไม่ฆ่าด้วยปืน คนที่ฆ่าด้วยปืนนั้นลืมใบหน้าของพ่อไปแล้ว ข้าฆ่าด้วยใจ”

หรือนักแสดงที่สวมบทบาทอย่างได้ใจ ผู้ร้ายที่อำมหิตแบบเยือกเย็นและไม่แยแสกับใคร ต้องการกำจัดใครให้พ้นทางไป ก็เพียงแต่ใช้เวทมนตร์สั่งการลอยๆ ว่า “หยุดหายใจ” “ฆ่ากันเองให้หมด” ฯลฯ

และยังคงรักษาสัญลักษณ์ประจำงานเขียนของ สตีเฟ่น คิง ที่กำหนดให้เด็กมีพลังอำนาจยิ่งใหญ่ที่สุดที่จะต่อกรกับอำนาจชั่วร้ายทั้งหลายทั้งปวงในจักรวาล

ท่ามกลางเสียงวิจารณ์เชิงลบมากมาย ซึ่งน่าจะมาจากพวกแฟนพันธุ์แท้ที่ผิดหวังกับการเล่าเรื่องแบบย่นย่อแบบม้วนเดียวจบ หนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอกค่ะ สนุกพอใช้ มีองค์ประกอบที่น่าติดตามไปจนตลอด แม้จะยังมีอะไรให้ติติงอางขนางอยู่หลายข้อ

ดูได้ค่ะ ดีเสียอีกที่ไม่ต้องคอยติดตามเป็นไตรภาค จตุภาค เบญจภาค ฯลฯ ให้เยิ่นเย้อยืดยาวไม่สิ้นสุด