หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๙๘)/บทความพิเศษ ฟ้า พูลวรลักษณ์

ฟ้า พูลวรลักษณ์

บทความพิเศษ

ฟ้า พูลวรลักษณ์

 

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๙๘)

 

ฉันได้ยินบทความที่กล่าวว่า การระลึกชาติได้ เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้พิสูจน์แล้ว

ฉันคิดว่านี่เป็นการเข้าใจผิด ประสบการณ์แตกต่างกับการพิสูจน์ในวิทยาศาสตร์

ตัวฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าชาติภพมีจริงไหม คนเราตายแล้วเกิดใหม่จริงไหม

ฉันรู้แต่ว่า ความคิดของพระพุทธเจ้ามีเหตุผล แต่ไม่ใช่การพิสูจน์

มันต่างกัน

บทพิสูจน์ในวิทยาศาสตร์ จะต้องทำได้อีก จากทุกคนในห้องทดลอง ที่มีเครื่องมือเพียงพอ

ประสบการณ์จะลึกซึ้งปานใดก็ไม่ใช่การพิสูจน์

มันเป็นคนละเรื่องกันเลย

ทฤษฎีของไอน์สไตน์ก็ยังมีการพิสูจน์ซ้ำอยู่อีกเรื่อยๆ เนื่องจากทฤษฎีสัมพัทธภาพเป็นทฤษฎีที่ยาก และบ่งบอกเนื้อความกว้างใหญ่ระดับจักรวาล มันจึงต้องพิสูจน์ซ้ำ ทันทีที่หาเงื่อนไขเพียงพอได้ เช่น การสังเกตการเดินทางของแสงในอวกาศ การหักเหของแสงที่มากระทบดาวฤกษ์

การพิสูจน์สิ่งเหล่านี้ ยากมาก ต้องมีเครื่องมือระดับสูง

แต่ที่น่าทึ่งคือ คำตอบออกมา คือมันใช่

แต่แม้กระนั้น ก็ยังไม่หมดทีเดียว ยังมีปริศนาที่ซ่อนอยู่ในจักรวาล

เรื่องชาติภพ ยังไม่มีเครื่องมือใดไปพิสูจน์มันได้ มีแต่ประสบการณ์

 

ตัวฉันเองก็เป็นนักวิทยาศาสตร์ไม่ได้ หรือเป็นได้ก็ไม่ดี เพราะยกตัวอย่างง่ายๆ หากฉันเข้าห้องทดลอง แล้วต้องทดลองกับกระต่าย หรือหนู หรือแม้แต่กับยุง ฉันก็รู้สึกสังเวชใจ การใช้ชีวิตสัตว์นับหมื่น นับแสน กับการพิสูจน์ข้อมูลเพียงไม่กี่บรรทัด ฉันทำใจได้ยาก

ฉันชื่นชมการพิสูจน์ แต่ฉันไม่ใช่คนหลงใหลในวิทยาศาสตร์ ครึ่งหนึ่งในสมองของฉันยังเห็นว่า วิทยาศาสตร์จะนำพามนุษย์ไปสู่หายนะ เราต้องแยกแต่ละส่วนออกจากกัน

ฉันอาจมีความเป็นเต๋ามากเกินไป เกินกว่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ ได้แต่มอง

ตัวการพิสูจน์เอง อาจน่าเกลียด แต่ผลที่ออกมา งดงาม

มันเป็นความขัดแย้งที่ทรมานใจฉัน เพราะตัวฉันเองก็เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ดีไม่ได้ ด้วยฉันมีความรู้สึกกลัว สงสาร สังเวช

แต่ว่าบทพิสูจน์นี้ มหัศจรรย์ มันไม่เหมือนอะไรเลย

ถ้าจะพูดให้ตรงที่สุดคือ แม้แต่พระพุทธเจ้าก็อย่ามาตู่

 

สองพันกว่าปีก่อน จะหาคนที่มีเหตุผลอย่างพระพุทธเจ้า ยากจะหาได้ เรียกว่า มีเหตุผลเหนือกว่าคนทั้งปวง และวิทยาศาสตร์ในยุคนั้น ก็ยังเป็นแค่ยุคเริ่มต้น ท่านเกิดก่อนอาร์คิมีดิสถึงสามร้อยกว่าปี ที่จริงแล้ว วิทยาศาสตร์ในโลกยุคนั้นยังเป็นทารกอยู่เลย

๑๐

คนจำนวนมากที่นับถือพุทธศาสนา ยังยืนยันเด็ดขาดว่า ท่านได้พิสูจน์แล้ว ฉันจะบอกว่า ท่านยังไม่ได้พิสูจน์ ท่านเพียงอธิบายด้วยเหตุผล และยืนยันด้วยประสบการณ์ และยังมีประสบการณ์ของพระเถระจำนวนมากมาสนับสนุน แต่ก็หยุดแค่นี้ เพราะมันเป็นประสบการณ์ คุณจะเชื่อหรือไม่ ก็แล้วแต่ อื่นไกล เป็นเรื่องของชาวโลกที่ต้องไปคิดต่อ หากมีใครเก่ง ก็ไปพิสูจน์กันเอง

๑๑

หากเรานับถือพระพุทธเจ้า รวมทั้งพระเถระเหล่านั้น เราสามารถกล่าวได้ว่า สิ่งนี้เหนือกว่าการพิสูจน์ เพราะประสบการณ์ของบุคคลเหล่านั้น มีคุณค่าเพียงพอแล้ว หรือเหนือกว่าความเพียงพอ มวลอรหันต์เหล่านั้น ไม่สามารถจะโกหก จะโกหกไปทำไม แต่อย่าลืมว่า เราอาจไม่นับถือพระพุทธเจ้าก็ได้ อาจไม่ยอมรับในเถระเหล่านั้น

ทีนี้ทำยังไง

 

๑๒

นี้เองที่เรียกว่า เหนือกว่าการพิสูจน์

แต่มันก็ไม่ใช่การพิสูจน์

ฉันยังมองไม่เห็นทางใดที่จะพิสูจน์ชาติภพได้เลย

๑๓

ต่อให้เจอคนระลึกชาติได้เป็นพัน ก็ไม่ได้พิสูจน์ เพราะพวกมันล้วนเป็นประสบการณ์ ต่อให้ทุกคนพูดจริงสักเพียงไหน นี้คือความละเอียดอ่อนของการพิสูจน์

ฉันไม่ได้ว่าวิทยาศาสตร์เหนือกว่าพุทธศาสนา ฉันเพียงบอกว่า มันแตกต่างกัน

เราอย่าตู่

๑๔

หากชาติภพเป็นสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้โดยตัวมันเอง หมายถึงต่อให้พยายามเท่าไรก็ไร้ผล มันก็เป็นดั่งนั้น ใครอยากรู้ก็ต้องไปแสวงหาเอาเอง

ใครที่อยากรู้ ก็ต้องไปบวช

ถ้าไม่บวช ก็ต้องไปปฏิบัติธรรมจนกว่าจะรู้แจ้ง

 

๑๕

โดยส่วนตัวฉัน ฉันยังไม่อยากรู้ขนาดนั้น มันน่าสนใจ แต่ไม่น่าสนใจถึงที่สุด แต่ทว่าฉันเคยถามตัวเอง ยังมีทางออกที่ดีเกือบเป็นการพิสูจน์ เช่น คนระลึกชาติได้ ทำไมเขาไม่มาให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ และให้ชนรุ่นหลังค้นคว้า เปรียบเทียบได้ เช่น คนที่ระลึกชาติได้ว่าเคยเกิดในสมัยหนึ่งพันปีก่อน เขามีโอกาสมากมายที่จะเล่าภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ อักษรศาสตร์ ประเพณี การแต่งกาย เรื่องราวมากมายในหนึ่งพันปีก่อน ที่สามารถทำให้เราตื่นตะลึงได้ มีข้อมูลเล็กๆ บางอย่าง ที่ดีเกือบเท่าการพิสูจน์

๑๖

ฉันไม่เคยได้ยินเลย ฉันได้ยินแต่ข้อมูลที่เลือนราง จิตเองก็เลือนรางพอแล้ว ยังมีข้อมูลที่เลือนรางอีก

อย่างมาร์โคโปโล อาจเล่าเรื่องราวเหลือเชื่อมากมาย แต่ในที่สุด จากการเปรียบเทียบข้อมูล ทำให้เรารู้ว่าเขาเคยไปเมืองจีนจริงๆ และทำให้เราเข้าใจเมืองจีนมากขึ้น ประสบการณ์ของเขามีความหมายมากกว่าราคาคุย

๑๗

บางคนคุยว่า ชาติก่อนเขาเคยเกิดเป็นลิง ฉันยังไม่รู้เลยว่าลิงคิดยังไง หรือเคยเกิดเป็นสิงโต นั่นยิ่งเข้าใจได้ยาก เพราะโดยหลักวิทยาศาสตร์ ลิงผ่านการทดสอบ face-mark test ซึ่งเป็นการทดสอบต่อหน้ากระจกเงา แสดงให้เห็นว่าลิงมีความรู้สึกถึงการมีตัวตน แต่ทว่า สิงโตยังไม่ผ่านการทดสอบนี้เลย หรือพูดอีกที เรายังไม่รู้เลยว่า สิงโตรู้ตัวไหมว่ามีตัวมันอยู่ในโลก

๑๘

แต่หากชาติภพมีจริง มันก็คงมีหลายมิติ ซึ่งยากเกินกว่าที่ฉันจะเข้าใจได้ ฉันจึงไม่กล้าบอกว่าสิ่งนี้ไม่มีจริง

ฉันเพียงบอกว่า มันยังไม่ได้พิสูจน์