บนสั่น-ล่างสะเทือน : หน้า8

เห็นตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว

หลายคนคงร้อนๆ หนาวๆ กัน

.

เพราะเท่าที่ประเมิน ผลประกอบการของทุกบริษัทน่าจะมีกำไรลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

บริษัทในตลาดหุ้นนั้นเปรียบเหมือนกับ “ยอดพีระมิด” ของเศรษฐกิจไทย

เป็นพื้นที่เดียวที่ไม่กระทบกระเทือนจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่

ตัวเลขผลกำไรเพิ่มขึ้นตลอด

ปี 2559 กำไรเติบโตขึ้นถึง 31%

ไตรมาสแรกของปีนี้ก็เพิ่มขึ้น 21%

แต่ตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 2 กลับลดลง

แสดงให้เห็นว่า “ยอดพีระมิด” ที่แข็งแกร่ง

ก็สั่นไหวได้เหมือนกัน

ส่วน “รากหญ้า” นั้นไม่ต้องห่วง

“กำลังซื้อ” หดหายลงไปเรื่อยๆ

ถ้าเป็นคนป่วยก็ถือว่าเป็นคนไข้ติดเตียงที่เป็น “แผลกดทับ” ไปแล้ว

เพราะนอนเตียงนานเหลือเกิน

วันนี้สถานการณ์เศรษฐกิจของคนกลุ่มนี้ก็ยังไม่ดีขึ้น

ล่าสุด ผู้บริหารปลากระป๋องไฮคิว ที่เจาะตลาดระดับล่าง ให้สัมภาษณ์ว่ายอดขายครึ่งปีแรกติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี

-3%

ที่สำคัญยอดขายผ่านช่องทางร้านค้าปลีกดั้งเดิมที่ถือเป็นช่องทางหลักในหมู่บ้าน

ลดลง 10%

คิดดูสิว่าขนาด “ปลากระป๋อง” ที่เป็นสินค้าอมตะนิรันดร์กาลยังสะเทือนเลย

เมื่อข้างบนสั่น-ข้างล่างสะเทือน

แล้วจากนี้จะเป็นอย่างไร

กลุ่มธุรกิจค้าปลีกก็ส่งสัญญาณชัด

ยอดขายในไตรมาส 2 ขยายตัวน้อยกว่าไตรมาสแรก

ค่ายเซ็นทรัลบอกเลยว่ายอดขายที่ดีอยู่ตอนนี้ก็มีใน กทม. และหัวเมืองใหญ่ที่เป็นเมืองท่องเที่ยว 2-3 แห่ง

ในต่างจังหวัดอยู่ในสถานการณ์ชะลอตัว เพราะกำลังซื้อหดหาย

แวดวงค้าปลีกคุยกันว่าไตรมาส 3 ยังมองไม่เห็น “ข่าวดี” เลย

ครึ่งปีหลังทุกค่ายจึงจะทุ่มโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมกันเต็มที่

“เทสโก้โลตัส” บอกเลยว่าต้องเล่น “ยาแรง” อย่างเดียว

ระดับซื้อ 1 แถม 1 ทุกสิ้นเดือน

เพื่อกระตุ้น “กำลังซื้อ”

จะได้ผลอย่างไรไม่รู้

แต่ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย