เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ /สัจจนิยามของความสุข

เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

สัจจนิยามของความสุข

มีภาษิตจีนว่าด้วยความสุข น่าขำและน่าคิดบทหนึ่งดังนี้

ถ้าต้องการมีความสุขสามชั่วโมงให้ซื้อเหล้ามาเลี้ยงกัน

ถ้าต้องการมีความสุขสามวันให้ฆ่าหมูมาเลี้ยงกัน

ถ้าต้องการมีความสุขสามเดือนให้แต่งงาน

ถ้าต้องการมีความสุขตลอดไปให้ปลูกต้นไม้

ความสุขสามข้อแรกจำกัดเรื่องเวลาคือสามชั่วโมง สามวัน และสามเดือน ส่วนข้อสี่ ไม่จำกัดเวลา

สามชั่วโมงให้ตั้งวงเหล้านั้น เห็นจะไม่ได้แล้วในสมัยนี้ นอกจากช่วงโควิดนี่ละกระมังที่กำหนดปิดร้านสามทุ่มนั่น

คอเหล้าเขาย่อมรู้ดีว่า รสชาติของสุรานั้นไม่สู้รสชาติของบรรยากาศการร่วมวงสังสันทน์เสวนาเหมือนที่โกวเล้ง ยอดนักประพันธ์นิยายกำลังภายในของจีนกล่าวว่า

ข้าพเจ้ามิได้ชมชอบรสของสุรา แต่ข้าพเจ้าชอบบรรยากาศของเพื่อนร่วมวงสุรามากกว่า

นั่นซี ก็ใครจะมานั่งจิบชาคุยกันได้เฮฮาตลอดคืนเหมือนวงสุราเล่า

ซึ่งเหมือนโวหารที่ว่า สุรานั้นแม้ราคาไม่สูง แต่ถ้ามีเพื่อนร่วมวงถูกใจ สุรานั้นก็เลิศรส

โกวเล้งเองนั้นสิ้นชีพเมื่ออายุแค่สามสิบแปด ก่อนตายสั่งเสียเพื่อนคู่หูดาราเอกชื่อหวังยู่ ให้เอาวิสกี้เอ๊กซ์โอสามสิบแปดขวดวางรอบร่างไว้ในโลงแล้วให้ชุบเหล้าวิสกี้ป้ายปากก่อนปิดฝาโลงด้วย

เท็จจริงไม่ประจักษ์นะ

แต่วาทะเด็ดของโกวเล้งกล่าวไว้ก่อนตายไม่กี่วันว่า

“เราอาศัยปากกาด้ามเดียวได้มาทุกสิ่งแม้สิ่งที่ไม่อยากได้ เราล้วนได้มาแล้ว นั่นคือความเปลี่ยวเหงา”

เพราะฉะนั้น สามชั่วโมงดูจะไม่พอแน่สำหรับวงสุรามิตร

 

ความสุขสามวันให้ฆ่าหมูมาเลี้ยงกันนี่ดูจะเป็นไปได้ โดยเฉพาะบรรยากาศงานมงคลต่างๆ ในชนบท เช่น งานขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น ดังคำพังเพยเก่าที่ว่า

“ไม่แน่ไม่แช่แป้ง”

คือแป้งทำขนมจีนที่ต้องแช่ข้าวสารในน้ำไว้ถึงสองสามวันก่อนวันงานเพื่อจะนำมาโม่เป็นแป้งแล้วหมักข้ามคืนตามกระบวนการขั้นตอน ก่อนจะโรยเป็นเส้นขนมจีนแล้วใช้มือ “จับ” แผ่เป็นแผ่นเรียงลงกระด้ง

งานอย่างนี้แหละที่ต้องตั้งโรงครัว ฆ่าหมูมาทำเป็นอาหารสารพัดเลี้ยงกัน ซึ่งต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าสามวันคือก่อนวันงาน วันงาน และหลังวันงาน

เดี๋ยวนี้เห็นจะไม่มีอีกแล้วกระมัง

 

ส่วนข้อที่ว่าอยากมีความสุขสามเดือนให้แต่งงานนั้น ข้อนี้เห็นจะไม่กล้ายืนยันเหมือนกัน อะไรมันจะใช้เวลาแค่สามเดือนจริงหรือ แค่พรรษาเดียวนี่นะ

ไอน์สไตน์ยอดนักวิทยาศาสตร์ของโลกเคยกล่าววาทะสัจจะไว้ว่า

“ผู้หญิงตัดสินใจแต่งงานกับผู้ชายเพราะเธอเชื่อว่าจะเปลี่ยนแปลงเขาได้ และผู้ชายตัดสินใจแต่งงานกับผู้หญิงเพราะเขาเชื่อว่าเธอจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่แล้วทั้งคู่ต่างก็ผิดหวัง”

ไม่รู้ว่าชั่วเวลาสามเดือนได้หรือเปล่า ที่เขาและเธอต่างประจักษ์ถึงสัจจวาทะของไอน์สไตน์ข้อนี้

สัจจวาทะอีกข้อที่ช่างเปรียบเปรยคือ

“สุรากับสตรีนั้นเหมือนกันตรงที่ทำให้เมา แต่ต่างกันตรงที่สุรานั้นก่อนเสพไม่เมา เสพแล้วจึงเมา ส่วนสตรีนั้นก่อนเสพจะเมา เสพแล้วก็เมา”

สองข้อของสัจจวาทะนี้กระมังที่ย้ำนิยามความสุขสามเดือนของการแต่งงานว่ามีความเป็นไปได้

ที่จริงความสุขของการแต่งงานนั้นมีสองประการคือ ความรักความเสน่หา กับความรักความผูกพันในชีวิตที่ร่วมกันอยู่เป็นครอบครัว

ความรักความผูกพันเป็นครอบครัวนั้นสำคัญนัก จะต้องใช้หลักปรัชญาวิทยาศาสตร์สังคมเรื่องความขัดแย้งที่เป็นเอกภาพ คือแม้จะกระทบกระทั่งทะเลาะเบาะแว้งกันก็ต้องพึงนึกไว้เสมอว่า เพื่อธำรงไว้ซึ่งความเป็นครอบครัว มิใช่เพื่อเอาชนะกันอันนำไปสู่ความล่มสลายของครอบครัว

เฉกเช่นเดียวกับวิกฤตการณ์วันนี้ที่ไม่พึงแยกมิตรแยกศัตรู เพียงเพราะด้วยเหตุแห่งความเห็นต่าง

 

สุดท้ายคืออยากมีความสุขตลอดไป ให้ปลูกต้นไม้นั้น ตรงนี้แยบคายนัก

ด้วยต้นไม้ในที่นี้นอกจากนำมาซึ่งความสุขอย่างเป็นรูปธรรม คือ น้ำพักน้ำแรงได้ปลูก ได้ดูแล ได้เห็นมันแต่เล็กจนเติบเป็นต้นเป็นลำโตขึ้นจนให้ดอกออกผลแล้วในเชิงนามธรรม ต้นไม้เป็นสัญลักษณ์ของสิ่งแวดล้อมชีวิตซึ่งกำหนดความเป็นชีวิตของเราโดยตรง

ต้นไม้ให้ร่มให้เย็น ให้ดอกให้ผล สมคติจีนอีกบทที่ว่า

“หวังผลอย่าเด็ดดอก”

ด้วยดอกย่อมออกเป็นเมล็ดเป็นผลงอกต้นใหม่เสมอไป สมคติที่ว่า “ไม่ตัดต้นไม้ก็ไม่ต้องปลูกต้นไม้”

ท่านอาจารย์พุทธทาสให้คติธรรมว่า

“ตัดป่าแต่อย่าตัดต้นไม้”

โดยเฉพาะประเทศไทยเรานั้นมีแผ่นดินอุดมสมบูรณ์แทบจะว่าที่สุดในโลก แต่เราหาได้ใส่ใจเท่าที่ควรไม่ เราไม่ตระหนักรู้ว่าเราอยู่ในภูมิศาสตร์ใกล้เส้นศูนย์สูตรซึ่งพื้นที่ลักษณะนี้มีแค่เจ็ดเปอร์เซ็นต์ของพื้นที่โลก แต่พื้นที่เจ็ดเปอร์เซ็นต์นี้ผลิตทรัพยากรได้ถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของทรัพยากรในโลก

และเราเป็นหนึ่งในแผ่นดินอันทรงค่าสูงสุดนี้

แถวต้นยางยักษ์ขนาบถนนสายเชียงใหม่-ลำพูนนั้น ใครไม่เคยเห็นควรได้ไปเห็นสักครั้งหนึ่งในชีวิตจะรู้ว่านี่เป็นหนึ่งในถนนสายมหัศจรรย์ของโลก

มีความสุขแค่ได้ผ่านพบต้นไม้มหึมามหัศจรรย์ยิ่ง

ขอบคุณผู้ปลูกแม้จะผ่านไปเป็นร้อยปี

ร่มเงาแห่งความสุข ยังตระหง่านถึงวันนี้

 

ความสุข

 

ภาษิตจีนกล่าวชัดเป็นสัจจะ

ถึงภาวะความสุขมี สี่สถาน

อยากมีสุขสามชั่วโมงโดยประมาณ

ให้ตั้งวงสุราบาล เลี้ยงเพื่อนพ้อง

 

อยากมีสุขโยงยามสักสามวัน

ให้ฆ่าหมูมาหัน ประชันฉลอง

แจกญาติมิตรมาเยือนเพื่อนพี่น้อง

ทุกเรือนชานบ้านช่องร่วมชื่นชม

 

อยากมีสุขสามเดือน บันดลดาล

ให้แต่งงานมีคู่ร่วมสู่สม

สามสุขสามยามยืน รื่นเริงรมย์

คือคตินิยม สุขสมบูรณ์

 

อยากมีสุขเยี่ยมยอดตลอดไป

จงปลูกต้นไม้ให้ ไม่สิ้นสูญ

ไม้จะเติมสุขให้ ได้เพิ่มพูน

ดอกผลมีทวีคูณ ไม่ขาดแคลน

 

สุขนิยมสมบูรณ์ ร่วมคูณค้ำ

ทั้งทางโลกทางธรรม ล้วนส่ำแสน

เถิดสร้างไทยเป็นสถานพิมานแมน

เอกอุดมสมแดน แผ่นดินทอง ฯ

เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์