ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 ธันวาคม 2564 |
---|---|
คอลัมน์ | หลังลับแลมีอรุณรุ่ง |
ผู้เขียน | ธงทอง จันทรางศุ |
เผยแพร่ |
กว่ามติชนสุดสัปดาห์เล่มนี้จะอยู่ในมือท่านผู้อ่าน วันขึ้นปีใหม่พุทธศักราช 2565 ก็ใกล้จะมาเคาะประตูอยู่หน้าบ้านแล้ว
เวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน
เฉพาะคอลัมน์ “หลังลับแลมีอรุณรุ่ง” นี้ เราก็อยู่เป็นเพื่อนร่วมทางกันมาครบสามปีเต็มแล้วครับ
วันนี้มีเวลาว่างพอ เรามาทบทวนกันบ้างไหมครับว่าสามปีที่ผ่านมามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในชีวิตของเราทั้งปวง รวมทั้งส่วนตัวของผมเองด้วย
เผื่อจะได้ข้อเตือนใจอะไรขึ้นมาบ้าง
เรื่องแรกที่ผมเชื่อว่าทุกคนจะนึกตรงกัน คือสองปีเต็มที่ผ่านมาเราอยู่กับโลกที่ถูกโรคระบาดโควิด-19 เข้าครอบงำ
สำหรับผมเองที่เห็นเป็นรูปธรรมมากที่สุดคือการเดินทางไปต่างประเทศ ที่เคยสามารถเดินทางไปธุระปะปังบ้างหรือไปเที่ยวบ้าง ล่าสุดที่ผมเดินทางไปต่างประเทศ คือการไปธุระราชการแบบค้างคืนเดียวที่นครย่างกุ้ง ประเทศพม่า ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563 หรือถอยหลังไปอีกหน่อยหนึ่งก็คือการไปเที่ยวรัฐราชสถานประเทศอินเดียกับหมู่เพื่อนสามสิบคน ตอนกลางเดือนมกราคมปีเดียวกัน
เวลานั้นเจ้าโรคที่ว่านี้ปรากฏตัวขึ้นแล้วที่เมืองอู่ฮั่นในเมืองจีน แต่ผมก็ยังเดินทางได้เพราะยังงงงวยกันอยู่ทั้งโลก ว่าจะเอาไงดี
ผมกลับมาจากพม่าแล้วโลกจึงประจักษ์ว่าสถานการณ์เลวร้ายกว่าที่คิด ธุรกิจการบินที่กำลังเฟื่องฟูกลายเป็นอัมพาต การเดินทางไปต่างประเทศของผมจึงต้องระงับมาจนถึงวันนี้ และท่าทางเรื่องจะยังยาวยืดอยู่อีกนาน ถ้าไม่จำเป็นเขาก็ไม่ให้ไปไหนครับ
แก่แล้วต้องเจียม
ชีวิตของเราทุกวันนี้วนเวียนอยู่กับคำสองสามคำ ถ้าไม่พูดถึงวัคซีน ก็หน้ากากอนามัย ถ้าไม่หน้ากากอนามัย ก็เดลต้า โอไมครอน
ด้วยสาเหตุแรกเริ่มจากโรคโควิด-19 นี้ นอกจากเดินทางไปไหนมาไหนไม่ได้แล้ว ชีวิตของคนรอบข้างของเราก็เปลี่ยนไปมาก ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดต่ำลงไปถึงขั้นใกล้ติดลบหรือติดลบก็ดี จำนวนคนตกงานที่เพิ่มมากขึ้นจนนับนิ้วไม่ถ้วนก็ดี การศึกษาเล่าเรียนตลอดจนการทำงานที่ต้องใช้ระบบออนไลน์ ซึ่งได้ผลไม่เต็มร้อยก็ดี วิถีชีวิตรายวันต้องทำอะไรเว้นระยะห่างจากกันก็ดี
สารพัด “ก็ดี” ที่ว่ามานี้ คนจำนวนมากรวมทั้งผมด้วยเห็นว่า “ไม่ดี” สักอย่าง
แต่ทั้งๆ ที่ใจไม่อยากรับความจริง ผมก็หนีความจริงไปไม่พ้น
เราทำได้ก็แต่เพียงปรับชีวิตตัวเราเองให้เข้ากับสถานการณ์ คนที่ตกงานก็ต้องหาอาชีพใหม่หรือหางานทำในแง่มุมที่ตัวเองไม่คุ้นเคยมาแต่ก่อน จากอาชีพนักบินเปลี่ยนมาเป็นอาชีพขับรถแท็กซี่ก็มีหลายคน ขอให้เป็นอาชีพสุจริตและพอมีรายได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เพียงนี้ก็เก่งมากแล้ว
ในขณะที่ปัจเจกบุคคลแต่ละรายต้องปรับตัว ระบบราชการตลอดถึงระบบการค้าขายของเอกชนหรือภาคธุรกิจก็ต้องปรับตัวอย่างเร็วและอย่างรุนแรงให้ทันท่วงทีกับความจำเป็นของเหตุการณ์ด้วย
ผมเป็นคนที่คุ้นเคยกับภาครัฐก็จะขอเล่าแต่เฉพาะส่วนที่ตัวเองคุ้นเคยนะครับ
ก่อนจะมีโรคโควิด-19 เกิดขึ้น เรามีกติกาของทางราชการเกี่ยวกับการประชุมออนไลน์แล้ว แต่ไม่เคยมีใครใช้ และไม่มีใครรู้ด้วยว่าถ้าใช้แล้วจะราบรื่นหรือมีปัญหาอย่างไรหรือไม่ ข้อหนึ่งของกติกาที่ว่านั้นกำหนดว่า การประชุมออนไลน์อย่างน้อยต้องมีกรรมการตัวจริงเสียงจริงอยู่ในห้องประชุมไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามขององค์ประชุม พอถึงเดือนมีนาคม 2563 ที่ทุกคนต้องหยุดอยู่กับบ้านช่วยชาติ เป็นเช่นนี้แล้วจะไปหาจำนวนหนึ่งในสามมาจากที่ไหน ตกลงเป็นอันว่าต้องแก้กฎหมายอย่างรวดเร็วให้ทันกับความจริงที่เกิดขึ้น
เวลานี้ประชุมออนไลน์และกรรมการทุกคนอยู่กับบ้านก็เป็นอันใช้ได้ ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด
กติกาเดิมขณะประชุมออนไลน์นั้นตัวตนแท้จริงก็ต้องอยู่ในประเทศนะครับ เวลานี้ประชุมข้ามประเทศก็ใช้ได้แล้วเหมือนกัน
การเบิกเบี้ยประชุมก็ต้องปรับ เจ้าหน้าที่การเงินอาลัยอาวรณ์มากกับการใช้เอกสารตัวจริงที่ต้องมีการลงนามในกระดาษด้วยน้ำหมึกสดๆ ต้องลงนามในกระดาษที่บันทึกว่ามาร่วมประชุมแล้ว และลงนามในกระดาษอีกหนึ่งแผ่นว่ารับเงินแล้วด้วย
กติกาจากกระทรวงการคลังในเรื่องนี้ก็ต้องเปลี่ยนให้ทันสมัย ฝ่ายเลขานุการใช้วิธีบันทึกภาพจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ประชุมนั่นเองเพื่อใช้เป็นหลักฐานว่าใครมาประชุมบ้าง เวลาประชุมจึงต้องเปิดจอให้เห็นหน้า จะทำเป็นความลับดำมืดไม่ได้
การลงชื่อในเอกสารรับเงินก็เปลี่ยนไปใช้วิธีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่ให้หมายเลขกันไว้ และสามารถตรวจสอบได้ว่ามีความถูกต้องแม่นยำ
ในภาคธุรกิจก็มีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่าง เพียงแต่ผมไม่สันทัดกรณีเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น เงินดิจิตอลที่เพิ่งพูดถึงไปเมื่อสัปดาห์ก่อน มาถึงสัปดาห์นี้ธนาคารแห่งประเทศไทยก็ลุกขึ้นมาตะโกนเสียงก้องแล้วว่าไม่สนับสนุนให้นำมาใช้ คนรู้น้อยอย่างผมก็ไม่ว่าอะไรครับ หลวงท่านว่าอย่างไรเราก็เชื่อท่านไว้ก่อนเป็นดี
หรืออีกตัวอย่างหนึ่งที่กำลังเป็นข่าวฮือฮา คือเรื่องการควบรวมกันของธุรกิจมือถือยักษ์ใหญ่สองราย ซึ่งเมื่อรวมกันเข้าแล้วมีคำถามเกิดขึ้นว่าจะมีผลกระทบต่อผู้ใช้บริการอย่างไร
ถามกันตรงๆ คือจะมีแง่มุมที่เป็นเรื่องการผูกขาดทางการค้าหรือไม่ นี่ก็เป็นความเปลี่ยนแปลงอีกอย่างหนึ่งที่กำลังเกิดขึ้นในชีวิตรายวันของเราในฐานะคนต้องใช้โทรศัพท์มือถือ
นอกจากความเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวัน ระบบราชการ หรืองานภาคธุรกิจแล้ว
อีกอย่างหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยยะสำคัญก็คือบรรยากาศทางการเมืองบ้านเรา และความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะพูดมากไปกว่านี้ก็ไม่จำเป็น เพราะเป็นของที่เห็นกันอยู่แล้ว ฮา!
คุยเรื่องโลกเรื่องบ้านเมืองมาแล้ว มาคุยเรื่องใกล้ตัวที่สุดคือเรื่องตัวเองบ้างครับ
นอกจากโรคที่สะสมไว้ประจำตัวมาแต่ดั้งเดิมคือโรคกรดไหลย้อนและโรคความดันโลหิตสูง (นิดหน่อย) ที่สามารถควบคุมด้วยการกินยาเป็นประจำทุกวันแล้ว สองสามปีนี้ผมได้โรคมาเพิ่มขึ้นอีกอย่างหนึ่ง โรคตา ประเดิมด้วยความรู้สึกว่ามีหยากไย่หมุนคว้างอยู่ในตาข้างขวา คุณหมอบอกว่าเป็นความเสื่อมธรรมดา อยู่ไปแล้วเราก็จะชินกับมันเอง แถมด้วยข้อมูลว่าผมเริ่มมีอาการเป็นต้อกระจก ต้องไปตรวจติดตามเป็นประจำทุกหกเดือน รอให้อาการที่ว่านี้บ่มตัวได้ที่แล้วค่อยนัดหมายผ่าตัดกัน
นอกนั้นก็เป็นอาการของคนแก่ธรรมดา เช่น เดินช้าลง อย่าทำอะไรผลีผลามผุบผับ จะนุ่งกางเกงก็ให้นั่งกับเก้าอี้ อย่าได้มีขณะจิตใดยืนขาเดียวเป็นนางสวาหะ ทำท่ายืนตีนเดียวเหนี่ยวกินลมเป็นอันขาด
เตือนตัวเองอยู่ทุกวันว่า ไม่รู้เลยว่าความตายจะมาถึงตัวเมื่อไหร่ อย่าไปคิดฟุ้งซ่านอยากจะทำนู่นทำนี่ หรือบงการชีวิตใครให้มากมาย
อย่าได้คิดวางแผนอะไร 20 ปีเป็นอันขาด แค่สามปียังวางแผนไม่ไหวเลย ปล่อยให้เป็นเรื่องที่หลานๆ ของผมเขาว่ากันเองดีกว่า
จริงไหมคุณหลาน อิอิ