จดหมาย/ฉบับประจำวันที่ 22-28 ตุลาคม 2564

จดหมาย

“เสี่ยง” เปิดประเทศ

จากการที่รัฐบาลมีนโยบาย “เปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว”

แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องเดินทางมาจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ

และต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว

ถือเป็นความเสี่ยงที่ท้าทายมาก

เนื่องจากจำนวนประชากรคนไทยที่ได้รับการฉีดวัคซีนทั่วประเทศแล้วนั้น

ยังมีจำนวนตัวเลขเพียงแค่ 50 กว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ซึ่งผลสำรวจจากสวนดุสิตโพล พบว่า ประชาชนร้อยละ 60.10 คิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว

แต่รัฐบาลมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อที่จะให้ประเทศชาติเดินต่อไปข้างหน้าให้ได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีค่า GDP ที่สูงขึ้น

แน่นอนว่าเมื่อการเปิดประเทศเกิดขึ้นจริง

ธุรกิจทุกภาคส่วนย่อมต้องมีการขับเคลื่อนไปข้างหน้าซึ่งต้องใช้แรงงานคนมากขึ้น อาจมีการลักลอบเข้าเมืองของคนต่างด้าวที่ผิดกฎหมายได้

รัฐบาลควรทำให้คนเหล่านี้ถูกกฎหมายเพื่อที่จะได้รับการฉีดวัคซีนจากภาครัฐ เพื่อความปลอดภัยของแรงงานต่างด้าวและประชาชนภายในชาติของเราด้วยเช่นเดียวกัน

อาจารย์วัลลภ ห่างไธสง

รองคณบดี โรงเรียนกฎหมายเเละการเมือง

มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

 

ถือเป็นข้อเสนอแนะที่รัฐบาลควรรับฟัง

เพื่อหาทางป้องกัน

และทำให้การเปิดประเทศที่ “เสี่ยง” อยู่แล้ว

ควรเสี่ยงน้อยที่สุด

อนึ่ง ข้อเสนอนี้ เป็นผลจากการสำรวจของสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

ซึ่งนางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

สรุปไว้ดังนี้

ความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี “เปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน 2564”

กลุ่มตัวอย่าง 1,392 คน สำรวจระหว่างวันที่ 11-14 ตุลาคม 2564

พบว่า ประชาชนมองว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว ร้อยละ 60.10

ปัจจัยที่จะทำให้เปิดประเทศได้ คือ ต้องฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพให้กับประชาชนได้เกิน 70% ร้อยละ 74.78

และมองว่าข้อจำกัดคือ ประชาชนยังไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วน ร้อยละ 71.60

ผลดีของการเปิดประเทศคือ กระตุ้นเศรษฐกิจ ร้อยละ 77.29

ผลเสียคือ อาจเกิดการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น ร้อยละ 83.43

ภาพรวมประชาชนไม่เห็นด้วยกับการเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 59.86

จากผลการสำรวจเมื่อพิจารณากลุ่มตัวอย่างจำแนกรายอาชีพ

พบว่า กลุ่มอาชีพประกอบธุรกิจเห็นด้วยกับการเปิดประเทศมากที่สุด รองลงมาคือกลุ่มรับจ้าง/ลูกจ้าง

ถึงแม้ว่าจะกังวลเรื่องการติดเชื้อใหม่ แต่ก็คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเกิดการจ้างงานมากขึ้น สร้างความหวังที่จะลืมตาอ้าปากได้

ดังนั้น รัฐบาลจึงควรมีมาตรการรองรับที่ชัดเจน สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั้งด้านสุขภาพและการฟื้นฟูเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กัน

 

สงสัย “กรณีสุชาติ”

“สุชาติ สวัสดิ์ศรี”

เป็นกวีและนักเขียน

อีกนักแปลชั้นเซียน

ให้วงวรรณนั้นฮือฮา

 

นามปากกาของท่าน

อลังการเนิ่นนานมา

“สิงห์ สนามหลวง” ลือชา

ประมาณกว่า 50 ปี

 

ผลงาน “โลกหนังสือ”

ผู้คนถือเป็นคัมภีร์

ให้ความรู้อย่างดี

เชิงถาม-ตอบมอบปัญญา

 

ประวัติวรรณกรรม

นอก-ในนำมาพรรณนา

เขียนให้รู้ซึ้งว่า

ความเป็นมานั้นอย่างไร

 

ได้เป็น “ศิลปิน-

แห่งชาติ” สิ้นข้อสงสัย

แต่น่าอนาถใจ

ถูก “ถอด” ไปแล้ววันนี้

 

ข้อหาพูดความจริง

คอยติดติงไม่ปรานี

ต่อรัฐบาลที่

บี้บีฑาประชาชน

 

“กระทรวงวัฒน-

ธรรม” ไม่ละ ไวเหลือทน

เพื่อถอน “สุชาติ” พ้น

“ศิลปินแห่งชาติ” พลัน

 

(โว้ย) ประชาธิปไตย

แม่ง…ชวนให้สงสัยครัน

ในยุค “ประยุทธ์” นั้น

ความหมายมันอะไรวะ

สมโชค พลรักษ์

 

“สุชาติ สวัสดิ์ศรี” ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง

กรณีถูกถอดถอนจาก “ศิลปินแห่งชาติ” แล้ว

รอเฝ้าติดตามกันต่อไป

จะคลายข้อสงสัย

อย่างที่ “สมโชค พลรักษ์” และคนอีกจำนวนมาก

สงสัยหรือไม่!?!