เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าการปรากฏขึ้นของ “แผนกรกฎ 52″ ไม่ว่าการปรากฏขึ้นของการเลือกตั้งส.ส.แบบ”แยกเบอร์”
มาจาก “มูลเชื้อ” และ “รากฐาน” เดียวกัน
แม้ว่า “แผนกรกฎ 52” จะบริหารจัดการจากสถานการณ์ในวันที่ 25 สิงหาคม บริเวณหน้าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ที่ประเมินว่าอาจมี “มวลชน” ไปให้ “กำลังใจ” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
แม้ว่าการเลือกตั้งแบบ “แยกเบอร์” จะเป็นอีกบาทก้าว 1 ต่อจากระบบ “ไพรมารีโหวต” และเป็นอีกบาทก้าว 1 ของกระบวนการเลือกตั้ง ส.ส.
แต่ทั้งหมดก็ล้วนแต่มาจาก “ความกลัว”
เป็นความกลัวเหมือนๆกับที่ขุนพลนักพูดแห่ง “พันธมิตร” ปลุกระดมก่อนรัฐประหารเดือนกันยายน 2549
เพียงแต่เป้าตอนนั้นคือ “ไทยรักไทย”
เป็นความกลัวเหมือนๆกับที่ขุนพลนักพูดแห่ง “กปปส.” ปลุกระดมก่อนรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557
เพียงแต่เป้าตอนนั้นคือ “เพื่อไทย”
ความกลัวนั้นเองทำให้ต้องงัด “แผนกรกฎ 52” ขึ้นมาและเริ่มต้นที่ นายวัฒนา เมืองสุข
เข้าทำนอง “เชือดไก่” ให้ “มวลชน” สยอง
ความกลัวนั้นเองทำให้ต้องร่างกฎหมายลูกมิให้กระบวนการเลือกตั้งดำเนินไปอย่างตรงไปตรงมา หากแต่หกคะเมนตีลังกาอย่างวิลิศมาหรา
ก่อให้เกิด “ความเซ็ง” แล้ว “ปกครอง”
ความกลัว “ไทยรักไทย” จึงนำไปสู่กระบวนการรัฐประหารเมื่อเดือน กันยายน 2549
ยึดอำนาจแล้วก็ยังขนหัวลุก
ความกลั้ว “เพื่อไทย” จึงนำไปสู่กระบวนการรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
ยึดอำนาจแล้วก็ยังขนหัวลุก
ร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ออกมาแล้วก็ยัง “เสียของ” จึงต้องร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ออกมาอีก
แต่ก็ยังตกอยู่ในอาการขนหัวลุกเหมือนเดิม